สวีเดนประกาศให้ “ฮีโร่สงคราม” ตายอย่างเป็นทางการ หลังหายตัวนับแต่ถูกโซเวียตจับกุม

ญาติถือภาพถ่ายของ Raoul Wallenberg เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2015 (AFP PHOTO / JONATHAN NACKSTRAND)

Raoul Wallenberg นักการทูตชาวสวีเดนผู้ช่วยเหลือชาวยิวเชื้อสายฮังการีหลายพันคนให้รอดพ้นจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยพวกนาซีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกสำนักงานภาษีแห่งสวีเดนประกาศให้เป็นผู้เสียชีวิตแล้ว หลังเขาถูกจับกุมโดยกองทัพโซเวียตในฮังการีเมื่อปี 1945 ก่อนหายตัวไปอย่างลึกลับ

Wallenberg ได้ช่วยเหลือชาวยิวด้วยการให้ที่พักพิงแก่ชาวยิวจำนวนมากในอาคารที่อยู่ในความครอบครองของรัฐบาลสวีเดน และประเทศที่เป็นกลางอื่นๆ แต่เมื่อกองทัพโซเวียตเข้ามาปลดปล่อยฮังการีจากการยึดครองของนาซี เขาก็ถูกจับกุมฐานเป็นสายลับ

รายงานของนิวยอร์กไทม์กล่าวว่า เป็นที่เชื่อกันอย่างแพร่หลายว่า Wallenberg ถูกโซเวียตฆ่าตาย แต่บันทึกอย่างเป็นทางการของโซเวียตที่เปิดเผยเมื่อปี 1957 ระบุว่า เขาเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายในวันที่ 17 กรกฎาคม 1947 อย่างไรก็ดี คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อถือบันทึกดังกล่าวของโซเวียต และยังมีรายงานว่า นักโทษที่ถูกโซเวียตปล่อยตัวหลายคนอ้างว่า ยังพบ Wallenberg มีชีวิตอยู่ในเรือนจำในปี 1951, 1959 และล่าสุดถึงปี 1975

หลังการล่มสลายของโซเวียต ได้มีการร่วมมือระหว่างสวีเดนและรัสเซียในการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวจนเสร็จสิ้นเมื่อปี 2000 ซึ่งมีการอ้างหลักฐานที่ชี้ว่า Wallenberg น่าจะถูกประหารในเรือนจำ Lubyanka แต่รายงานก็ไม่ได้สรุปผลแน่ชัด จนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Ivan A. Serov อดีตผ..ของ KGB ได้ออกบันทึกความทรงจำออกมา โดยระบุอย่างชัดเจนว่า Wallenberg ถูกประหาร

เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ครอบครัวของ Wallenberg ตัดสินใจเรียกร้องให้สำนักงานภาษีของสวีเดนประกาศให้ Wallenberg ถึงแก่ความตายอย่างเป็นทางการ พร้อมขอให้ออกใบมรณบัตรซึ่งเป็นเอกสารจำเป็นในการจัดการทรัพย์สินของผู้ตาย

ล่าสุด ทางสำนักงานภาษีของสวีเดนได้วินิจฉัยให้ Wallenberg หายตัวไปในวันที่ 31 กรกฎาคม 1947 ซึ่งตามกฎหมายของสวีเดนการประกาศให้บุคคลสูญหายถึงแก่ความตายอย่างเป็นทางการต้องนับถึงวันครบรอบ 5 ปี นับแต่วันสูญหาย กรณีของ Wallenberg จึงถือว่าเขาถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 1952