“เทียหยก” ที่ปรึกษาผู้ช่วยท้วงคืน “กุนจิ๋ว” ที่เป็นเสมือนจุดตายของโจโฉสำเร็จ

การสู้รบระหว่างก๊กต่างๆ ใน สามก๊ก (ภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสามก๊ก ในวิหารเก๋ง วัดบวรนิเวศวิหาร ภาพจากศิลปกรรรม วัดบวรนิเวศวิหาร, 2528)

เทียหยก เกิดที่ตงอา เมืองตองกุ๋นแห่งกุนจิ๋ว เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาคนสำคัญ เทียหยก มีผลงานสำคัญหลายครั้ง แต่ครั้งที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงก็คือ ศึกชิงกุนจิ๋วระหว่างโจโฉ-ลิโป้ (ค.ศ. 194-195) เวลานั้น “กุนจิ๋ว” เป็นดินแดนเพียงหนึ่งเดียวที่โจโฉครอบครองอยู่ การบุกกุนจิ๋วจึงเสมือนการโจมตีจุดตายของโจโฉ

สาเหตุของศึกครั้งนั้นเกิดจากตังก๋ง ผู้ใต้บังคับบัญชาฉวยโอกาสที่โจโฉนำทัพไปปราบโตเกี๋ยมที่ซีจิ๋ว สมคบกับเตียวเมา ทำให้ลิโป้เข้าเมืองยึดกุนจิ๋วได้ โจโฉที่ต้องจะทวงกุนจิ๋วที่เสียไปคืน จึงเปิดศึกกับลิโป้ โดยช่วงแรกๆ นั้น โจโฉตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ

ฝ่ายลิโป้เมื่อเข้ายึดกุนจิ๋ว ผู้นำในหัวเมืองต่างๆ ล้วนให้การตอบรับเป็นอย่างดีตามคาด เว้นแต่ 3 เมือง ได้แก่ เอียงเสีย ฟ่านเซียน และตงอา ที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ ทันทีที่ลิโป้เข้ายึดกุนจิ๋ว เตียวเมาก็ส่งคนไปรายงานซุนฮกว่า ลิโป้มาช่วยแม่ทัพโจโฉปราบโตเกี่ยมแล้ว ควรส่งปัจจัยต่างๆ มาสนับสนุน

ซุนฮกที่ปรึกษาทางทหารอันดับหนึ่งซึ่งโจโฉเชื่อใจเป็นอย่างมาก อยู่เฝ้าเอียงเสีย รู้ทันทีว่าเตียวเมาแปรพักตร์แล้วและกุนจิ๋วกำลังมีภัย ต้องหาวิธีรักษาสามเมืองที่เหลือไว้ให้ได้ เพื่อให้โจโฉใช้เป็นฐานที่มั่นในการกอบกู้กุนจิ๋ว ซุนฮกเรียกเทียหยกที่เป็นชาวเมืองตงอาเข้าพบ แล้วแจ้งข่าว

“ขณะนี้เกือบทั้งกุนจิ๋วแปรพักตร์แล้ว เหลืออีกสามเมืองเท่านั้น ตันก๋งกำลังนำทัพใหญ่มาตี หากเรารวมจิตใจผู้คนสามเมืองนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวไม่ได้ ทั้งสามเมืองก็จะวิกฤต ท่านเป็นผู้มีบารมีในพื้นที่ ควรไปบำรุงขวัญชาวเมืองให้ลุกขึ้นต่อสู้”

เทียหยกจึงเดินทางไปฟ่านเซียน ที่เป็นทางผ่านจากเอียงเสียก่อนไปถึงตงอา เพื่อเจรจาความกับจิ้นอวิ่นเข้าเมืองฟ่านซียนที่รับปากยืนยันจะรักษาเมืองจนถึงที่สุดไม่คิดทรยศโจโฉ เทียหยกจึงไปตงอาพบจ่าวจือ ลูกน้องคนสำคัญของโจโฉ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองตงอาให้ระดมกำลังพร้อมกับมือข้าศึก ในที่สุดก็สามารถรักษาเมืองทั้งสามไว้ได้

อ้วนเสี้ยวฉวยโอกาส ส่งคนเข้าโน้มน้าวโจโฉให้ย้ายครอบครัวไปตั้งที่เงียบเสียงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกุนจิ๋ว เงียบเสียงเป็นเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของเอ๊กจิ๋วอันเป็นฐานที่มั่นของอ้วนเสี้ยว ถ้าหากโจโฉย้ายครอบครัวเข้าไปก็จะเปรียบเสมือนนกในกรงของอ้วนเสี้ยว ปณิธานต่างๆ ก็ยากจะกลายเป็นจริง ขณะที่โจโฉกำลังตกอยู่ในสภาวะอับจนไปชั่วเวลาหนึ่ง กําลังคิดจะรับคำอ้วนเสี้ยว เทียหยกที่เพิ่งเสร็จจากภารกิจทราบข่าวรีบขอเข้าโจโฉเพื่อทัดทานทันที

เทียหยกให้เหตุผลว่า อ้วนเสี้ยวครอบครองเอ๊กจิ๋วอยู่ แต่ละโมบอยากผนวกดินแดนทั้งหมด ติดที่ความสามารถไม่พอจะทำให้ความทะเยอทะยานเป็นจริงก็เท่านั้นเอง หากโจโฉยอมแพ้ให้กับคนเช่นนี้จริงๆ แล้ว ก็จะเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งเช่น หานซิ่น เผิงเวี่ยเท่านั้น แม้ว่าตอนนี้กุนจิ๋วจะชำรุดทรุดโทรม แต่ยังเหลืออีกสามเมือง (เอียงเสีย ตงอา และฟ่านเซียน) ยังคงมีทหารที่เข้มแข็งอีกหมื่น ขอให้พิจารณาตัดสินใจใหม่ให้รอบคอบอีกครั้ง

เมื่อโจโฉทราบความทั้งหมด จึงกุมมือเทียหยกกล่าวว่า “ถ้าไม่มีท่านที่คอยช่วยเหลืออย่างสุดกำลังเช่นนี้ ข้าคงไม่มีบ้านให้กลับแล้ว” ที่ช่วยให้โจโฉสามารถทวงคืนกุนจิ๋วสำเร็จ หากศึกครั้งนี้ไม่มีเทียหยกช่วย และทักท้วงโจโฉไม่ทัน ประวัติศาสตร์สามก๊กคงมีต้องปรับเขียนใหม่

เช่นนี้เมื่อเทียหยกเสียชีวิตโจโฉจึงถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความอาลัย

 


ข้อมูลจาก

หลี่อันสือ-เขียน, เกียรติศักดิ์ ฟงปรีชากุล-แปล. สงครามสามก๊ก 26 ยุทธวิธีสู่ชัยชนะ, สำนักพิมพ์มติชน, พิพม์ครั้งแรก มกราคม 2558

หลี่อันสือ-เขียน, วรางค์ ตติยะนันท์, ปิยะพร แก้วเหมือน-แปล. ยอดวีรชนสามก๊ก 33 ผู้มีใจสูง, สำนักพิมพ์มติชน, พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2558


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2564