ปูดพวก “ท่องเที่ยวชนเผ่า” ลอบเข้าจุดสงวนเพียบ หลังชาวเซนติเนลยิงผู้บุกรุกช็อกโลก

ภาพประกอบข่าว - นักท่องเที่ยวบนเกาะอันดามันใต้ใกล้พอร์ท แบลร์ เมื่อปี 2007 (ภาพจาก AFP)

ลูกธนูที่ชาวเซนติเนล ชนพื้นเมืองบนเกาะเซนติเนล แถบอ่าวเบงกอลของอินเดียยิงชายหนุ่มอเมริกันเสียชีวิตนอกจากจะทำให้สายตาคนทั่วโลกหันมาจับจ้องชนเผ่าดั้งเดิมที่ยังหลงเหลือในโลกเท่านั้น กระแสนี้ยังทำให้มีคนออกมาวิจารณ์การลักลอบเข้าไปเยี่ยมชมชนเผ่าในเชิงการท่องเที่ยวแบบลับๆ

จอห์น อัลเลน เชา คือชายหนุ่มชาวอเมริกันที่ตั้งใจเดินทางเข้าไปในเกาะเซนติเนล ซึ่งเป็นถิ่นอยู่อาศัยของชาวเซนติเนล หนึ่งในชนพื้นเมืองซึ่งยังมีวิถีชีวิตแบบชนเผ่าดั้งเดิม ปราศจากวิทยาการสมัยใหม่และเทคโนโลยีใดๆ อีกทั้งไม่ได้ติดต่อโลกภายนอกมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน หนุ่มผู้หวังเข้าไปสอนศาสนาคริสต์ชนพื้นเมืองบนเกาะยิงธนูใส่จนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้ทำให้คนทั่วโลกหันมาสนใจชนเผ่า เรียกได้ว่าสร้างการรับรู้ให้คนสมัยใหม่ที่อยู่ในโลกอันรายล้อมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้หันกลับมารับรู้วิถีชีวิตของกลุ่มคนที่ไม่ติดต่อโลกภายนอก

ในขณะเดียวกัน การเดินทางเข้าไปครั้งนี้ก็ทำให้คนทั่วโลกรับรู้ว่าที่ผ่านมามีกลุ่มคนที่ลักลอบเข้าไปในถิ่นอาศัยของชนเผ่าในเกาะแถบหมู่เกาะอันดามันในเชิง “การท่องเที่ยวชนเผ่า” แม้แต่กรณีของจอห์น ก็ถูกเปิดเผยว่า เขาจ่ายเงินให้กับกลุ่มชาวประมง 354 ดอลลาร์สหรัฐ แลกกับการนำทางเข้าไปที่เกาะเซนติเนลเหนือ

หมู่เกาะในอันดามันเป็นที่รู้กันว่ามีชนเผ่า 5 กลุ่มอาศัยในหมู่เกาะต่างๆ คือ จาราวาส์ (Jarawas), เซนติเนลเหนือ (North Sentinelese), เกรท อันดามัน (Great Andamanese), ออง (Onge) และ Shompen ในบรรดา 5 ชนพื้นเมือง เซนติเนลเหนือ และจาราวาส์ คือ 2 กลุ่มที่ยังไม่ได้เป็นที่รับรู้ในกลุ่มคนทั่วไปมากนัก ทำให้พวกเขาเป็นแหล่งเป้าหมายของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่วางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวหมู่เกาะ

กลุ่มจาราวาส์ อาศัยในป่าสงวนที่อยู่ระหว่างอันดามันกลางกับอันดามันทางตอนใต้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวชมกลุ่มชนพื้นเมืองนี้จะเดินทางด้วยรถบัสไปที่พอร์ท แบลร์ (Port Blair) เมืองศูนย์กลางของอันดามันเพื่อเดินทางต่อไปที่เกาะบาราตัง (Baratang) ซึ่งยังเป็นแหล่งถ้ำหินปูน และเนินพุโคลนหรือภูเขาไฟโคลน และการเดินทางไปถึงได้ต้องใช้เส้นทาง Andaman Trunk Road (ATR) ซึ่งจะตัดผ่านเขตสงวนของจาราวาส์

แม้ว่าทางการเคยแบนนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางนี้หลังจากคลิปวีดิโอที่นักท่องเที่ยวบันทึกภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับให้ชาวจาราวาส์เพศหญิง 6 รายเต้นให้นักท่องเที่ยวชม แต่คำสั่งแบนต้องยกเลิกไปหลังฝ่ายท้องถิ่นส่งหนังสือยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเชิงท่องเที่ยวหรือเพื่อเหตุผลทางธุรกิจในพื้นที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นทางการจัดตั้งเรือเฟอร์รี่เพื่อเป็นทางเลือกเดินทางจากพอร์ท แบลร์ ไปที่เกาะบาราตังโดยเลี่ยงผ่านพื้นที่สงวนของชนพื้นเมือง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักอนุรักษ์ก็มองว่า “นักท่องเที่ยว” (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผู้เดินทางจากต่างชาติต้องทำเรื่องขออนุญาตทางการท้องถิ่นและกรมป่าไม้ก่อนจะเดินทางเข้าพื้นที่สงวนของจาราวาส์) พวกเขาไม่มีอะไรเปลี่ยนนัก หากใครมีเป้าหมายการเดินทางแฝงเพื่อ “ชม” ชนพื้นเมืองก็มักเลือกใช้ถนนอยู่ดี

ส่วนเกาะเซนติเนลเหนือไม่มีทางเข้าโดยตรง ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าไปมักจ้าง (ติดสินบน) ชาวประมงท้องถิ่นเพื่อให้นำทางเข้าไป แม้ว่าจะมียามชายฝั่งคอยลาดตระเวนพื้นที่ห้ามปรามนักท่องเที่ยวที่หาญกล้าเข้าไปในหาด นักวิจัยในอันดามันเล่าให้สำนักข่าวบีบีซีว่า เจ้าหน้าที่ตรวจตราชายฝั่งมักสะกัดเรือของเศรษฐีหรือนักท่องเที่ยวที่แล่นผ่านมาและต้องการสำรวจชมชนพื้นเมืองเสมอ แต่ด้วยขนาดของพื้นที่ซึ่งใหญ่เกินกว่ากำลังคนในการดูแลจึงเป็นไปได้ว่ามีผู้เล็ดลอดผ่านสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้

และกรณีของหนุ่มอเมริกันรายนี้ก็สะท้อนอีกหนึ่งตัวอย่างที่สามารถผ่านการป้องกันของเจ้าหน้าที่ไปได้ ขณะที่ตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจทัวร์ในหมู่เกาะอันดามัน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า ไม่เคยได้รับการติดต่อหรือผู้แสดงความสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวชนเผ่า เนื่องจากมีมาตรการควบคุมเข้มงวดกรณีเดินทางผ่านพื้นที่สงวนสำหรับชนพื้นเมือง

อ่านเพิ่มเติมเปิดสังคม “ชาวเซนติเนล” ที่ยิงธนูใส่หนุ่มมะกัน ชนพื้นเมืองไม่ติดต่อโลกภายนอกนับหมื่นปี



อ้างอิง:

“Andamans: US man’s death puts spotlight on ‘tribal tourism'”. BBC. 23 Nov 2018. <https://www.bbc.com/news/world-asia-india-46313965>