สีลม-บางรัก-สาทร “ป่าช้าวัดดอน” ทำเลสุสานฝังศพสุดฮิตสมัยรัชกาลที่ 5

สุสานแต้จิ๋ว ป่าช้าวัดดอน หลุมศพ แขวงทุ่งวัดดอน สุสานฝังศพ
สุสานแต้จิ๋ว หรือ ป่าช้าวัดดอน สุสานเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร เมื่อ พ.ศ. 2564 (ภาพประกอบจาก Supanut Arunoprayote)

ทุกวันนี้ สีลม บางรัก สาทร คือย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ มูลค่าที่ดินแพงระยับ แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ดินบริเวณเหล่านี้ คือ “สุสานฝังศพ” ยอดฮิต ที่รู้จักกันดีก็เช่น สุสานแต้จิ๋ว หรือ ป่าช้าวัดดอน

ผศ. ดร. นิภาพร รัชตพัฒนากุล บอกเล่าเรื่องนี้ไว้ใน นาสิกประสาตภัย’: ประวัติศาสตร์ของกลิ่นเหม็นในเมืองกรุงเทพฯ” (ศิลปวัฒนธรรม, มกราคม 2562) ว่า

จากการสำรวจในสมัยรัชกาลที่ 5 มีจำนวนหลุมฝังศพในเมืองกรุงเทพฯ ทั้งสิ้นราว 15,884 หลุม แบ่งเป็นมุสลิมจำนวน 6,345 หลุม จีน 6,784 หลุม (แยกเป็นจีนแคะ จีนกวางตุ้ง จีนฮกเกี้ยน จีนบ้าบ๋า) ผู้เข้ารีตและชาวตะวันตก 845 หลุม นอกจากนั้นไม่สามารถระบุได้จำนวน 1,910 หลุม ซึ่งเป็นศพที่ฝังอยู่ในวัด

หลุมศพเหล่านี้ ส่วนมากตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพระนคร โดยเฉพาะ สีลม บางรัก ถนนตก (บ้านทวาย) ถนนจันทร์

จำนวนหลุมศพมากที่สุดคือป่าช้าสุเหร่าบ้านอู่ 6,000 หลุม (ซอยข้างโรบินสัน บางรัก) ตามมาด้วย สุสานแต้จิ๋ว วัดดอน 4,200 หลุม[1] สำหรับป่าช้าบางแห่งที่เต็ม เช่น ป่าช้าสำหรับฝังศพจีนกวางตุ้งที่สีลมก็ให้เลิกป่าช้าเสีย (ด้านหลังของอาคารมหานคร) และอนุญาตให้เปิดขึ้นใหม่ ณ ที่ข้างตรอกจันทร์ ตำบลวัดไผ่ล้อม อำเภอบ้านทวาย

อย่างไรก็ตามมีการขออนุญาตตั้งสุสานเป็นการเฉพาะด้วย เช่น กรณีของ นายกิมฮวด ฮุนตระกูล ขออนุญาตตั้งป่าช้าฝังศพเฉพาะครอบครัวฮุนตระกูล และจันตระกูล ในที่ดินส่วนตัว ติดต่อกับบริเวณป่าช้าชนชาติต่างๆ ในตำบลถนนสีลม [2]

หลุมฝังศพเหล่านี้ไม่มีปัญหามากนัก เพราะมีหลักการปฏิบัติกันมาช้านาน ยกเว้นบางกรณี เช่น พ.ศ. 2451 พวกแขกที่อาศัยอยู่ละแวกวัดดอนได้เข้าชื่อกันทำจดหมายยื่นต่อกระทรวงนครบาล ร้องเรียนเรื่องกลิ่นศพของสุสานจีนแต้จิ๋วและไหหลำว่า โดยปกติสุสานฝรั่ง คนเข้ารีต มุสลิม จีนบ้าบ๋า จีนกวางตุ้ง จีนฮกเกี้ยน จะฝังลึกระหว่าง 5-6 ฟุต

แต่สุสานจีนแต้จิ๋ว (หรือที่ทุกวันนี้เรียกกันว่า ป่าช้าวัดดอน) กับจีนไหหลำที่วัดดอนฝังศพตื้นเกินไป ทำให้สุนัขคุ้ยเขี่ย เวลาฝนตกก็ชะเอาน้ำหนองไหลมากับศพด้วย อีกทั้งยังขุดศพที่เน่าเปื่อยขึ้นมาล้างที่คลอง ทำให้เหม็นมาก และน้ำในลำคลองที่ใช้อาบกินก็ใช้ไม่ได้ กระทรวงนครบาลได้ส่งแพทย์สุขาภิบาลไปตรวจก็เห็นจริงตามนั้น ว่าเป็นพื้นที่สกปรก เหม็น และน่ากลัวมาก [3]

ในอดีตจะเห็นว่า ปัญหาการขุดหลุมตื้นเกินไป และปัญหาเรื่องกลิ่นจากพิธีล้างป่าช้าของกลุ่มการกุศลชาวจีนที่ทำให้แก่ศพคนอนาถาหรือศพไร้ญาติ ทำให้ ป่าช้าวัดดอน กลายเป็นนาสิกประสาตภัยอย่างมหันต์ของชุมชนต่างศาสนาและวัฒนธรรมที่อาศัยอยู่รอบๆ

ส่วนทุกวันนี้ ป่าช้าวัดดอนได้กลายเป็นสวนสาธารณะอันร่มรื่น ให้ผู้คนได้มาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย เรียกว่าคนเป็นกับคนตายสามารถอยู่ร่วมกันได้ในพื้นที่เดียวกันอย่างสงบสุข

อ่านเพิ่มเติม:

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เชิงอรรถ :

[1] สจช. ร.5 น 99/87 นามวัดที่มีป่าช้า นามวัดที่ไม่ การฝัง เผาและฝากศพ นามป่าช้าที่ไม่ใช่วัด (ม.ท.)

[2] “ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องกำหนดที่ฝังศพสำหรับตระกูลฮุนตระกูลและจันตระกูล ในท้องที่จังหวัดพระนคร,” ใน ประชุมกฎหมายประจำศก. เล่ม 42. น. 263.

[3] สจช. ร.5 น 99/74 พวกแขกร้องว่าบริษัทจีนนำคนไปฝังที่ตำบลหลังวัดดอนฝังไว้ตื้นๆ กลิ่นเหม็นตลบไปในหมู่บ้านที่ใกล้เคียง (14 สิงหาคม-2 ตุลาคม 217)


เผยแพร่ในระบบออนลไน์ครั้งแรกเมื่อ 13 พฤษภาคม 2565