Trading Card หรือ การ์ดสะสม เป็นการ์ดที่มีลวดลายต่างๆ ถูกออกแบบมาให้คนที่ชอบลวดลายนั้นๆ ได้เก็บสะสมกัน ปัจจุบันเห็นได้ว่าสินค้าต่างๆ มักนิยมมีของแถมเป็นการ์ด เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลุ้นแล้วเก็บสะสม ไม่เพียงเท่านี้การ์ดยังถูกผลิตออกมาเอาใจคนที่มีงานอดิเรกความชอบอย่าง ชอบนักกีฬา ชอบดูอนิเมะ หรือชอบศิลปิน นั่นเลยทำให้การ์ดกลายเป็นของสะสมนั่นเอง

เมื่อมีการสะสมการ์ด หลายคนก็อยากจะเก็บการ์ดให้ครบเซ็ต หรือเลือกเฉพาะลวดลายที่ตนเองชอบ โดยสิ่งที่ทำได้เลยก็คือการแลกเปลี่ยนการ์ด ด้วยเหตุนี้เลยนำการ์ดที่ไม่ได้เก็บสะสมเอาออกมาขายต่อ แล้วยิ่งถ้าการ์ดสะสมถูกผลิตออกมาน้อย มีความพิเศษกว่าการ์ดอื่นๆ หรือที่เรียก “การ์ดแรร์” ก็จะมีราคาสูง แน่นอนว่าวงการการ์ดสะสมในปัจจุบันได้สร้างมูลค่าซึ่งมีตั้งแต่หลักสิบบาทไปถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว

แล้วจุดเริ่มต้นของการ์ดสะสมมาจากไหนกัน โดยเอ็นโซ่จะพาคุณย้อนอดีตไปยังที่มาของการ์ดสะสม จนมาถึงความนิยมสะสมการ์ดในปัจจุบัน ในระหว่างที่กำลังอ่านบทความนี้ หากคุณเกิดความรู้สึกอยากหาการ์ดสะสมหรืออยากขายการ์ดสะสมเพื่อเพิ่มรายได้ ที่ ENNXO ก็พร้อมให้บริการ

จุดกำเนิดของ “การ์ดสะสม” สู่งานอดิเรกที่สร้างรายได้

หากพูดถึงการ์ดสะสมก็ต้องนึกถึง “ไพ่” และ “กระดาษ” ทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศจีน ซึ่งในช่วงราชวงศ์ถังนั้นผู้คนนิยมไพ่ โดยเอาตัวละครจากวรรณกรรมมาวาดตกแต่งลวดลาย ต่อมาวัฒนธรรมการสร้างไพ่ของจีนได้ถูกเผยแพร่ไปยังตะวันออกกลางด้วยเส้นทางสายไหม แล้วก็ถูกส่งต่อไปยังยุโรป ทำให้ในช่วงศตวรรษที่ 15 ชาวยุโรปคลั่งไคล้ไพ่อย่างมาก จึงมีสินค้าไพ่เกิดขึ้นในยุคนี้เต็มไปหมด

แล้วการ์ดสะสมล่ะ เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน? ย้อนกลับไปในช่วงก่อนเหตุการณ์สงครามปฏิวัติอเมริกา อเมริกาอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร มีการเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรม หนึ่งในนั้นคือไพ่ เมื่อสงครามจบลง ชาวอเมริกันได้หันมาสร้างไพ่ด้วยตนเอง แล้วก็สร้าง “การ์ดสะสม” ขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

การ์ดสะสมแรกๆ ที่ว่าเก่าแก่และสร้างมูลค่าสูงนั่นก็คือ การ์ดภาพนักกีฬาเบสบอลชาวอเมริกา ที่ถูกผลิตขึ้นในปีค.ศ.1904 ในช่วงเวลานี้กระแสการซื้อขายการ์ดยังคงไม่สูงนัก แต่ก็มาถึงจุดพีคของวงการการ์ดเบสบอลที่มีการซื้อขายราคาสูงในช่วงปีค.ศ.1981-1986 กล่าวได้ว่าในช่วงค.ศ.1980 การ์ดกลายเป็นของสะสมที่มีมูลค่านั่นเอง

