เผยแพร่ |
---|
หลุมศพซึ่งคาดว่าเป็นที่ฝังร่างชาวยิวนับ 1,000 ราย ถูกพบในเมืองเบรสต์ ประเทศเบลารุส ซึ่งอยู่แถบบริเวณชายแดนประเทศโปแลนด์ รายงานข่าวเผยว่า เป็นกระดูกของทั้งชาย-หญิง และเด็ก โดยมีร่องรอยบาดแผลจากกระสุนปืน ถูกค้นพบในระหว่างการขุดเจาะเพื่อปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ในเมือง คาดว่าโครงกระดูกเหล่านี้คือเหยื่อที่มีชีวิตอยู่ในพื้นที่ของกลุ่มนาซีระหว่างปี ค.ศ. 1941-1942
รายงานข่าวเผยว่า จนถึงวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น) ทีมงานพบโครงกระดูกประมาณ 600 รายแล้ว และทีมงานมักพบศพของผู้เสียชีวิตกว่า 40 คนต่อวัน โดยมีทหารเบลารุสเข้ามาร่วมเคลียร์พื้นที่หลุมศพด้วย
แอนน่า คอนดัก เจ้าหน้าที่ของเมืองได้กล่าวว่า ทางการเชื่อว่าจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะมีมากกว่า 1,000 คน โดยคาดว่าผู้ตายตกเป็นเหยื่อการสังหารหมู่ของนาซีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รายงานข่าวเผยว่า ในเบื้องต้น ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมาจากสลัมชาวยิวที่เมืองเบรสต์ ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยมากถึง 28,000 คนในช่วงระหว่างค.ศ. 1941-42 (คลิกชมภาพเพิ่มเติมที่นี่)
เชื่อกันว่า เดือนตุลาคม 1942 มีผู้ถูกยิงราว 17,000 คนใกล้กับสถานีรถไฟบรอนนายา โกรา ในขณะที่อีกหลายพันคนสันนิษฐานว่าถูกสังหาร ซึ่งในบันทึกทางประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งชี้ว่า ชาวยิวที่ตกเป็นเหยื่อถูกสั่งให้เปลื้องผ้าก่อนถูกยิง หลักฐานที่พบบอกว่ามีเพียง 19 คนจาก 28,000 คนในสลัมแห่งเมืองเบรสต์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 1941 รอดชีวิตหลังย่านที่อยู่อาศัยแออัดถูก “ชำระล้าง” ระหว่างช่วงสงครามในเดือนตุลาคม 1942
รายงานข่าวจาก Daily Mail เผยว่า การค้นพบซากศพเกิดขึ้นระหว่างการขุดค้นเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยและศูนย์การค้าอันทันสมัย เจ้าหน้าที่เมืองเปิดเผยว่า งานก่อสร้างถูกระงับชั่วคราวหลังจากพบซากศพของเหยื่อจากการสังหารหมู่
คอนดัก เล่าว่า ในช่วงสามสัปดาห์มานี้ มีคนพบซากศพประมาณ 40 ศพทุกวัน ตอนนี้จำนวนโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 600 เท่าที่มีข้อมูลในตอนนี้เชื่อว่ามีหลุมศพใหญ่ 2 แห่งที่นี่ ทางการใกล้สำรวจหลุมแรกเสร็จแล้ว หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มต้นดำเนินการในหลุมที่สอง
อเล็กซานเดอร์ โรเกชอค ผู้ว่าราชการประจำท้องถิ่นเปิดเผยว่า จะไม่อนุญาติให้มีการสร้างสิ่งใด ๆ บนกระดูกของผู้คน รายงานในท้องที่ระบุว่าซากศพของผู้เสียชีวิตถูกค้นพบในหลุมยาว 20 เมตร ลึก 1.5 เมตร รายงานผู้เสียชีวิตรวมถึงผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก ทุกคนมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ
ก่อนหน้านี้ก็พบหลุมศพในเมืองเบรสต์ เมื่อปี 1950 โดยเหยื่อ 600 รายถูกนำมาฝังใหม่ที่สุสานทริชินซินโค และในปี 1970 เหยื่ออีก 300 รายถูกฝังที่สุสานโพรส์คา
รายงานข่าวเผยว่า โรเกชอค น่าจะเตรียมประชุมกับผู้แทนชุมชนชาวยิวในเมืองเบรสต์ และคาดว่าจะแนะนำให้มีการฝังศพใหม่ที่สุสานเซเว็นโน สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพผู้ตกเป็นเหยื่อของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่ทางชุมชนชาวยิวได้เรียกร้องให้ปฏิบัติตามประเพณีทางศาสนาในระหว่างการประกอบพิธีศพอีกครั้ง
คู่พี่สาวน้องสาวที่ถูกขนานนามว่า “แคทส์” ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่ในสลัมเมืองเบรสต์ ให้การว่า พวกเธอซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้หลังคา พวกเธอเล่าว่า ‘คนงานมาขุดหลุมศพในตอนเช้า’
คำให้การของพวกเธอเล่าว่า เธอได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ และกล่าวทำนองอ้อนวอนแม่ของตัวเอง ขอให้ยิงโดยเร็วเนื่องจากเธอรู้สึกหนาวมาก จากที่สภาพอากาศในเดือนพฤศจิกายนที่หนาวเหน็บ และพวกเขาต้องอยู่ในสภาพถอดเสื้อผ้าเปลือยกาย โดยแม่ถอดเสื้อผ้าเด็กแล้วจึงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก
ขณะที่บรรยากาศในเมือง ผู้คนเริ่มเรียกร้องให้ระงับงานก่อสร้างอย่างถาวรในสถานที่เกิดเหตุ จนถึงปัจจุบัน มีผู้เรียกร้องให้สร้างอนุสรณ์สถานแทนที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยและศูนย์การค้า 492 ราย ในเบื้องต้น รายงานข่าวเผยว่า ยังอยู่ในช่วงหารือกับเจ้าหน้าที่ทางการ
อ้างอิง:
Stewart, Will. “Mass grave containing 1,000 executed Jewish men, women and children is uncovered on the site of WWII Belarus ghetto where 28,000 were killed by the Nazis”. Daily Mail. Online, 21 FEB 2019. <https://www.dailymail.co.uk/news/article-6728629/Mass-grave-containing-1-000-executed-Jewish-men-women-children-uncovered-WWII-ghetto.html>