ผู้เขียน | รัชตะ จึงวิวัฒน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เปิดเส้นทาง Buena Vista Social Club โปรเจกต์ประวัติศาสตร์ของโลกดนตรี อัลบั้มเพลงพื้นถิ่นคิวบาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งลาติน จากฝีมืออันล้ำลึกของกลุ่มคนดนตรีสูงวัยในสังคมหลังปฏิวัติคิวบา ท่ามกลางสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-คิวบา พวกเขาเลิกเกษียณมาอัดเพลงจนกลายเป็นอัลบั้มอมตะอีกชิ้นในประวัติศาสตร์ดนตรีร่วมสมัย
ความเชื่อว่า “อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข” เป็นทั้งวลีปลุกใจ ในขณะเดียวกันก็เป็นทั้งวลีที่ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่ในบางสถานการณ์ เรื่องสังขารเป็นข้อยกเว้นตามกรณีแรกได้จริง ตัวอย่างหนึ่งของกรณีนี้คือกิจกรรมประเภทดนตรี ซึ่งอายุไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการโลดแล่นท่ามกลางพายุแห่งโน้ต หากย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ดนตรีของโลก มีผลงานอมตะเหนือกาลเวลาจากฝีมือนักดนตรีสูงวัยมากมาย ผลงานชิ้นที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดคือกลุ่ม Buena Vista Social Club คนดนตรีรุ่นใหญ่ในคิวบาหลังยุคปฏิวัติที่เลิกเกษียณ กลับมาอัดเพลงจนกลายเป็นอัลบั้มในตำนานของโลกดนตรีจนถึงวันนี้
ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักคิวบาจากภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างซิการ์ ไปจนถึงภาพลักษณ์และบทบาทของบุคคลชื่อดังในประวัติศาสตร์อย่าง เช เกวารา (Che Guevara) หรือภาพของฟีเดล คาสโตร (Fidel Castro) หากมองภาพลงลึกไปในสังคมของคิวบาแล้ว พวกเขามีวัฒนธรรมหลายอย่างที่โดดเด่น และมีดนตรีเป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่ด้วยสถานการณ์หลายอย่างทำให้ดนตรีในคิวบาไม่ค่อยถูกเผยแพร่ไปนอกประเทศมากนัก
เป็นที่กล่าวขานกันว่า “ยุคทอง” ทางวัฒนธรรมคิวบาอยู่ในช่วงยุค 40-50s เมื่อมาถึงทศวรรษ 1950 คิวบาตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การปฏิวัติ การปฏิวัติสิ้นสุดลงเมื่อ ค.ศ. 1959 ในยุคหลังปฏิวัติมาถึงยุค 70s ช่วงเวลาหนึ่งระหว่างนั้น คิวบายังได้รับทุนและมีสหภาพโซเวียตหนุนหลังอยู่ ฟิเดล คาสโตร นำแนวคิดสวัสดิการสังคมต่างๆ มาดำเนินการอย่างเบ่งบาน ผู้คนรับการรักษาฟรี ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ เห็นอนาคตสดใส มีแต่คนตะโกนเรียกชื่อ ฟิเดล คาสโตร
เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลงในต้นยุค 90s คิวบาไม่มีคู่ค้าที่เป็นสังคมนิยมก็เข้าสู่ยุคที่โดนมาตรการทางเศรษฐกิจของมหาอำนาจจนเริ่มเกิดภาวะอาหารขาดแคลน ของกินของใช้ราคาแพง น้ำไม่ไหล สวัสดิการการแพทย์ที่เคยเป็นตัวชูโรงก็ตกต่ำลง
