นักวิจัยตรวจสอบ “หัวแม่เท้าเทียม” 3 พันปีอีกครั้ง พบมีการถอดเข้าถอดออกหลายที

แฟ้มภาพ ถ่ายเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2002 ที่พิพิธภัณฑ์ไคโร (ซ้าย) เท้ามัมมี และหัวแม่เท้าปลอม, (ขวา) หัวแม่เท้าปลอมขณะสวมใส่กับเท้ามัมมี (AFP PHOTO / MARWAN NAAMANI)

หัวแม่เท้าเทียมอายุกว่า 3,000 ปี (และน่าจะเป็นหนึ่งในอวัยวะเทียมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก) ซึ่งถูกพบตั้งแต่เมื่อปี 2000 จากสุสานแห่งหนึ่งใกลักับเมืองโบราณแห่ง “ธีบส์” หรือเมืองลักซอร์ในปัจจุบัน ได้ถูกนำกลับมาศึกษาใหม่อีกครั้งโดยทีมนักอียิปต์วิทยาจากมหาวิทยาลัยบาเซิล ด้วยความร่วมมือจากพิพิธภัณฑ์ไคโร และสถาบันการแพทย์วิวัฒนาการแห่งมหาวิทยาลัยซูริค

“ชิ้นส่วนไม่ธรรมดาอันนี้ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญอย่างยิ่งจริงๆ” Andrea Loprieno-Gnirs จากภาควิชาอารยธรรมโบราณของมหาวิทยาลับบาเซิลซึ่งได้ร่วมการขุดค้นแหล่งโบราณคดีใน Sheikh ´Abd el-Qurna สถานที่ค้นพบหัวแม่เท้าปลอมโบราณ กล่าวกับ swissinfo.ch  

Advertisement

และจากการตรวจสอบในครั้งนี้โดยอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ ประกอบกันทั้งการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่ทันสมัย เทคโนโลยีการใช้รังสีเอ็กซ์ และการสร้างภาพจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ นักวิจัยพบว่า หัวแม่เท้าเทียมชิ้นนี้มีการถอดเข้าถอดออกหลายครั้งเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นลูกสาวของนักบวช หนึ่งในกลุ่มชนชั้นสูงของสังคมอียิปต์โบราณ

“พวกเขามักจะสวมรองเท้าแตะ คือคุณจะจินตนาการได้เลยว่า การมีเท้าที่สมบูรณ์เป็นเรื่องสำคัญแค่ไหน หัวแม่เท้าไม้ชิ้นนี้แสดงถึงมาตรฐานการดำรงชีวิตของเธอ และการมีอยู่ซึ่งความสามารถในเชิงช่างขั้นสูงจึงสามารถสร้างอวัยวะเทียมเช่นนี้ได้” Loprieno-Gnirs  กล่าว

พร้อมกันนี้ Loprieno-Gnirs ยังได้กล่าวว่า ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาทบทวนต่อไปว่าข้อสันนิษฐานของพวกเขาถูกต้องหรือไม่ มีนิ้วเท้าอื่นของผู้ตายขาดหายไปด้วยหรือเปล่า

ทั้งนี้ หัวแม่เท้าเทียมซึ่งทำขึ้นจากไม้และหนังชิ้นนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1069-664 ก่อนคริสตกาล ซึ่งตามธรรมเนียมชาวอียิปต์โบราณนิยมสร้างอวัยวะเทียมขึ้นมาประกอบร่างกายในการทำศพ (มัมมี่) จึงมีความเป็นไปได้ว่า อวัยวะเทียมที่ถูกค้นพบในอารยธรรมอียิปต์โบราณอาจมิได้มีประโยชน์ใช้สอยจริงๆ

“ความเชื่อทางเทววิทยาแห่งโอไซริส (Osiris) เทพแห่งความตาย ระบุไว้ว่า ร่างกายที่จะสามารถใช้การได้ในโลกหลังความตายจะต้องมีความสมบูรณ์” แจ็คกี ฟินช์ (Jacky Finch) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ซึ่งมิได้มีส่วนกับการวิจัยในครั้งนี้ให้ความเห็นไว้กับ Live Science ในปี 2007 “ตัวโอไซริสเอง ตามตำนานก็บอกไว้ว่าตัวของเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆ และถูกแยกไปกระจัดกระจาย ก่อนที่จะถูกเอามารวมกันได้ภายหลัง”

ต่อมา ฟินช์ได้ทำการทดลองด้วยการจำลองหัวแม่เท้าปลอมนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนพิการเสียนิ้วเท้าจริงๆ ได้ลองสวมใส่ก็พบว่า มันสามารถช่วยในการเคลื่อนไหวของผู้ร่วมการทดลองได้จริง และมีความสบายพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อได้สวมพร้อมกับรองเท้าแตะ (Live Science) และนักวิจัยจากสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ทำการศึกษาต่อยอดด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และพบหลักฐานที่ชัดขึ้นของวิวัฒนาการทางการแพทย์และการสร้างอวัยวะเทียมที่มีมานานนับพันปีของชาวอียิปต์โบราณ