ตำราชีวจิต เรื่องสุขภาพกาย-ใจโดย เหล็ง ศรีจันทร์ หมอนักปฏิวัติ ผู้ก่อการ ร.ศ. 130

กรมทหารรักษาวัง
คณะ ร.ศ. 130 ในงานศพ 17 วีรชนปรากกบฏบวรเดชที่ท้องสนามหลวง กุมภาพันธ์ 2476 (แถวหน้าจากซ้าย) ร.ต. จรูญ ษตะเมษ ร.ต. โกย วรรณกุล ร.อ. เหล็ง ศรีจันทร์ ร.ต. ถัด รัตนพันธุ์ ร.ต. จรูญ ณ บางช้าง ร.ต. สอน วงษ์โต ร.ต. เปลี่ยน ไชยมังคละ (แถวหลังจากซ้าย) ร.ต. เหรียญ ศรีจันทร์ ร.ต. เนตร พูนวิวัฒน์ ร.ท. จือ ควกุล ร.ต. บ๋วย บุณยรัตพันธุ์ ร.ต. เขียน อุทัยกุล ร.ต. ศิริ ชุณห์ประไพ นายอุทัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา

ร.อ.ขุนทวยหาญพิทักษ์ (เหล็ง ศรีจันทร์) หรือ “หมอเหล็ง” ที่คนส่วนใหญ่รู้จักในฐานะ “หัวหน้าคณะก่อการ ร.ศ. 130” ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาชาธิปไตย แต่นอกจากบทบาททางการเมือง หมอเหล็งยังเป็นแพทย์ที่ให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วย และมีผลงานวิชาทางการแพทย์ โดยเฉพาะตำราเกี่ยวกับสุขภาพที่หมอเหล็งเขียนไว้หลายเล่มด้วยกัน เช่น ตำราวิลัยรักษ์, ตำราวัฒนายุ, ตำราฝึกหัดเด็ก ฯลฯ

ตำราวัฒนายุ

ตำราเล่มหนึ่งของหมอเหล็ง คือ “ตำราวัฒนายุ” พิมพ์ที่โรงพิมพ์อักษรนิติ บางขุนพรหม วันที่ 13 เดือน 5 ปี 2469 ถ้าพิมพ์จำหน่ายในปัจจุบันคงจะขายดี เป็นหนังสือที่แนะนำว่าทำอย่างไรให้อายุยืนถึง 100 ปี แบบหนังสือประเภทชีวจิตในปัจจุบัน ภาพปกหนังสือดังกล่าว มีรูปโยคีนั่งบนดอกบัว พร้อมข้อความว่า “ตำราวัฒนายุ โดยหมอเหล็ง ศรีจันทร์ แนะนำให้ท่านมีความวัฒนาผาสุข เปนหนุ่มเปนสาวร้อยปีไม่มีแก่ จะมีแต่ความสุขความเจริญทั้งกายและใจ”

เนื้อหาของ “ตำราวัฒนายุ” แบ่งออกเป็น 2 ตอน ว่าด่วยสุขภาพกาย และสุขภาพใจ สาระหลักๆ ไม่ต่างจาการปฏิบัติตนในแนว “ชีวจิต” ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินซึ่งมีสัดส่วนถึง 80% ของเล่ม โดยหมอเหล็งได้ชี้ประเด็นจากการค้นคว้าว่า กินพืชผักผลไม้ เป็นหัวใจของการมีอายุยืน การกินเนื้อสัตว์เป็นให้มีอายุสั้น

ทั้งมีการเปรียบเทียบและยกตัวอย่าง เช่น เรื่องการกินผักได้ยกตัวอย่างการทดลองที่ยุโรป ที่ให้พวกหนึ่งกินเนื้อสัตว์ ส่วนหนึ่งกินผัก และอีกพวกหนึ่งกินแต่ผลไม้ ในการแข่งขันเดินทางไกล ผลออกมาว่า