ยุคต้น 90s ผู้คนในคิวบาใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ฟิเดล คาสโตร ใช้ “การท่องเที่ยว” เข้ามาช่วยโดยหวังว่าการเปิดประตูให้โลกภายนอกเข้ามาท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจได้ ธุรกิจการท่องเที่ยวเริ่มตั้งไข่ขึ้นในต้นยุค 90s พร้อมๆ กับธุรกิจด้านดนตรี ค่ายเพลงจากต่างประเทศเข้ามาค้นหาวัตถุดิบเพื่อนำไปทำการค้า
“บูเอนา วิสตา โซเชียล คลับ” (Buena Vista Social Club) เป็นโปรเจกต์ดนตรีพื้นถิ่นคิวบาที่เริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1997 ชื่อ “บูเอนา วิสตา โซเชียล คลับ” ก็เป็นชื่อคลับในฮาวานา (Havana) ที่มีอยู่จริง เป็นคลับที่รับเฉพาะสมาชิกเท่านั้น แต่ปิดตัวลงตั้งแต่ยุค 40s แล้ว
จุดกำเนิดของการรวมตัวนักดนตรีวัยเกษียณเริ่มขึ้นจาก ราย คูเดอร์ (Ry Cooder) มือกีตาร์ที่โด่งดังเรื่องการเล่นด้วยอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่าสไลด์ (Slide) ได้รับเชิญจากนิค โกลด์ (Nick Gold) โปรดิวเซอร์ชาวบริติชที่ทำงานค่ายเพลงแนวเวิลด์มิวสิกให้ไปทำเพลงที่นักดนตรีมาลีจะมาเล่นร่วมกับนักดนตรีท้องถิ่นของคิวบาเพื่อสะท้อนเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างดนตรีคิวบากับดนตรีแอฟริกันตะวันตก
แต่ปรากฏว่าชาวแอฟริกันพบปัญหาติดขัดจนไม่ได้รับวีซ่าทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าฮาวาน่าได้ เลยต้องเปลี่ยนแผนไปทำอัลบั้มดนตรีท้องถิ่นคิวบาแทนเพราะจองสตูดิโอไว้แล้ว (โกลด์ สามารถทำโปรเจกต์ดั้งเดิมที่คิดไว้สำเร็จจนได้ในปี 2010)
ทั้งนี้ การเดินทางของราย คูเดอร์ ก็ไม่ได้ง่ายเช่นกัน เล่ากันว่า การเดินทางไปคิวบาก็ต้องเดินทางผ่านเม็กซิโกก่อนเพื่อเลี่ยงระเบียบจากมาตรการทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อคิวบา
จริง ๆ แล้ว ราย คูเดอร์ มีพื้นเพเล่นร็อก บลูส์ มาสายดนตรีพื้นเมืองแบบกีตาร์ฮาวาย และกีตาร์คิวบาด้วย อีกทั้งยังสนใจสไตล์ท้องถิ่นของคิวบาที่มีกีตาร์นำ โดยมีศัพท์เรียกกันว่า ดนตรี Cuban Son
เมื่อพบว่าเป้าหมายเดิมของงานไปไม่ได้ พวกเขาเลยเปลี่ยนแผนมาทำงานท้องถิ่นคิวบา และมาลงเลยที่ไอเดียตั้ง “ออเคสตรา” ร่วมกับคนดนตรีมีชื่อในคิวบา คูเดอร์ ไปหานักดนตรีหนุ่มคิวบาให้มาช่วยแนะนำรายชื่อนักดนตรีมือชั้นยอดในท้องถิ่นให้หน่อย
ลิสต์ที่ออกมาเดิมทีแล้วมีแค่นักดนตรีรุ่นใหญ่ 2 ราย คือ นักเปียโนวัย 79 ปี (อายุเมื่อ 1997) ชื่อรูเบ็น กอนซาเลซ (Rubén González) กับนักกีตาร์วัย 89 ปีชื่อกัมเปย์ เซกุนโด (Compay Segundo) แล้วก็ได้ทั้งสองคนนี้ไปหาคนอื่นมาต่อกันไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ที่หามาก็เป็นเพื่อนของทั้งคู่ อายุก็เลยเลข 6 ไปหมดแล้ว แม้จะทรงเหมือน “คนเกษียณ” แต่ทักษะเล่นเครื่องดนตรีหรือเสียงร้องยังเฉียบด้วยกันทั้งนั้น
