เรื่องเล่าตำนานที่มา “กบ” และ “คางคก” บนกลองมโหระทึก?

กบ เขียด หรือคางคกไปอยู่บนหน้ากลองมโหระทึกได้อย่างไร?

ในประเทศเวียดนามมีนิทานเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากมีชื่อว่า “ปู่คางคกบุกสวรรค์” เล่าว่า กาลครั้งหนึ่งได้เกิดความแห้งแล้งขึ้นบนโลก พืชพันธุ์และสัตว์ตายไปเป็นอันมาก ในสระน้ำแห้งเหือดแห่งหนึ่งมีคางคกน่ารังเกียจได้ตัดสินใจเดินทางเพื่อไปพบราชาแห่งสวรรค์ (King of Heaven) ระหว่างทางคางคกได้พบเพื่อนร่วมทางได้แก่ ปู หมี เสือ ผึ้ง และหมาจิ้งจอก เมื่อพวกมันได้ไปถึงประตูสวรรค์ คางคกได้มองเห็นกลองใบใหญ่ จากนั้นคางคกได้บอกเพื่อนของเขาว่า ปูจงเข้าไปในไหที่ใส่น้ำ ผึ้งจงอยู่หลังประตู หมาจิ้งจอก หมี และเสือให้ซ้อนอยู่ด้านข้างประตู

จากนั้นคางคกได้เอาไม้ตีกลอง ๓ ทีเสียงดังสนั่น ราชาแห่งสวรรค์รู้สึกโกรธมากเมื่อได้เห็นคางคกผู้กล้าทำเสียงดังบนสวรรค์ และได้สั่งให้ไก่มาฆ่าคางคก แต่คางคกได้เรียกให้หมาจิ้งจอกมาช่วย จากนั้นราชาได้สั่งให้หมาสวรรค์มาปราบหมาจิ้งจอก เมื่อหมาสวรรค์มาใกล้กับประตู หมีได้โผล่ออกมาและฆ่าหมาทิ้งเสีย ราชาโกรธมากจึงได้เรียกให้เทพเจ้าแห่งสายฟ้า (Thunder God) มาฆ่าหมี ทันใดนั้น เทพเจ้าแห่งสายฟ้าได้ถูกฝูงผึ้งที่ซ่อนอยู่หลังประตูต่อยเอา ร้องไห้เจ็บปวด เทพเจ้าแห่งสายฟ้ากระโดดหนีลงไปในไหใส่น้ำ ทันใดนั้น ปูที่ซ่อนอยู่ในไหก็เอาก้ามหนีบเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ทำให้เทพเจ้าแห่งสายฟ้าต้องกระโดดออกมา แต่แล้วก็ต้องเจอกับเสือที่โผล่ออกมาต่อสู้ด้วย

“หยุด หยุด” ราชาแห่งสวรรค์ขอร้อง “ปู่คางคก บอกเพื่อนของเจ้าและเสือช่วยหยุดทำร้ายเทพเจ้าแห่งสายฟ้าทีเถอะ” เสือจึงหยุดทำร้ายเทพเจ้าแห่งสายฟ้า เมื่อเห็นว่าไม่อาจเอาชนะคางคกและเพื่อนๆ ได้ ในที่สุดราชาแห่งสวรรค์จึงยอมต่อคางคก

“พระองค์ท่าน ฝนไม่ตกบนโลกมาช้านานแล้ว” ปู่คางคกพูด “ถ้าหากความแห้งแล้งยังดำเนินต่อไป สิ่งมีชีวิตบนโลกจะตายหมด พวกเราต้องการฝนสักครั้งเพื่อค้ำจุนชีวิตของพวกเราทั้งมวล”
ราชาแห่งสวรรค์เกรงว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกอาจจะปฏิวัติถ้าหากสัตว์ทั้งปวงไม่ได้รับฝน ดังนั้น ราชาจึงได้ตรัสกับคางคกด้วยความนุ่มนวลว่า “ปู่คางคก กลับไปบ้านไปเสีย แล้วฝนจะตกสู่โลกในทันใด”
แต่ก่อนที่คางคกและเพื่อนจะจากไป ราชาแห่งสวรรค์ได้พูดว่า “ปู่คางคก ในกาลข้างหน้า เมื่อพวกเจ้าต้องการฝน พวกเจ้าไม่ต้องมาที่สวรรค์อีก เพียงแค่ปู่คางคกส่งเสียงร้อง ข้าจะรู้ว่าข้าต้องปล่อยฝนลงไปสู่โลก”

เมื่อปู่คางคกกลับไปถึงโลก ฝนได้ตกลงในทุกที่ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อคางคกส่งเสียงร้อง ฝนก็จะตกลงในทันใด

ดังนั้น ที่เรียกกันว่าเป็น “กบ” บนหน้ากลอง จึงอาจเป็น “คางคก” บนหน้ากลองก็ได้ สาเหตุที่คางคกมีอำนาจถึงขนาดปราบราชาแห่งสวรรค์ได้ ก็เพราะเราจะสังเกตได้ว่าก่อนที่ฝนจะตกนั้นทั้งคางคก กบ เขียดต่างจะออกมาร้องก่อนที่ฟ้าจะผ่าฝนจะตก ด้วยเพราะมันเป็นสัตว์ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของความชื้นในอากาศ คนโบราณจึงคิดว่าคางคกเป็นผู้กำหนดฟ้าฝนให้ตกตามฤดูกาล


คัดจาก : “พญาคันคากบุกสวรรค์ปราบภัยแล้งสู้เทวดา”. โดย พิพัฒน์ กระแจะจันทร์. ศิลปวัฒนธรรม ฉบับสิงหาคม ๒๕๕๘

จากเว็บไซต์ที่จัดทำโดย Asia-Pacific Centre of Education for International Understanding, Southeast Asian Ministers of Education Organization Secretariat และ Southeast Asian Ministers of Education Organization Regional Centre for Archaeology and Fine Arts.