“หนังขายยา” ยุทธวิธีต่อสู้ “คอมมิวนิสต์” ยุคสงครามเย็นของอเมริกาในไทย

หนังกลางแปลง หนังขายยา
บรรยากาศสถานที่ฉายหนังกลางแปลง หนังขายยา ก่อนเริ่มฉาย แต่ส่วนใหญ๋ไม่มีม้านั่งเช่นในภาพ (ภาพไม่ทราบที่มา)

หนังขายยา (ที่ยุคนี้คนไทยอาจไม่ค่อยคุ้นเคยกันแล้ว) เริ่มมีขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเอกชนเจ้าของสินค้านำภาพยนตร์ไปฉายในชนบท พร้อมกับการจำหน่ายสินค้าของบริษัท ออกหน่วยบรรทุกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องปั่นไฟ เครื่องฉายหนัง จอ ลำโพง ฯลฯ โดยใช้พาหนะต่างๆ ตามความเหมาะสมของพื้นที่

อย่างการใช้หน่วยรถยนต์ในพื้นที่ที่ถนนไปถึง, ใช้หน่วยเรือตามแม่น้ำลำคลองในเขตสมุทรปราการ อยุธยา ปากน้ำโพ ปราจีนบุรี รวมทั้งลำคลองสายหลักในเขตกรุงเทพฯ, ใช้หน่วยเกวียนในพื้นที่ไม่มีถนน ฯลฯ ส่วนการจำหน่ายสินค้าจะมีเป็นระยะๆ ระหว่างการฉายภาพยนตร์ ซึ่งแม้จะเรียกว่าหนังขายยา แต่สินค้ากลับมีหลากหลาย

Advertisement
หน่วยรถของบริษัท โอสถสภาเต็กเฮงหยู จำกัด ในอดีต ที่ออกฉายหนังขายยา (ภาพจาก ปกิณกคดี 100 ปีการสาธารณสุขไทย)

แม้จะดูเป็นความบันเทิงควบคู่กับการตลาด แต่ในยุคสงครามเย็น “หนังขายยา” ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือการแย่งชิงมวลชนของภาครัฐด้วยอีกแง่หนึ่ง 

ช่วงทศวรรษที่ 2490 การเมืองระหว่างประเทศมีความแปรผันอย่างมาก เช่น การปฏิวัติในจีน (พ.ศ. 2492) สงครามเกาหลี (พ.ศ. 2493) สงครามในอินโดจีนและความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสที่เดียนเบียนฟู (พ.ศ. 2497) และการรุกคืบของคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สหรัฐอเมริกา หนึ่งในประเทศผู้นำโลกเสรีให้ความสำคัญกับการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคนี้อย่างมาก ประเทศไทยถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางของปฏิบัติการลับและปฏิบัติการจิตวิทยาในภูมิภาค จึงมีการสนับสนุนด้านการทหารแก่รัฐบาลไทยอย่างมหาศาล ควบคู่กับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ

หน่วยงานดังเช่น ยูซิส หรือ สำนักข่าวอเมริกัน (United State Information Unite, USIS) หน่วยงานเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสหรัฐฯ เป็นกลไกหนึ่งในปฏิบัติการทางจิตวิทยา เครือข่ายปฏิบัติการของยูซิสพร้อมกับหน่วยโฆษณาชวนเชื่อย่อยๆ เข้าไปในเขตชนบทลึกถึงระดับหมู่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสาน มีผู้เชี่ยวชาญในสงครามจิตวิทยาออกเดินทางไปแจกโปสเตอร์ และสมุดคู่มือการต่อต้านคอมมิวนิสต์ให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ในเวลากลางวัน และฉายภาพยนตร์ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในตอนกลางคืน เช่นเดียวกับหนังขายยา

แต่จุดประสงค์ครั้งนี้เป็นการขายความคิด สร้างความเชื่อที่ต้องการแผยแพร่

การสกัดกั้นคอมมิวนิสต์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ช่วงปลายทศวรรษ 2490 USOM (United States Operation Mission) ให้ความช่วยเหลือในโครงการจัดตั้งโรงพยาบาลให้ครบทุกจังหวัดของไทย ซึ่งเกิดขึ้นจริงได้ก่อน พ.ศ. 2500 โดยใช้งบประมาณของ AID (Agency for International Development-หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ) ของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ ยังทำข้อตกลงกับรัฐบาลไทยในการจัดตั้งหน่วยงานวิจัยมาลาเรียในประเทศไทย (พ.ศ. 2500) เพื่อควบคุมและกวาดล้างไข้มาลาเรียในไทย เนื่องจากทหารของสหรัฐอเมริกาเข้ามาปฏิบัติการในภูมิภาคต้องเผชิญกับไข้ป่ามาลาเรียล้มป่วยเป็นจำนวนมาก ทำให้อัตราการเสียชีวิตด้วยไข้มาลาเรียต่อประชากรใน 100,000 คน ลดจากร้อยละ 24.5 ใน พ.ศ. 2504 เหลือร้อยละ 18.2 ใน พ.ศ. 2507

หนังขายยาและการสาธารณสุข จึงกลายเป็นยุทธวิธีที่สหรัฐใช้สู้กับคอมมิวนิสต์ในไทยไปอย่างเนียนๆ 

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


ข้อมูลจาก :

โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ บรรณาธิการ. ปกิณกคดี 100 ปีการสาธารณสุขไทย, หอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข , เมษายน 2561


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563