กรณีของกัมเปย์ (Compay Segundo) เขาเลิกเล่นดนตรีตั้งแต่ปี 1970 และหันไปมวนซิการ์ตามวิถีชีวิตเดิมตั้งแต่ปลายทศวรรษ 30s ส่วนรูเบ็น กอนซาเลซ (Rubén González) นักเปียโนที่ราย คูเดอร์ อธิบายว่าเป็นนักโซโลเปียโนที่ยอดเยี่ยมสุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมาในชีวิต (จนถึงปี 1997) และเปรียบเทียบว่า “เหมือนส่วนผสมระหว่าง Thelonius Monk (นักดนตรีและนักประพันธ์ชื่อดัง) กับ Felix the Cat (ชื่อตัวการ์ตูน)”
แต่จริง ๆ แล้ว รูเบ็น เลิกเล่นเปียโนมาหลายปีเพราะโรคปวดข้อ และอีกเหตุผลคือไม่มีเปียโนเล่น เปียโนของเขาโดนปลวกกินไปแล้วประกอบกับสภาพอากาศร้อนชื้นเล่นงานเข้าขณะที่ตัวเขาอาศัยในลาตินอเมริกา
ตอนแรกเริ่ม คณะทำงานมีเพลงอยู่ไม่กี่เพลง พอรวมนักดนตรีได้มากขึ้นเรื่อย ๆ มีนักดนตรีมากขึ้นเป็นรายวัน เพลงก็มากขึ้นตามมา ไล่ไปตั้งแต่เพลงยุค 50s ยุคแรกเริ่มของซัลซ่า ส่วนเพลงที่นักดนตรีเล่นกันก็หลากหลาย เพราะนักดนตรีรุ่นใหญ่ที่มาแจมผ่านยุคสมัยของดนตรีสำหรับเต้นมาหลายยุค ตั้งแต่รุมบ้า (Rumba), มัมโบ (Mambo), ชะชะช่า (Cha-cha-cha) และซัลซ่า (Salsa)
นักดนตรีบางคนก็เล่นร่วมกับบุคคลที่ริเริ่มบุกเบิกแนวพวกนี้ด้วย อย่าง Rubén González ก็เล่นกับนักกีตาร์ที่พิการทางสายตาชื่อ Arsenio Rodriguez ซึ่งเชื่อกันว่าบุกเบิกสไตล์มัมโบ และเล่นกับ Enrique Jorrín ผู้คิดค้นสไตล์ “ชะชะช่า” เรียกได้ว่า ช่ำชองเป็นคำพื้นฐานเกินไปสำหรับนักดนตรีรุ่นใหญ่เหล่านี้
นอกเหนือจากคนในลิสต์แรกเริ่ม พวกนักดนตรีที่ทยอยเข้าร่วม บางคนก็ไปทำอย่างอื่นแล้ว นักร้องชื่อ Ibrahim Ferrer เคยเป็นนักเต้นในคลับ ไปหาเลี้ยงชีพด้วยการขัดรองเท้าและขายลอตเตอรี่ก็ได้อัลบั้มนี้พลิกโชคชะตา กลับมาร้องเพลงแบบสุดชีวิต ปี 2003 ยังคลอดอัลบั้ม Buenos Hermanos และได้รางวัลแกรมมี่ด้วย แต่เข้าสหรัฐฯ ไปรับรางวัลไม่ได้
อัลบั้ม Buena Vista Social Club อัดกันที่ EGREM สตูดิโอประวัติศาสตร์ในฮาวานา ก่อนยุคปฏิวัติคิวบา ศิลปินชื่อดังทั้งในคิวบาและศิลปินอย่าง แนท คิง โคล (Nat King Cole) ต่างต้องใช้สตูดิโอแห่งนี้อัดเสียงซึ่งเครื่องไม้เครื่องมือยังตกทอดมาจากยุคก่อนปฏิวัติคิวบาในยุค 40-50s พวกเขาอัดกัน 6 วัน
อัลบั้มมี 14 เพลง เพลงเปิดคือ Chan Chan เพลงลายเซ็นของโปรเจกต์ ซึ่งท่วงทำนองติดหู ฟังครั้งแรกก็จดจำกันได้เลย โกลด์ เล่าไว้ว่าพวกเขาอัดเพลงนี้เป็นเพลงแรกและอัดแค่เทคเดียวเท่านั้น เมื่อมาเปิดฟังแล้วพวกเขารู้สึกว่ากำลังทำงานที่สำคัญอยู่เนื่องจากสภาพบรรยากาศสังคมในเวลานั้น สหภาพโซเวียตเพิ่งล่มสลายไป และคิวบาอยู่ในสภาพยากลำบาก
อัลบั้มนี้ปิดด้วยเพลงช้าทำนองไพเราะสไตล์ลาตินเนื้อหาปลุกใจรักชาติ ชื่อ La Bayamesa (คนละเพลงกับทำนองเพลงชาติคิวบาที่ชื่อเดียวกัน) เป็นเพลงที่ไพเราะมากอีกเพลงในอัลบั้ม
