ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อครั้ง วิกฤตวังหน้า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (6 กันยายน 2381 – 28 สิงหาคม 2428) ทรงไปอาศัยในสถานกงสุลอังกฤษนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงกรมพระราชวังบวรฯ ใจความในเอกสารนี้ทรงแสดงให้เห็นว่า พระองค์ไม่มีความคิดจะกำจัดกรมพระราชวังบวรฯ อย่างที่ทรงหวาดหวั่น
วิกฤตวังหน้า
เมื่อครั้งเกือบเกิดสงครามกลางเมือง ใน พ.ศ. 2417 จากเหตุการณ์ปะทะระหว่างวังหลวงกับวังหน้า ภายหลังเหตุเพลิงไหม้อาคารในวังหลวง วังหลวงกับวังหน้าต่างระแวงตั้งคำถามอีกฝ่าย เหตุการณ์นี้ทำให้กรมพระราชวังบวรฯ หวั่นว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงคิดกำจัดหรือลดอำนาจของพระองค์ กรมพระราชวังบวรฯ จึงทรงไปอาศัยในสถานกงสุลอังกฤษ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเหตุการณ์ความสับสนนี้ สร้างบรรยากาศน่าหวาดหวั่นในเมืองไปจนถึงสถานทูต แม้ว่าภายหลังต่อมาเหตุการณ์คลี่คลายลงได้จากพระปรีชาอันสุขุม และกำลังความสามัคคีของขุนนางและราชวงศ์ แต่เหตุการณ์ระหว่างนั้นยังมีเอกสารที่บอกเล่าความสัมพันธ์และการติดต่อระหว่างเจ้านายทั้งสองพระองค์หลงเหลืออยู่ด้วย
พระราชหัตถเลขา
เอกสารที่ว่านี้คือเอกสารสำเนาพระราชหัตถเลขาในรัชกาลที่ 5 ถึงกรมพระราชวังบวรฯ ซึ่งนายไพโรจน์ โพธิ์ไทร อดีตบุคลากรพาณิชยการธนบุรี เล่าว่า ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อครั้งไปเยี่ยมสถานทูตโปรตุเกส เพื่อค้นหาเอกสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโปรตุเกสและไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
เอกสารในรัชกาลที่ 5 ที่นายไพโรจน์ขออนุญาตถ่ายเอกสารมา มีใจความว่า
“พระราชหัฐเลขา ถึงกรมพระราชวังบวรฯ
ลงวัน 3ฯ131 ค่ำปีจอฉศก
ด้วยการที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เปนการใหญ่ไม่เคยมีเลย ฉันมีความเสียใจมาก เธอไปอาไศรยอยู่ที่บ้านกงสุลอังกฤษนี้ ด้วยเหตุอันใด ฉันไม่ได้คิดจะฆ่าเธอ เธอมีความหวาดหวั่นข้อไหน เธอก็รู้อยู่เองว่าในแผ่นดินเราปัจจุบันนี้ ผู้ใดมีความผิดใหญ่หลวงที่ควรจะต้องตายก็ฆ่ากันไม่ได้ ด้วยอาไสการยุติธรรมเปนที่ตั้ง นี่เธอมีความสดุ้งหวั่นหวาดถึงชีวิต จะคิดการเกินไปดอกกระมัง ฤามีความผิดใหญ่อยู่ในใจ จึ่งได้มีความร้อนระแวงกัน ก็ไม่มีความสำคัญเลย ไม่ควรจะเปน
ฉันไม่ได้โกรธเธอๆ มาโกรธฉันข้างเดียว ฉันเสียใจหนัก เธอทำการถึงเพียงนี้ จภา (จะพา-ผู้เขียน) ให้เสียชื่อแผ่นดินไปทั้งสองฝ่าย ก็เธอจะคิดต่อไปอย่างไร จึ่งจะเปนการดีการชอบ อย่าให้ราษฎรได้ความเดือดร้อน หวั่นหวาดต่อไป การที่เปนไปนี้ ฉันก็ไม่ได้ทราบชัด ต่อเจ้าคุณมาบอกว่า เธอกลัวฉันฆ่าเธอ การนี้ฉันไม่ได้คิดเลย ถ้าเธอคิดเหนการอย่างไร จะเปนการเรียบร้อยสิ้นสงไส เลิกแล้ว เปนการดี จงมีหนังสือสำคัญมาให้รู้ด้วย”
บันทึกเอกสารที่วังหน้ามีไปถึงรัชกาลที่ 5 ความว่า
“กรมพระราชวังบวรตอบ
นอมเกล้าคำนับทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้าได้รับพระราชหัฐเลขา ทราบความทุกประการ พระเดชพระคุณหาที่สุทมิได้ ด้วยข้าพระพุทธเจ้าตั้งใจทำราชการฉลองพระเดชพระคุณโดยความสัจสุจริต มิได้คิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเลย ข้าพระพุทธเจ้าเหนว่า ไม่ทรงชุบเลี้ยงแล้ว จึ่งได้มาพึ่งฅอเวอนแมนต์อังกฤษ ได้บอกหนังสือเขาไปแล้ว ควรมิควรสุทแล้วแต่จะโปรด นอมเกล้าถวายมาณวัน 4ฯ141 ค่ำปีจอฉศก”
อ่านเพิ่มเติม :
- คำร่ำลืออาถรรพ์ “วังหน้า” กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อกรมพระราชวังบวรฯ ตรัสสาปแช่ง
- วิกฤตวังหน้า ปริศนาการเมืองร้อน เหตุการณ์เผาวังหลวง สู่การดึงอำนาจกลับคืนร.5
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ไพโรจน์ โพธิ์ไทร. “จริงหรือที่กล่าวกันว่าสงครามกลางเมืองเกือบจะเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5”. ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 7 ฉบับที่ 7 (พฤษภาคม 2529)
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม 2562