เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สงครามเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนจำนวนมากไปอย่างสิ้นเชิง สำหรับผู้ที่ยังมีลมหายใจเหลือรอดจากสงคราม บางรายยังต้องใช้ชีวิตโดยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบอยู่ แต่สำหรับบางรายอาจโชคดีที่อย่างน้อยได้มีโอกาสกลับไปสัมผัสกับความทรงจำเกี่ยวกับความรักในวัยหนุ่มอีกครั้ง อย่างกรณีของเคที ร็อบบินส์ ทหารผ่านศึกที่เคยร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 97 ปีแล้ว แต่โชคดีที่เขามีโอกาสพบกับผู้หญิงที่เขาเคยหลงรักด้วยในวัยหนุ่มอีกครั้งหลังจากเวลาล่วงเลยมาถึง 75 ปีแล้ว

เคที ร็อบบินส์ (KT Robbins) อดีตทหารชาวอเมริกันผู้ผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันอยู่ในวัย 97 ปีแล้ว และเป็นหนึ่งในกลุ่มทหารที่เพิ่งร่วมรำลึกครบรอบ 75 ปี การยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส หรือวัน D-day ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์อันนำมาสู่การปลดปล่อยยุโรปจากการครอบครองของนาซีเยอรมันและจบลงด้วยชัยชนะ เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นที่เล่าขานถึงวีรกรรมของกลุ่มทหารมากมาย รวมถึงการวางแผนของนายพล ดไวท์ ดี. ไอเซนฮาว

รายงานข่าวจากสำนักข่าว France 24 (France 2) ในฝรั่งเศส เผยว่า ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ร็อบบินส์ อยู่ในวัย 24 ปีและประจำการอยู่ใน Briey เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1944 ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งเขาพบกับจีนนี (Jeannine Ganaye) หญิงสาวฝรั่งเศสในวัย 18 ปีและรู้สึกตกหลุมรักเธอ

รายงานข่าวเผยว่า ช่วงเวลานั้นร็อบบินส์ กำลังหาคนช่วยทำความสะอาดเครื่องแต่งกายของเขา และแม่ของหญิงสาวรายนั้นก็ยินดีช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่นานร็อบบินส์ และจีนนี ทำความรู้จักกันและเริ่มถูกคอกันจนเรียกได้ว่า “ตกหลุมรัก” ก็ว่าได้ แต่ 2 เดือนต่อมา ร็อบบินส์ ได้รับแจ้งว่าเขาต้องเดินทางออกจากหมู่บ้านไปยังแนวรบด้านตะวันออกเพื่อต่อสู้กับฝ่ายอักษะ

“ผมบอกกับเธอว่า ผมจะกลับมาเพื่อมารับเธอ แต่เรื่องไม่ได้ลงเอยแบบนั้น” ร็อบบินส์ ในวัย 97 ปีให้สัมภาษณ์กับสื่อฝรั่งเศส

ขณะที่จีนนี ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนนามสกุลเป็น เพียร์สัน (Pierson) เล่าว่า เมื่อเห็นร็อบบินส์ ขึ้นรถจากไปก็ร้องไห้ และรู้สึกเศร้ามาก เธอหวังว่า หลังสงครามจบลง ร็อบบินส์ จะไม่ต้องเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา กระทั่งปี 1945 ที่สงครามสิ้นสุดลง เธอเริ่มเรียนภาษาอังกฤษขั้นต้นเพราะหวังว่าร็อบบินส์ จะกลับมา

อย่างไรก็ตาม ร็อบบินส์ ซึ่งสมัครเป็นทหารในสังกัดกรมทหารราบที่ 26 เมื่อปี 1940 เดินทางกลับสหรัฐฯ ในเวลาต่อมา และได้แต่งงานกับลิเลียน อยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยานานถึง 70 ปี ทั้งคู่ทำงานด้วยกันในร้านขายเครื่องมือแห่งหนึ่งในรัฐมิสซิสซิปปี ยาวนาน 50 ปี ลิเลียน เสียชีวิตเมื่อค.ศ. 2015 ในวัย 92 ปี ส่วนเพียร์สัน แต่งงานในปี 1949 และมีลูก 5 คน