ส่วนราย คูเดอร์ ให้สัมภาษณ์บอกว่าเขาทำแค่ “ซาวด์ เอฟเฟกต์” แค่นั้นเอง เพราะนักดนตรีกลุ่มนี้เจ๋งอยู่แล้ว แค่ต้องการอะไรเพิ่มเติมเล็กน้อยเท่านั้นเอง
อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จหลากหลายด้าน ในทางวัฒนธรรม ผลงานชุดนี้ทำให้ดนตรีคิวบาก่อนยุคปฏิวัติเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในยุคที่ไม่มีสื่อสังคมออนไลน์ อัลบั้มแพร่กระจายไปจากนักวิจารณ์ และการบอกเล่าปากต่อปาก กระทั่งวัฒนธรรมคิวบาเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐฯ มีคลาสสอนเต้นซุมบ้า มีบาร์สไตล์คิวบา เพลงดังในอัลบั้มไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ร้านกาแฟ เพลย์ลิสต์ของห้างร้านขายสินค้า ในด้านการค้า อัลบั้มทำยอดขายเกิน 8 ล้านแผ่น เป็นอัลบั้มเพลงคิวบาที่ทำยอดขายมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ในด้านกล่องรางวัล อัลบั้มนี้ได้รางวัลแกรมมี่สาขาอัลบั้มลาตินท้องถิ่นยอดเยี่ยมปี 1998 และอัลบั้มซัลซ่ายอดเยี่ยมเวทีลาตินบิลบอร์ดปี 1998
โปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จจนต่อยอดมาเป็นทัวร์แสดงดนตรี สมาชิกกลุ่มดั้งเดิมไปแสดง 3 โชว์คือที่ Carré Theatre ในอัมสเตอร์ดัม ที่เนเธอร์แลนด์ 2 คืน และโชว์สุดท้ายที่ Carnegie Hall ในนิวยอร์ก โชว์นี้มี Wim Wenders นักทำหนังสารคดีมาบันทึกภาพไว้มาผลิตเป็นสารคดีชื่อเดียวกับวงด้วย
โชว์ที่นิวยอร์กมีอัลบั้มบันทึกเสียงออกมาเช่นกัน เพลงเวอร์ชั่นแสดงสดทำให้เห็นถึงพลังของ “คนดนตรีวัยเกษียณ” อย่างแท้จริง บทเพลงอันอมตะอย่าง Quizas, Quizas ที่มีทำนองติดหูมาจนวันนี้ เชื่อว่าหลายคนคุ้นทำนองเพลงนี้ เมื่อวงนี้เล่นแล้วช่างเป็นเวอร์ชั่นที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังและเสน่ห์ของลาติน และหลายเพลงที่บรรเลงโดยคณะ Buena Vista Social Club ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน
หลังจากโด่งดังจากอัลบั้มประวัติศาสตร์ของโลกดนตรี สมาชิกหลายคนทยอยลาจากโลกไป สมาชิกในคณะยุคหลังเปลี่ยนหน้าไปหลายราย ยังหลงเหลือ Omara Portuondo นักร้องหญิงที่เป็นกระบอกเสียงให้วงอยู่ในบางการแสดง Omara กำเนิดเมื่อค.ศ. 1930 ปัจจุบัน (2021) เธออายุร่วม 90 ปีแล้ว
ในมุมมองของโรบิน ดี มัวร์ (Robin D Moore) ศาสตราจารย์ด้านมานุษยดนตรีวิทยา (ethnomusicology) จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส (University of Texas) ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องดนตรีคิวบา เขามองว่า เรื่องราวของคณะดนตรีชุดนี้ที่ถูกถ่ายถอดออกมาในเชิงวิชาการมีแง่มุมเกี่ยวกับการโหยหาอดีตและเรื่องของยุคก่อนหน้าคณะนี้ ซึ่งเป็นยุคที่ชาวอเมริกันเข้าไปพัวพันในสังคมคิวบาค่อนข้างมาก มัวร์ เอ่ยถึงยุคก่อนหน้าในการให้สัมภาษณ์กับ “เดอะ การ์เดียน” (The Guardian) ว่า
