ผู้เขียน | ธนกฤต ก้องเวหา |
---|---|
เผยแพร่ |
“อุดรธานี” หนึ่งในเมืองใหญ่ของภาคอีสาน โดย “อุดร” เป็นภาษาบาลี แปลว่า ทิศเหนือ ส่วน “อีสาน” (บาลีเช่นกัน) แปลว่า ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เมื่อก่อนผู้เขียนเคยคิดเล่น ๆ ว่า ทำไมจังหวัด “อุดรธานี” จึงเป็นส่วนหนึ่งของภาคอีสาน ในเมื่อชื่อก็แปลว่า เมืองเหนือ (ธานี แปลว่า เมือง) ทำไมไม่อยู่ภาคเหนือ แต่มาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำตอบของเรื่องนี้ที่เห็นตำตาเมื่อพินิจแผนที่ประเทศไทยคือ “ที่ตั้ง” ของอุดรธานีเป็นส่วนหนึ่งของภาคอีสานจริง ๆ แต่ประเด็นหลักของเรื่องนี้แท้จริงแล้วอยู่ที่ “ชื่อ” ต่างหาก ทำไมอุดรธานีถึงได้ชื่อบ้านนามเมืองนี้มา?
เราอาจต้องไล่ดูกันตั้งแต่ประวัติศาสตร์กำเนิดเมืองอุดรธานีเสียหน่อย
กำเนิดอุดรธานี
เมืองอุดรถือกำเนิดในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่เดิมบริเวณที่ปัจจุบันคือตัวเมืองเป็นเพียงชุมชนชื่อ “หมากแข้ง” หรือ บ้านเดื่อหมากแข้ง อยู่ในสังกัดเมืองหนองคาย มณฑลลาวพวน ผู้มีบทบาทสำคัญต่อสร้างเมืองอุดรฯ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4
เมื่อ พ.ศ. 2428 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โปรดเกล้าฯ ให้ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เสด็จยกทัพไปปราบพวกฮ่อร่วมกับเจ้าหมื่นไวยวรนารถ (เจิม แสงชูโต) คราวนั้นกรมหลวงประจักษ์ฯ ได้ผ่านเมืองหนองคายไปปราบฮ่อที่เมืองพวนในลาว
ศึกปราบฮ่อดำเนินไปท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสยามกับฝรั่งเศส กรณีหัวเมืองลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (ประเทศลาวในปัจจุบัน) ที่ขณะนั้นยังขึ้นต่อสยาม รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้กรมหลวงประจักษ์ฯ เป็นข้าหลวงประจำอยู่หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ อันมีเมืองสำคัญคือ เวียงจันทน์ หนองคาย ฯลฯ
กระทั่งเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ฝรั่งเศสพรากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงไปจากสยามได้สำเร็จ หนึ่งในข้อตกลงที่ฝรั่งเศสกำหนดคือ ห้ามมีด่านหรือค่ายในระยะ 25 กิโลเมตร บนฝั่งขวาฟากตะวันตกของแม่น้ำโขง (ฝั่งภาคอีสาน)
พ.ศ. 2436 กองบัญชาการของกรมหลวงประจักษ์ฯ จึงถอนกำลังจากเมืองหนองคายลงใต้ แล้วได้ “บ้านเดื่อหมากแข้ง” เป็นที่ตั้งใหม่ เพราะนอกจากจะอยู่นอกรัศมี 25 กิโลเมตรแล้ว บ้านเดื่อหมากแข้งยังอยู่ระหว่างเมืองสำคัญอย่างหนองคาย ขอนแก่น หนองหาน กุมภวาปี และกมุทธาไสย (หนองบัวลำภู) ด้วย
กองบัญชาการของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมที่บ้านเดื่อหมากแข้งนี่เอง คือต้นกำเนิดเมืองอุดรธานี
ถึงตรงนี้ ผู้อ่านน่าจะสะดุดเข้ากับคำสำคัญอย่าง “หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ” บ้างแล้ว เพราะมันจะพัฒนาไปสู่ชื่อบ้านนามเมือง “อุดรธานี” ในเวลาต่อมา
รูปแบบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลสมัยรัชกาลที่ 5 “มณฑลลาวพวน” ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเลย ขอนแก่น สกลนคร หนองคาย นครพนม รวมถึงอุดรธานี ได้กลายเป็นหัวเมืองลาว “ฝ่ายเหนือ” ที่ยังเหลืออยู่ หลังเสียเวียงจันทน์และฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงไปแล้ว จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “มณฑลฝ่ายเหนือ” ใน พ.ศ. 2442
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคำบาลีให้มีระดับทางภาษาเป็น “มณฑลอุดร” ใน พ.ศ. 2443 เรียกว่าลดความเป็นลาวเพิ่มความเป็นไทย (ด้วยการใช้ภาษาบาลี)
ต่อมาเมื่อมีการยุบเลิกระบบมณฑล จึงรวมเอาเมืองกมุทธาไสย กุมภวาปี หนองหาน เข้าด้วยกัน มีศูนย์กลางที่บ้านเดื่อหมากแข้ง เป็นเมืองอุดรธานี ใน พ.ศ. 2450 และกลายเป็นจังหวัดอุดรธานีใน พ.ศ. 2476 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ความหมาย “เมืองเหนือ” ของอุดรธานี จึงไม่เกี่ยวกับ “ภาคเหนือ” ของไทย แต่หมายถึงการเป็น (อดีต) ศูนย์กลางหัวเมืองลาว “ฝ่ายเหนือ” ของสยามครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554
https://www.silpa-mag.com/history/article_77454
https://udonthani.go.th/main/history/
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 กันยายน 2567