“พวกที่กินผลไม้ไปถึงก่อน 3 คน พวกที่กินแป้งกับผักไปถึงก่อน 2 คน เมื่อไปถึงแล้วก็ไม่อิดโรยยังมีกำลังวังชาดีอยู่ ฝ่ายพวกที่กินเนื้อสัตว์นั้นเดินกะปลกกะเปลี้ยล้าหลังอยู่ตามทางไม่มีใครถึงก่อนเลยสักคนเดียว…”

หมอเหล็งยังยกตัวอย่างใกล้มาเสนอให้เห็นภาพเกี่ยวกับการกินเนื้อว่า

“…การกินเนื้อสัตว์นั้นแข็งแรงก็แต่ในปัจจุบันทันใดชั่วแล่นเดียว ถ้าจะทำการออกแรงขับเคี่ยวกันตรากตรำแล้วสู้การกินอาหารผักหญ้า และผลไม้ไม่ได้ ดูแต่เสือที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหารนั้น เสือมีกำลังแข็งแรงชั่วแล่นเดียวเมื่อขณะจับเนื้อกิน แต่ถ้าจะเอาเสือมาใช้งานขับเคี่ยวกับวัว เช่นใช้ลากเกวียน หรือบรรทุกของหนักบนหลังเดินทางไกลแล้ว เสือจะต้องแพ้วัวหลุดลุ่ยทีเดียว…”

จากตอนแรกของตำราวัฒนายุที่ว่าด้วยเรื่องอาหารการกิน พอถึงตอนที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องว่าด้วย “จิตตวิทยา” หมอเหล็งเชื่อว่าเมื่อบำรุงร่างกายแล้ว ก็ต้องบำรุงจิตใจให้สมบูรณ์ เพราะโรคที่เกิดกับใจนั้นร้ายแรงกว่าโรคที่เกิดกับร่างกาย

“โรคใจนั้นผิดกับโรคที่เกิดกับอวัยวะทั้งหลาย โรคใจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเหมือนฟ้าแลบในชั่วพริบตาเดียวหรือวินาทีเดียว สามารถจะเกิดขึ้นได้เท่าภูเขา และในวันหนึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตั้งร้อยโรค หรือร้อยครั้งก็ได้…”

อาการโรคใจของหมอเหล็งคือ โทสะ โมหะ อันเป็นผลร้ายต่อกำลังจิตทำให้อายุสั้นได้ ความโลภก็เช่นกันหากมีความโลภ ไม่ว่าจะเป็นความโลภต่ออำนาจวาสนา ความโลภต่อทรัพย์สมบัติ ล้วนเป็นเหตุให้อายุสั้นทั้งสิ้น ความกลัวก็เช่นกัน เป็นผลร้ายต่อกำลังจิต และทำให้คนตายได้ วิธีแก้ความกลัวคือรู้จักใช้สมาธิ สำรวมจิต ทำสติให้มั่นคง และฝึกใช้พลังจิต ซึ่งเป็นพลังมหัศจรรย์ที่จะช่วยรักษากายใจให้เป็นสุขปราศจากความทุกข์ มีอายุยืนยาวสมปรารถนา

สำหรับหมอเหล็งผู้เขียนตำราวัฒนายุ แม้จะอยู่ไม่ถึง 100 ปี ตามประวัติหมอเหล็งเสียชีวิตเมื่ออายุ 77 ปี (22 ธันวาคม 2425-16 มีนาคม 2502) โดยก่อนหน้านี้หมอเหล็งต้องทนทุกข์อยู่ในคุกถึง 12 ปีกว่า อาจเป็นผลต่อ “กำลังจิตต” ของหมอเหล็งก็เป็นได้

คลิกอ่านเพิ่มเติม : เผยบันทึกผู้วางแผน “กบฏ ร.ศ.130” เมื่อทหารหนุ่มประชุมลับถามหาอนาคตของประเทศ!


ข้อมูลจาก

หลง ใส่ลายสือ. “ตำราชีวจิต ของนักปฏิวัติ เหล็ง ศรีจันทร์” ใน, ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนธันวาคม 2545


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 3 ธันวาคม 2564