“มีเรื่องเงินก้อนโตเข้ามาเกี่ยว มีมาเฟีย การพนันถูกกฎหมายก็มีในคิวบาแล้ว ซึ่งตรงข้ามกับในสหรัฐฯ คนเขาว่ากันว่า มีคลับและมีแหล่งแสดงดนตรีสดหลายแห่งด้วย”
มัวร์ ยังเล่าว่า นักมานุษยดนตรีวิทยาบางรายยังบอกว่าในสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคณะนี้ฉายภาพกลุ่มนักดนตรีเสมือนเป็นคนบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นตึกระฟ้า แต่อีกด้านคือ นักดนตรีหลายคนเคยมาสหรัฐฯ ก่อนการปฏิวัติแล้ว ในขณะเดียวกัน สารคดีเกี่ยวกับนักดนตรีกลับไปไม่ได้ถามถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงภายในคิวบาแม้ว่าพวกนักดนตรีเหล่านี้จะมีชีวิตผ่านยุคปฏิวัติมาด้วยตัวเองก็ตาม
“และในยุค 60s เมื่อการท่องเที่ยวสิ้นสุดลง ศิลปินเหล่านี้ได้รัฐบาลเลี้ยงดู และรัฐบาลยังจัดทัวร์แบบวงกว้างไปเยอรมันตะวันออกและรัสเซีย ญี่ปุ่นและจีน แต่ผมรู้สึกดีใจที่ได้เห็นนักดนตรีเหล่านี้เป็นที่รับรู้เพราะพวกเขาผ่านเรื่องยากลำบากมามากมายแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ และคิวบา ทำให้อาชีพของพวกเขาเสียหาย”
อิทธิพลของคณะดนตรีแห่งคิวบากลุ่มนี้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางสังคมและวัฒนธรรมดังที่กล่าวมาแล้ว จนถึงทุกวันนี้ หากเดินทางไปที่ฮาวานา และเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ หากมีเสียงเพลงลอยมาให้ได้ยิน ต้องมีสักบทเพลงเป็นผลงานของคณะนี้ น่าเสียดายที่คณะนี้อัดเสียงในสตูดิโอไว้เพียงอัลบั้มเดียวเท่านั้น ต่อมา ในปี 2015 ค่ายเพลง World Circuit คัดเลือกแทร็กที่ยังไม่เคยได้เผยแพร่มารวมเป็นอัลบั้มชื่อ Lost and Found
อ้างอิง :
Barton, Laura. “Buena Vista Social Club: the legends look back”. The Guardian. Online. Published 22 MAR 2015. Access 25 OCT 2021. <https://www.theguardian.com/music/2015/mar/22/buena-vista-social-club-the-sweet-sound-of-cuba>
BUENA VISTA SOCIAL CLUB. Access 25 OCT 2021. <http://www.buenavistasocialclub.com/story/>
Cobo, Leila. ” ‘I Knew We Were Doing Something Important’: Buena Vista Social Club Remembered, 25 Years Later”. Billboard. Online. Published 18 OCT 2021. Access 25 OCT 2021. <https://www.billboard.com/articles/columns/latin/9646459/buena-vista-social-club-album-oral-history/>
TSIOULCAS, ANASTASIA . “20 Years On, That Buena Vista Social Club Magic Endures”. NPR. Online. Published 26 SEP 2017. Access 25 OCT 2021. <https://www.npr.org/sections/therecord/2017/09/26/552677631/20-years-on-that-buena-vista-social-club-magic-endures>
เผยแพร่เนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 ตุลาคม 2564