“พระไสยา” วัดบวรฯ พระนอนอายุ 600 กว่าปี ที่ต่างจากพระนอนทั่วไป 

พระไสยา
พระไสยา วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ (ภาพจาก " 108 องค์พระฏิมา พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน" )

เมื่อกล่าวถึง “พระนอน” แม้จะมีอยู่หลายปรางค์แตกต่างๆ กันไป แต่ก็มีลักษณะร่วมกันอยู่ เช่น มักเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มักสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูนมากกว่าหล่อด้วยสำริด และสร้างขึ้นเฉพาะวัดนั้น แต่สำหรับ “พระไสยา” วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ กลับมีความแตกต่างจาก “พระนอน” องค์อื่น

พระนอนองค์ใหญ่

เมื่อกล่าวถึง “พระนอน” ภาพแรกที่เป็นจดจำและนึกถึง ว่าเป็นเอกลักษณะของพระนอนทั่วไปก็คือ “พระพุทธรูปขนาดใหญ่โต” ตัวอย่างเช่น

พระพุทธไสยาส หรือ พระนอนวัดโพธิ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ขนาดองค์พระยาว 1 เส้น 3 วา (46 เมตร) เฉพาะพระพุทธยาว 5 เมตร สูง 3 เมตร

พระไสยา
พระนอนวัดโพธิ์ (ภาพจาก www.khaosod.co.th)

พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอนจักรสีห์ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร  อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งความยาวจากพระเมาลีถึงพระบาทคือ 1 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว หรือ 47.40 เมตร

พระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมกข์วรวิหาร อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง มีความยาว 50 เมตร

พระศรีเมืองทอง วัดขุนอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง มีความยาว 50 เมตร

พระไสยา
พระนอนวัดขุนอินทประมูล (ภาพจาก www.matichon.co.th โดย สุรินทร์ มุขศรี)

ขณะที่ พระไสยา วัดบวรฯ มีความยาวตั้งแต่พระบาทถึงพระเกศ 6 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว หรือประมาณ 3.37 เมตร เมื่อกับพระนอนทั่วไปแล้วจัดว่า “เล็กมาก”

วัสดุที่ใช้สร้าง

การสร้างพระพุทธส่วนใหญ่มักเป็น การหล่อด้วยสำริด, ก่ออิฐถือปูน ฯลฯ ส่วนปิดทอง แต่การสร้างพระนอนที่มีขนาดใหญ่ จึงมักเป็นการก่ออิฐถือปูนปิดทองเป็นหลัก

ส่วนพระไสยา วัดบวรฯ แม้ภายนอกจะเห็นว่าปิดทองอร่ามสวยงาม แท้จริงด้านในเป็น “พระศิลา” ที่นำมาลงรักปิดทอง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงนิพนธ์เรื่องพระศิลานี้ไว้ในหนังสือ ตํานานวัดบวรนิเวศวิหาร ความว่า

“พระศิลาอย่างนี้ไม่ได้ทําไว้เพื่อประดิษฐานเป็นศิลาอย่างเดิม ทําพอเป็นแกนที่เป็นพระใหญ่ต่อเป็นท่อน เพราะอย่างนี้จึงได้ลงรักปิดทอง”

พระนอน พระที่สร้างขึ้นเฉพาะวัดนั้นๆ

เมื่อเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ การเคลื่อนย้าย หรืออัญเชิญจากที่อื่นๆ จึงไม่ค่อยเกิดขึ้น เพราะองค์พระมีขนาดใหญ่ทั้งสิ้นเปลืองและยุ่งยาก ที่สำคัญขนาดของอาคารกับขนาดของพระพุทธรูปอาจไม่สอดคล้องรองรับกัน พระนอนเกือบทั้งหมดจึงเป็นการสร้างขึ้นเฉพาะวัดที่พระนอนองค์นั้นประดิษฐานอยู่ ตัวอย่าง เช่น

พระนอนวัดโพธิ์ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว คราวบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนฯ ครั้งใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2375

พระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมกข์ฯ แม้จะเปลี่ยนแปลงสถานที่ประดิษฐาน แต่ก็เป็นเพราะวัดป่าโมกข์ฯ ย้ายที่ตั้งใหม่ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ จึงโปรดฯ ให้ชะลอพระพุทธไสยาสน์จากที่ตั้งเดิมของวัดมาที่ตั้งใหม่ (คือวัดป่าโมกข์ฯ ปัจจุบัน) ที่อยู่ห่างจากเดิมประมาณ 10 เส้นเศษ (ราว 1.6 กิโลเมตร)

พระไสยา
พระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมก (ภาพจาก ” พระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมก” )

ส่วน พระไสยา วัดบวรฯ สร้างขึ้นราว พ.ศ. 1800-1893 เดิมประดิษฐาน ณ วัดพระพายหลวง เมืองสุโขทัย เมื่อ พ.ศ. 2326 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงพระผนวชอยู่ เสด็จประพาสเมืองสุโขทัย ทอดพระเนตรว่ามีลักษณะงามกว่าพระไสยาองค์อื่น ๆ ครั้นเมื่อเสด็จประทับจำพรรษา ณ วัดบวรฯ จึงได้โปรดให้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่มุขหลังของพระอุโบสถ เมื่อ พ.ศ. 2390 ภายหลังย้ายมาประดิษฐานที่วิหารพระศาสดา 

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

ไม่ระบุชื่อผู้เขียน. 108 องค์พระฏิมา  พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน, กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชา พุทธศักราช 2560.

มนัส โอภากุล. “วัดป่าโมกข์วรวิหาร” ใน, สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง เล่ม 8 มูลนิธิสารนุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดพิมพ์เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2552.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 20 มกราคม 2568