กลับมาที่ประเทศไทย แต่เดิมการ์ดสะสมเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจ เมื่อผู้ผลิตการ์ดได้ออกการ์ดที่ตอบโจทย์ความชอบของผู้คน ก็มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันมากขึ้น หากการ์ดสะสมไหนถูกผลิตมาอย่างจำกัดหรือหายาก ชาวนักสะสมก็พร้อมที่จ่ายเงินในราคาสูงเพื่อได้มันมา ดังนั้นปัจจุบันการซื้อการ์ดสะสมไม่ได้ถูกจำกัดแค่คนที่ชอบสะสมเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังกลุ่มคนที่ต้องการขายเก็งกำไร นั่นเลยทำให้ตลาดการซื้อขายการ์ดสะสมเพิ่มสูงขึ้น โดยราคาจะประเมินจากความหายากและสภาพของการ์ดสะสมเป็นหลัก

ประเภทการ์ดสะสมที่นิยมในตลาดซื้อขาย

การ์ดสะสมมีอยู่หลายประเภท โดยเราจะยกประเภทของการ์ดสะสมที่นิยมซื้อขายกันในยุคนี้ แต่ละประเภทสามารถทำการซื้อขายได้ที่ ENNXO แพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ได้เลย มาดูกันว่ามีประเภทการ์ดอะไรบ้าง

การ์ดนักกีฬา เป็นการ์ดที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะจากกระแสของนักแข่งไม่ว่าจะเป็น นักกีฬาฟุตบอล นักกีฬาเบสบอล หรือนักกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการ์ดที่มีราคาสูงจะเป็นภาพนักกีฬาที่มีชื่อเสียง บางการ์ดนั้นก็มีลายเซ็นของนักกีฬาอีกด้วย แล้วที่สำคัญการ์ดถูกผลิตในต่างประเทศ การที่จะได้มาครอบครองจึงมีการซื้อขายกันในราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

การ์ดดารา ศิลปิน โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของการสุ่ม ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือการซื้ออัลบั้ม แล้วมีการ์ดภาพศิลปินด้วยนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มของ T-Pop, K-Pop หรือ J-Pop ก็ตาม

การ์ดจากอนิเมะ หนึ่งในของสะสมอนิเมะสุดฮิต ที่หลายอนิเมะต่างทำออกมาให้เหล่าโอตาคุได้เก็บสะสมกัน จะมีทั้งการ์ดทั่วไปและการ์ดแรร์ อย่างการ์ดอนิเมะที่มีการซื้อขายราคากันสูง เช่น One Piece, Yu-Gi-Oh!, Dragon Ball Z เป็นต้น

การ์ดเกม แน่นอนว่าหากพูดถึงการ์ดเกมก็ต้องนึกถึง การ์ดโปเกมอน ที่มีการ์ดระดับหายากถึงขั้นหลักล้านอยู่หลายใบ แต่นอกจากโปเกมอนแล้วก็ยังมีการ์ดเกมอื่นๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการ์ดที่มีค่าพลังของตัวละครหรือข้อมูลความสามารถที่สำหรับใช้เล่นนั่นเอง

การซื้อขายการ์ดสะสมเป็นอีกหนึ่งตลาดที่คึกคักอย่างมากในยุคนี้ เป็นวัฒนธรรม Trading Card ที่เพิ่มมูลค่าให้กับการ์ดสะสมในการซื้อขาย โดย ENNXO (เอ็นโซ่) เป็นตลาดสินค้าออนไลน์ ที่สามารถซื้อขายการ์ดสะสมได้ มาเพิ่มมูลค่าการ์ดของคุณได้เลยที่นี่ นอกจากนี้ยังมีหมวดหมู่อื่นๆ ที่ให้คุณได้เปิดโอกาสสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ พระเครื่อง อสังหาริมทรัพย์ ต้นไม้ ของสะสม และอื่นๆ อีกมากมาย ใช้งานเอ็นโซ่ได้แล้ววันนี้ผ่านทางเว็บไซต์ ENNXO.COM หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน รองรับทั้ง iOS และ Android