นักร้องผิวดำเป็นที่นิยมในชุมชนชาวเขมร หลังออกผลงาน “แรพด้วยภาษาขแมร์”

ภาพจากมิวสิควิดีโอเพลง She Knows โดย C Crave

ซี เครฟ (C Crave) ศิลปินแรพอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันสร้างอัตลักษณ์ที่แตกต่างในงานของตนเองด้วยการผสมผสานทั้งเนื้อหา และภาษาของชนกลุ่มน้อยจากกัมพูชาในสหรัฐฯ ด้วยความผูกพันที่ตนเติบโตมาในชุมชนชาวกัมพูชาในแคลิฟอร์เนีย

เพลงที่ได้รับความนิยมของ ซี เครฟ อย่างเพลง “Khmer Rap” เริ่มต้นด้วยการบรรยายถึงเหตุการณ์ปฏิวัติโดยเขมรแดง เพื่อขจัดรากฐานวัฒนธรรมเดิมของชาวเขมรทำให้ชาวเขมรจำนวนมากต้องลี้ภัยไปยังต่างแดน แต่วัฒนธรรมเขมรยังคงเหลือรอดและมีอิทธิพลต่อตัวเขาที่เรียกตัวเองว่า “ซี เครฟ” นั่นเอง

Advertisement

รายงานของพนมเปญโพสต์กล่าวว่า ซี เครฟ เป็นชาวแอฟริกันอเมริกันมีชื่อเดิมว่า คริสโตเฟอร์ เครเวนส์ (Christopher Cravens) ผู้ไม่เคยเดินทางมายังกัมพูชา แต่เว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับชาวขแมร์อเมริกันได้ยกให้เขาเป็น “แรพเปอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในชุมชนขแมร์อเมริกา”

เขาเติบโตมาในย่านสตอกตันทางตะวันตกเฉียงเหนือของลองบีช ในวัยเด็กเขาใช้ชีวิตท่ามกลางเพื่อนบ้านที่เป็นชาวเขมรอพยพ มีเพื่อนเป็นชาวเขมรหลายคน และเรียนรู้ที่จะพูดภาษาเขมรได้ และยังได้รับการเลี้ยงดูโดยชาวเขมรอเมริกันเป็นเวลาสองสามปี

“ผมเป็นคนดำร้อยเปอร์เซนต์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับวัฒนธรรม (เขมร) เพราะนั้นคือสิ่งแวดล้อมที่ผมเติบโตขึ้นมา” นักร้องผิวดำกล่าว

เพลงหลายเพลงของซี เครฟ ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามักกล่าวถึงกัมพูชา เพลงที่เพิ่งเผยแพร่อย่าง “She Knows” แม้จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่มิวสิควิดีโอก็มีหัวใจหลักอยู่ที่พิธีแต่งงานแบบเขมรซึ่ง ซี เครฟ แสดงเป็นเจ้าบ่าวด้วย ส่วนเพลง “Whats Under That Sarong?” (นั่นอะไรอยู่ใต้โสร่ง?) ก็เป็นเพลงที่เชื่อมโยงกับเครื่องแต่งกายของชาวเขมร

สื่อเขมรระบุว่า ซี เครฟ ไม่ได้พูดภาษาเขมรได้อย่างคล่องแคล่ว และไม่เคยนำภาษาเขมรมาใส่ในเพลงของเขามาก่อน จนกระทั่งมองเห็นโอกาสว่ามันน่าจะช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับงานของเขาได้

“ในฐานะเอนเตอร์เทนเนอร์ คุณต้องคอยหาอะไรมาสร้างความแตกต่างจากคนอื่นอยู่เสมอ” ซี เครฟ กล่าว ขณะเดียวกันเขาก็ถูกวิจารณ์ว่าตัวเขาไม่ใช่คนเขมร ควรเลิกทำตัวเป็นคนเขมรเสียที แต่เขาตอบกลับมาว่า “คนที่พูดแบบนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนเขมรเอง”

งานของซี เครฟ ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตัวเขาเองเพียงลำพังแต่ยังได้ชาวเขมรพลัดถิ่นอีกหลายคนช่วยส่งเสริม โดยมีผู้สนใจงานของเขาที่เผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากผลงานเพลงแล้วเขายังมักเผยแพร่บันทึกวิดีโอมุกตลกสองภาษาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติอีกด้วย