ที่มา | ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2546 |
---|---|
ผู้เขียน | ปรามินทร์ เครือทอง |
เผยแพร่ |
ท้าวทองกีบม้า ต้องตกอับอยู่ช่วงหนึ่ง จนถึงปีพ.ศ. 2233 ได้รับอนุญาตให้มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโปรตุเกส และถูกบังคับให้ทำอาหารหวานส่งเข้าวังตามอัตราที่กำหนด เรื่องนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกด้วยเนื้อหาที่แตกต่างกันในรายละเอียด
ตามหลักฐานของบาทหลวงโอมองต์ (Fr. Aumont) บันทึกไว้ว่ามาดามฟอลคอน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นชาววิเสทประจำห้องเครื่องในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ
ส่วนแคมเฟอร์ (Kampfer) ซึ่งมาถึงกรุงศรีอยุธยาในปี 2262 บันทึกว่า เห็นท้าวทองกีบม้ากับลูกชาย เที่ยวเดินขอทานตามบ้านพวกเข้ารีต และชาวต่างชาติ ซึ่งบันทึกข้อนี้ยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่ เพราะชาวคาทอลิก และญาติพี่น้องของท้าวทองกีบม้าในหมู่บ้านโปรตุเกส ไม่น่าจะทอดทิ้งกันถึงเพียงนี้
อีกบันทึกของอเล็กซานเดอร์ แฮมมิลตัน อ้างว่าได้พบกับมาดามฟอลคอนในปี 2262 ขณะนั้นได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการห้องเครื่องต้นแผนกหวาน มีผู้คนรักใคร่นับถือ ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกของมองซิเออร์โชมองต์ อ้างว่ามาดามก็องสตังซ์ เป็นผู้ดูแลเครื่องเงินเครื่องทองของหวาน เป็นหัวหน้าเก็บพระภูษา และฉลองพระองค์ และยังเป็นผู้เก็บผลไม้เสวยด้วย
ในจดหมายของท้าวทองกีบม้าที่เขียนถึงบิชอปฝรั่งเศสในประเทศจีน กล่าวไว้ว่า
“…ต้องทำงานถวายตรากตรำด้วยความเหนื่อยยาก และระกำช้ำใจ มืดมนธ์อัธการไปด้วยความทุกข์ยาก ตั้งหน้าแต่จะคอยว่าเมื่อใดพระเจ้าจะโปรดให้ได้รับแสงสว่าง ตอนกลางคืนนางก็ไม่มีที่นอนที่พิเศษอย่างใด คงแอบนอนพักที่มุมห้องเครื่องต้น บนดินที่ชื้น ต้องคอยระวังรักษาเฝ้าห้องเครื่องนั้น”
แม้ประวัติช่วงนี้ของท้าวทองกีบม้าจะไม่ตรงกันนัก แต่ก็ยอมรับได้ว่า ท้าวทองกีบม้าเคยไปทำงานในวังจริง และเป็นคนทำขนมหวานตำรับโปรตุเกส เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง จนเป็นสูตรให้คนทำสืบเนื่องต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ปัญหาก็คือ ท้าวทองกีบม้าคิดสูตรทองหยิบ ฝอยทอง ด้วยตัวเอง โดยเอาวัตถุดิบพื้นเมืองสยามมาดัดแปลงให้เข้ากับตำรับโปรตุเกส หรือมีคนสอนให้ทำ?
คนที่ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้เป็นชาวญี่ปุ่น คือ เรโกะ ฮาดะ (Reiko Hada) ได้เขียนบทความชื่อ Madame Marie Guimard Under the Ayudhya Dynasty of the Seventeenth Century ลงในวารสารสยามสมาคม (J.S.S., V.80. Part1, 1992)
ฮาดะได้เสนอไว้ว่า อันที่จริงท้าวทองกีบม้าได้สูตร หรือถูกสอนให้ทำขนมลักษณะนี้มาจากแม่ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเมื่อครั้งที่ชาวโปรตุเกสเข้าไปในญี่ปุ่นมากขึ้น ก็ได้สอนให้ชาวญี่ปุ่นหัดทำขนมโปรตุเกส ซึ่งปัจจุบันขนมญี่ปุ่นหลายชนิดก็เป็นตำรับโปรตุเกส ขนมญี่ปุ่นบางอย่างมีลักษณะเหมือนฝอยทอง ยังคงทำกันอยู่ที่เกียวโต และคิวชู ในประเทศญี่ปุ่นปัจจุบัน
ขนมญี่ปุ่นที่มีลักษณะเหมือนฝอยทองตามความเห็นของฮาดะ น่าจะหมายถึงขนมที่มีชื่อว่า เครันโชเมน ซึ่งมีหน้าตาและสีสันคล้ายกับฝอยทองอย่างมาก
หากเป็นเช่นนี้จริง ก็เท่ากับว่า ขนมไทยสูตรท้าวทองกีบม้า ก็คือสูตรขนมญี่ปุ่นตำรับโปรตุเกส ที่ญาติพี่น้องของท้าวทองกีบม้าถ่ายทอดสืบต่อกันมา ไม่ใช่มีถิ่นกำเนิดในสยาม!
หมายเหตุ : คัดเนื้อหาบางส่วนจากบทความ “ท้าวทองกีบม้า ได้ “สูตรขนมไทย” ทองหยิบ ฝอยทอง จากโปรตุเกส หรือญี่ปุ่น?” เขียนโดย ปรามินทร์ เครือทอง ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2546
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 14 เมษายน 2560