เผยแพร่ |
---|
สถาบันอังกอร์ (The Angkor Institution) องค์กรซึ่งมีหน้าที่จัดการ การจำหน่ายบัตรเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์นครวัด ได้ประกาศเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ทางองค์กรจะขึ้นราคาบัตรผ่านแบบหนึ่งวันสำหรับชาวต่างชาติ เพื่อเข้าชมโบราณสถานซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของกัมพูชาอีกเกือบเท่าตัว จากวันละ 20 ดอลลาร์ (698.98 บาท) เป็นวันละ 37 ดอลลาร์ (1,293.11 บาท) โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 เป็นต้นไป
ส่วนบัตรผ่านแบบ 3 วัน จะเพิ่มจาก 40 ดอลลาร์ (1,397.96 บาท) ในปัจจุบัน เป็น 62 ดอลลาร์ (2,166.84 บาท) ส่วนบัตรผ่านชนิดหนึ่งสัปดาห์ซึ่งมีอายุหนึ่งเดือนจะเพิ่มจาก 60 ดอลลาร์ (2,096.94 บาท) เป็น 72 ดอลลาร์ (2,516.33 บาท)
หลังการประกาศของสถาบันอังกอร์ กลุ่มองค์กรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกัมพูชาได้ออกมาวิจารณ์การขึ้นราคาบัตรผ่านอย่างไม่สมเหตุสมผลในครั้งนี้
“เราตกใจกับการขึ้นราคา…ทำไมเราถึงต้องขึ้นราคาตั๋วไปสูงถึงขนาดนั้น?” โฮ วันดี (Ho Vandy) เลขาธิการใหญ่สมาคมการท่องเที่ยวกัมพูชา (National Tourism Alliance) กล่าว
ลู เม็ง (Luu Meng) ประธานร่วมในกลุ่มความร่วมมือภาคการท่องเที่ยวระหว่างรัฐและเอกชนกล่าวว่า หากรัฐบาลวางแผนที่จะเพิ่มราคาบัตรผ่านนครวัดเป็นสองเท่า ก็ต้องมีเหตุผลที่น่ารับฟังในการทำเช่นนั้น เช่นเดียวกับแผนงานรองรับว่า จะช่วยพัฒนาสถานท่องเที่ยวหรือการบริการขึ้นมาได้อย่างไร
“เมื่อขึ้นราคากันขนาดนี้มันย่อมกระทบความรู้สึกของนักท่องเที่ยว ดังนั้นเราจำเป็นต้องแสดงให้พวกเขาเห็นถึงคุณภาพของสิ่งที่จะขายเช่นเดียวกับการบริการที่พวกเขาจะได้รับจากราคาที่เพิ่มขึ้นมา” เม็ง กล่าว
รายงานของ The Phnom Penh Post กล่าวว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ดึงเอากิจการจำหน่ายบัตรที่เคยให้เอกชนจัดการมาควบคุมเองผ่านสถาบันอังกอร์ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยการประกาศขึ้นราคาของสถาบันฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มิได้ระบุเหตุผลประกอบแต่ประการใด เพียงแต่กล่าวว่า รายได้ทุก 2 ดอลลาร์จากบัตรผ่านประตูจะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่ง
อ้างอิง: “Angkor Wat ticket price hike could hurt visitor numbers: experts”. The Phnom Penh Post. <http://www.phnompenhpost.com/business/angkor-wat-ticket-price-hike-could-hurt-visitor-numbers-experts?utm_content=buffer523a1&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer>