สมัยคุณทวดใช้รถยี่ห้ออะไรกัน เอเย่นต์ อู่มีบริการอะไรบ้าง

รถเก๋งสมัยรัชกาลที่ 6 บริเวณถนนเจริญกรุง ตรงสี่กั๊กพระยาศรี (ภาพจากหนังสือกรุงเทพฯ ในอดีต)

รถยนต์มีครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปลายรัชกาลที่ 5 ในระยะแรกใครมีรถยนต์ขับขี่ได้ต้องเป็นเจ้านาย, เป็นขุนนางราชสำนัก, เป็นคฤหบดีผู้มีเงินมาก ฯลฯ หลังจากที่เมืองไทยสั่งรถยนต์เข้ามาใช้กันเรื่อย ๆ รถยนต์เริ่มเป็นที่นิยมกว้างขวาง แม้แต่พ่อค้าพาณิชย์และราษฎรทั่ว ๆ ไปก็นิยมขี่ด้วย ห้างร้านในกรุงเทพฯ จึงเริ่มเป็นเอเย่นต์ หรือตัวแทนจําหน่ายรถยี่ห้อต่าง และกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ตามมา

มาดูกันว่ารถยนต์สมัยนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ซื้อกันที่ไหน แล้วเติมน้ำมันที่ปั๊มอะไร

ร.อ.หลวงอายุทธประดิษฐ์ (สุข อามระดิษ) อายุ 84 ปี หนึ่งในผู้ที่มีรถยนต์ขี่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2454 (ร.ศ. 130) บอกเล่าว่า รถยนต์ที่เข้ามาขายในประเทศไทยสมัยแรก ๆ เป็นรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด ซึ่ง ร.อ.หลวงอายุทธฯ ซื้อมาจากอู่บางกอกด็อคในราคา 1,200 บาท เป็นรถสีดำ 4 ประตู นั่งได้ 5 คน คือข้างหน้า 2 คน และข้างหลัง 3 คน วิ่งได้เร็วชั่วโมงละ 4-8 ไมล์

ร.อ.หลวงอายุทธฯ เล่าถึงรายละเอียดของรถยนต์สมัยนั้ยว่า เป็นรถไม่มีเกียร์ ใช้คลัชแทนเกียร์ เดินหน้า ถอยหลัง ก็ใช้คลัชคือเหยีบข้างซ้ายเต็มที่เป็นเกียร์ 1 เหยียบเบาเป็นฟรี ถ้าปล่อยเป็นเกียร์ 2 ถ้าเหยียบข้างขวาเต็มที่เป็นห้ามล้อ และมีห้ามล้อมือถืออีกอันหนึ่งอยู่ขวามือ ภายหลัง ร.อ.หลวงอายุทธฯ เปลี่ยนไปใช้รถเปอโยต์ และรถเฟียตตามลำดับ

ส่วนบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เป็นเอเย่นต์รถยนต์ และเครื่องอะไหล่รถยนต์ยี่ห้อต่าง ๆ ดังนี้

ห้าง ย.ร. อันเดร อยู่สี่กั๊กพระยาศรี เป็นเอเย่นต์รถยนต์ห้างอาดัมโอเปิล เมืองรัซเซลไฮม์

บริษัทอู่บางกอกทุนจํากัด อยู่ยานนาวา เป็นเอเย่นต์รถยนต์ซิดเดเล รถยนต์ไซเล็นไนต์ รถยนต์โฟ๊ด (ฟอร์ด) รถยนต์บรรทุกของและรถโดยสารห้างสตาร์ กับเป็นเอเย่นต์ขายเครื่องอะไหล่รถยนต์ยี่ห้อต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ตลอดจนทําการขายยางรถยนต์ทั้งยางนอกยางในของยี่ห้อมิเชลินด้วย อนึ่ง ที่บริษัทนี้มีโรงแก้รถยนต์ (อู่ซ่อม) ขนาดใหญ่ สามารถรับแก้ได้พร้อม ๆ กันทีเดียวถึง 20 คัน ซึ่งนับว่าเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย สมัยนั้น

โรงซ่อมรถยนต์ที่อู่บางกอกด็อก (ภาพจากหนังสือกรุงเทพฯ ในอดีต)

ห้างคอมตัวร์ ฟรังแซซ ดูเซียม ตั้งอยู่ที่ถนนสี่พระยา เจ้าของห้างเป็นชาวฝรั่งเศส ชื่อ มองซิเออร์ เป แอม ลอร์เต เป็นเอเย่นต์รถยนต์ของฝรั่งเศส

ห้าง เอส. เอ. บี. (โซไซเอเต อานอน นีม เบลช) ออฟฟิศใหญ่อยู่ถนนเจริญกรุง (สี่แยก เอส. เอ. บี. ในปัจจุบันสี่แยกนี้ได้มาจากชื่อห้างนี้ซึ่งตั้งอยู่) เป็นเอเย่นต์รถยนต์และเครื่องอะไหล่โคมรถยนต์เบลอริโอและยางมิเชลิน กับมีโรงแก้รถยนต์เสียอีก 1 โรง

บริษัทสยามฟอเรซต์ทุนจํากัด เป็นเอเย่นต์รถยนต์เปอยู (เปอโยต์)

ห้างของหลุยส์ เลียวโนแวนซ์ เป็นเอเย่นต์ยางรถยนต์หลายยี่ห้อ

บริษัทวินด์เซอร์ (ห้างสี่ตา) เป็นเอเย่นต์รถยนต์ แกก เยนอ ขนาด 18 แรงม้า 4 สูบ ของบริษัท สูเอด ดูเชอ อโทโมบิล แฟปริก กับมีโรงแก้รถยนต์ 1 โรง

ห้างแอล. โบเฮนสกี ตั้งอยู่ที่ถนนมหาชัย ประตูสามยอดเป็นเอเย่นต์รถยนต์โปรโตส รถยนต์อากา และ รถยนต์ยี่ห้ออื่น ๆ อีก 2-3 ยี่ห้อ

ห้างบัตเลอร์ แอนด์ เว็บสเตอร์ ตั้งอยู่ที่ สี่กั๊กพระยาศรี เป็นเอเย่นต์รถยนต์เอสเซกส์ ซึ่งกินน้ำมันเบนซินเพียง 25 ไมล์ ต่อ 1 แกลลอน คุณภาพของรถยี่ห้อนี้ ที่พิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ อีกก็คือ ใช้เหล็กกันชนอย่างดี ประตูหน้าต่างปิดเปิดได้สะดวก

ยี่ห้อติ๊ดเฮง ตั้งอยู่ที่หน้าวังบูรพา ขายเครื่องอะไหล่ รถยนต์ และเป็นเอเย่นต์ยางรถยนต์ของห้างนอรทบริตติช รับเบอร์กลินเชอร์ กับรับจ้างปะยางรถยนต์ด้วยเครื่องไฟฟ้า รวมถึงขายน้ำมันเบ็นซิน น้ำมันเครื่องและจาระบี

รถยนต์ขับไปก็ต้องหาที่เติมน้ำมัน เวลาจะเติมน้ำมันรถยนต์ตามร้านขายน้ำมัน ก็เอากรวยน้ำมันแหย่ลงไปในที่เติมน้ำมันรถยนต์ แล้วก็เอาน้ำมันซึ่งบรรจุปี๊บเทลงไปตามความต้องการ ซึ่งการเติมน้ำมันด้วยวิธีนี้ บางครั้งก็เกิดไฟลุกไหม้ถลอกปอกเปิกทั้งคนขับและคนเติมน้ำมัน เนื่องจากความสับเพร่าเผลอเรอไม่ดับบุหรี่ที่สูบ

สําหรับร้านค้าน้ำมันในสมัยนั้นก็ปรากฏมีอยู่ทั่วพระนคร แต่ไม่มากเหมือนสมัยนี้ อาทิ

ห้างนายเลิศ (ของนายเลิศ เศรษฐบุตร หรือพระยาภักดีนรเศรษฐ ผู้ริเริ่มตั้งบริษัทรถเมล์ขาว) อยู่ที่ปากคลองขุดใหม่ (คลองผดุงกรุงเกษม) คือที่สี่พระยาเวลานี้ ก็ทําการขายน้ำมันเบ็นซินของแสตนดาร์ด ออยล์ และน้ำมันก๊าด ตอลดจนสินค้าอื่น ๆ

ห้างนายเลิศ ซึ่งเป็นร้านขาน้ำมันรถยนต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ (ภาพจาก หนังสือกรุงเทพฯในอดีต)

กวางเชียง ตั้งอยู่ที่ถนนจักรวรรดิ์ และร้านอื่น ๆ อีกหลายสิบแห่ง

ส่วนบริษัทน้ำมันในสมัยนั้น ก็มีบริษัท แสตนดาร์ด ออยล์ (บริษัทต้นกําเนิดของบริษัท เอสโซ่ แสตนดาร์ด ประเทศไทย จํากัด) ซึ่งเข้ามาดําเนินกิจการเมื่อ พ.ศ. 2437 (สมัยรัชกาลที่ 5) มีผู้จัดการชื่อ มร. ชาลส์ รอเบิร์ตส

บริษัทเอเชียติกเปโตรเลียมทุนจํากัด โดยบริษัทบอร์นิโอทุนจํากัด ก็เป็นเอเย่นต์จําหน่ายน้ำมันยี่ห้อต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ด้วย

นี่คือเรื่องของการค้าการขายรถยนต์และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ในสมัยโน้น ซึ่งแน่ละ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ก็ได้ตื่นกันซื้อรถยนต์มาใช้แล้ว เพราะได้เล็งเห็นประโยชน์ของรถยนต์ ซึ่งมีความสะดวกสบายกว่ารถม้าเป็นอันมาก และท่านเหล่านั้นบางคนที่มีหัวการค้าก็ถึงกับซื้อรถยนต์ไว้ตั้งหลายคันก็มีแล้วก็ให้คนเช่าขับเที่ยว หรือบรรทุกของก็มี

 


ข้อมูลจาก :

เทพชู ทับทอง. กรุงเทพฯ ในอดีต, ห้างหุ้นส่วนจำกัด อักษรบัณฑิต 2518


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 22 เมษายน 2562