รายงานข่าวเผยว่า ร็อบบินส์ ไม่เคยลืมเลือนความรักกับชาวฝรั่งเศส เขาเก็บภาพถ่ายขาวดำที่อ้างว่าเป็นภาพของเพียร์สัน และภาพถ่ายบรรยากาศเมืองที่เขาประจำการมาจนถึงปัจจุบัน

ร็อบบินส์ นำภาพนี้มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศสดูระหว่างให้สัมภาษณ์ประกอบรายงานครบรอบ 75 ปีการศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารผ่านศึกวัย 97 ปีรายนี้เปรยระหว่างอยู่ในฝรั่งเศสเพื่อร่วมรำลึกครบครบ 75 ปีวันยกพลขึ้นบกว่า เขาหวังว่าจะเดินทางกลับไปหมู่บ้านแห่งนี้สักวันหนึ่งเพื่อค้นหาครอบครัวของเธอ แต่เขาเชื่อว่าเธออาจจากไปก่อนแล้ว และคงไม่มีโอกาสได้พบเธอ

แต่ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว France 24 อ้างว่าสามารถค้นหาตัวจีนนี จนพบเนื่องจากมีข้อมูลทั้งชื่อบุคคลและชื่อเมือง รายงานข่าวเผยว่า ทีมข่าวพบเธอในบ้านพักผู้อยู่ในวัยเกษียณที่ Montigny-lès-Metz, Moselle ห่างจากจุดที่ทั้งคู่พบกันเมื่อหลายสิบปีก่อนประมาณ 27 ไมล์ และนัดหมายให้ทั้งคู่มาพบกัน

ทันทีที่ทั้งคู่พบหน้าอีกครั้งก็ต่างเข้าสวมกอดกัน โดยร็อบบินส์ กล่าวว่า “ผมรักคุณเสมอมา คุณอยู่ในใจผมเสมอ” ร็อบบินส์ ยังหยิบรูปถ่ายที่อ้างว่าเป็นรูปของจีนนี ออกมาแสดงด้วย

ระหว่างการพบกัน จีนนี ถามว่า ทำไมร็อบบินส์ ไม่กลับมาพบกับเธอให้เร็วกว่านี้ พร้อมเอ่ยว่า เธอเองก็นึกถึงเขาเสมอ และคิดว่าสักวันหนึ่งเขาจะกลับมา

“คุณรู้ไหม เมื่อคุณแต่งงานแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว” ร็อบบินส์ กล่าว

(อ่านเพิ่มเติม : ข้อเท็จจริงที่ทำให้ไทย “ไม่แพ้” ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะไทย เพราะนโยบายสหรัฐ?

อ่านเพิ่มเติม : สงครามโลกครั้งที่ 2 อาจไม่จบ หาก “รัฐประหาร” สำเร็จ ก่อนการประกาศยอมแพ้ของจักรพรรดิ)

รายงานข่าวเผยว่า ทั้งคู่สนทนากัน 2-3 ชั่วโมงก่อนที่ร็อบบินส์ จะจากไปเพราะต้องเดินทางไปร่วมงานรำลึกครบรอบปฏิบัติการยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี เมื่อทั้งคู่ต่างสูญเสียคู่ชีวิตไปแล้ว รายงานข่าวเผยว่า พวกเขาสัญญาว่าจะกลับมาพบกันอีก

ภาพจากรายงานข่าวยังแสดงให้เห็นว่า ก่อนร็อบบินส์ ขึ้นรถจากไปยังได้จูบจีนนี อีกครั้ง

ชมบรรยากาศการพบกันในรายงานข่าวของ France 24 จากคลิปด้านล่าง (ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจากรายงานของ France 24 สื่อที่ถือครองโดยรัฐในฝรั่งเศส จนถึงวันนี้ (13 มิ.ย. 2019) ยังไม่มีผู้ตรวจสอบข้อมูลและข้อกล่าวอ้างของผู้ให้สัมภาษณ์…หากมีความคืบหน้าจะนำมาเผยแพร่ต่อไป)