ผู้เขียน | อดิเทพ พันธ์ทอง |
---|---|
เผยแพร่ |
จริงรึ? ที่ว่า มี “ห้องลับ” ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลัง รูปแกะสลัก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ “เมาต์รัชมอร์” แน่ใจรึว่านั้นไม่ได้เป็นเพียงพล็อตเรื่องของหนังฮอลลีวูด ที่พระเอกตามแกะรอยปริศนาตามสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อหาขุมทรัพย์ที่บรรพชนซ่อนเร้นเอาไว้?
ถ้า “ห้องลับ” หมายถึงห้องที่ผู้สร้างตั้งใจจะ “ไม่ให้ใครรู้” คงบอกได้เลยว่าไม่มี แต่ถ้าเป็นห้อง “ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก” ละก็มีอยู่ห้องหนึ่ง เพียงแต่ว่าห้องดังกล่าวผู้สร้างมิได้เจตนาจะสร้างให้มันเป็น “ห้องลับ” อะไร ติดตรงที่ห้องที่ว่านี้ถูกสร้างค้างคาเอาไว้ไม่สำเร็จ ภายหลังจึงถูกหลงลืมไป จนบางคนเรียกห้องดังกล่าวว่าเป็น “ห้องลับ”
ที่มาที่ไปของห้องลับแห่งนี้มีอยู่ว่า กัตซอน บอร์กลัม (Gutzon Borglum) ประติมากรผู้ออกแบบวางแผนการก่อสร้างอนุสาวรีย์ “เมาต์รัชมอร์” ต้องการที่จะสร้างจารึกขนาดใหญ่บอกเล่าเหตุการณ์สำคัญของสหรัฐฯ ประกบคู่กับรูปแกะสลักของเขา เพื่อบอกเรื่องราวให้กับคนรุ่นหลัง
น่าเสียดายว่าไอเดียบรรเจิดของ บอร์กลัม เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากไม่อาจสลักตัวอักษรได้ใหญ่พอที่จะสามารถอ่านเห็นได้จากระยะไกล ประกอบกับต้องกันพื้นที่ให้กับรูปสลักของ อับราฮัม ลินคอล์น จึงทำให้แผนที่จะสร้างจารึกขนาดใหญ่ต้องล้มพับไป
บอร์กลัม จึงเปลี่ยนใจหันมาสร้างห้องขนาดใหญ่ด้วยการเจาะภูเขาแห่งนี้ เพื่อเป็นที่เก็บรักษาเอกสาร และวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศแทน
ตามแบบที่เขาวางเอาไว้ ห้องแห่งนี้จะมีขนาดราว 24.38 เมตร คูณ 30.48 เมตร มีทางเข้าอยู่ด้านหลังรูปสลักของลินคอล์น บนประตูทางเข้าประดับด้วยรูปปั้นนกอินทรีสัมฤทธิ์ และเหนือนกอินทรีขึ้นไปมีจารึกระบุว่าเป็น “The Hall of Records”
แผนการก่อสร้างดังกล่าวอย่างที่ได้บอกไปตอนต้นว่า มิใช่ “เรื่องลับ” และมีการกล่าวถึงอย่างชัดเจนในรัฐบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการก่อสร้างเมาต์รัชมอร์ ปี 1938 เพียงแต่ใช้ชื่อต่างออกไปว่า “หอพิพิธภัณฑ์” (museum hall)
แต่เมื่อเข้าปี 1939 หลังการก่อสร้างดำเนินไปได้เพียงไม่ถึงหนึ่งปี ทางรัฐบาลก็สั่งให้ยุติการก่อสร้างห้องดังกล่าว และสั่งให้บอร์กลัมมุ่งทำการสลักหน้าของประธานาธิบดีทั้ง 4 ให้สำเร็จเท่านั้น
ห้องที่บอร์กลัมตั้งใจจะให้เป็นหอเก็บบันทึกสำคัญ จึงถูกทิ้งร้างไปนานหลายสิบปี ทำให้หลายคนไม่รู้มาก่อนว่ามีห้องที่ว่านี้อยู่บนเมาต์รัชมอร์ แต่เจตนารมณ์ของ บอร์กลัม ก็ได้รับการสานต่อ แม้จะไม่ได้เป็นไปตามแผนเดิมที่เขาวางไว้
โดยในปี 1998 เอกสารสำคัญซึ่งจารึกลงบนเครื่องเคลือบ 16 ชิ้น ก็ได้ถูกบรรจุลงในกล่องไม้สัก ก่อนนำไปใส่ในตู้เซฟไทเทเนียมอีกชั้นหนึ่ง แล้วครอบทับด้วยแผ่นหินแกรนิต ติดตั้งไว้ที่ทางเข้าของห้องที่เขาตั้งใจจะให้เป็นหอเก็บบันทึกสำคัญ
อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่า สถานที่แห่งนี้เข้าถึงได้ลำบาก และการเดินทางก็ค่อนข้างอันตราย ทางการจึงมิได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชม เราจึงได้แต่ชมภาพจากสำนักงานอุทยานแห่งชาติของสหรัฐฯ นำมาเผยแพร่เท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม :
- ข้อเท็จจริงที่ทำให้ไทย “ไม่แพ้” ใน “สงครามโลกครั้งที่ 2” ไม่ใช่เพราะไทย เพราะนโยบายสหรัฐฯ
- พบซากเรือรบสหรัฐฯ USS Hornet ถูกญี่ปุ่นจมสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสาบสูญ 77 ปี
- ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าเยี่ยมคำนับท่านรีเย้นท์ (ช่วง บุนนาค) ผู้มากบารมีสมัยรัชกาลที่ 5
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
“Hall of Records”. National Park Service. <https://www.nps.gov/moru/learn/historyculture/hall-of-records.htm>
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 ตุลาคม 2560