ผู้เขียน | ปัญญาณัฏฐ์ ณัธญาธรนินน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นอร์วู้ด โทมัส คืออดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาเคยประจำการอยู่ในกองพลส่งทางอากาศที่ 101 คุณปู่ผู้เคยผ่านศึกในสนามรบมีอดีตเรื่องราวต่างๆ ฝังใจมากมาย สหายศึกที่ร่วมรบรวมถึงภาพความโหดร้ายในสนามรบอันหฤโหด ซึ่งล้วนแต่เป็นหนึ่งในความทรงจำที่ยังอยู่ในใจของทหารคนนี้ แต่อีกหนึ่งความทรงจำเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ของเขา คือ สาวชาวอังกฤษคนหนึ่งที่เป็นรักแรกอันฝังใจแม้วันเวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม
ครั้งแรกที่คุณปู่ได้พบกับสาวคนนี้คือช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 1944 ในตอนนั้นคุณปู่เป็นทหารหนุ่มจากสหรัฐอเมริกา อายุเพียงแค่ 21 ปี มันเป็นวันที่คุณปู่และเพื่อนๆ กำลังออกไปเดินเล่นอยู่ในกรุงลอนดอน ขณะที่คุณปู่และเพื่อนกำลังเดินเล่นชมเมืองและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้น สายตาของทหารหนุ่มก็ไปสบตากับสาวน้อยชาวอังกฤษคนหนึ่งเข้า เมื่อเขาทั้งสองสบตากัน ความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้นในใจของพวกเขาทั้งสอง พวกเขายิ้มให้แก่กันและกัน และมองหน้ากันราวกับรู้จักกันมานาน “รักแรกพบ” คือสิ่งที่ทหารหนุ่มคนนี้รู้สึกทันที เขาไม่รีรอหรือเดินเลยผ่านเธอไป แต่เขาเดินตรงเข้าไปทักทายและแนะนำตัวกับสาวคนนี้ทันที เธอคือ จอยซ์ มอริส หญิงสาวที่กุมหัวใจทหารหนุ่มคนนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกพบ
มันอาจจะดูเร็วไปหน่อย แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ค่อยๆ พัฒนาหลังจากการนัดออกเดทกันถึง 2 ครั้ง “ผมคิดว่ารอยยิ้มของเธอคือสิ่งที่ทำให้ผมตกหลุมรัก ผมได้แต่มองและคิดว่า พระเจ้า… เธอช่างสวยหวานอะไรอย่างนี้” คุณปู่โทมัส กล่าว
แต่แล้วเดือนมิถุนายน 1944 วัน D-Day และยุทธการปลดปล่อยยุโรปเริ่มขึ้นในเดือนนั้น คุณปู่โทมัส ต้องเข้าร่วมในการบุกนอร์มังดี และต่อสู้ต่อไปเพื่อขับไล่ทหารเยอรมันที่ยึดครองพื้นที่ สิ่งเดียวที่คุณปู่มีไว้ลำรึกถึงมอริส สาวคนรักของเขาคือรูปถ่ายที่เธอให้มาเท่านั้น มีเพียงจดหมายที่พวกเขาส่งถึงกันที่ช่วยหล่อเลี้ยงและให้กำลังใจทหารกล้าคนนี้ได้สู้ต่อไป ด้วยภาระหน้าที่ของสงครามทำให้คุณปู่โทมัสไม่ได้กลับไปอังกฤษอีกเลยจนกระทั่งสิ้นสุดสงคราม คุณปู่โทมัสตัดสินใจเขียนจดหมายไปหามอริสอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาขอเธอแต่งงานและชวนเธอให้ย้ายมาอยู่ที่อเมริกาด้วยกัน แต่เธอกลับปฏิเสธคำขอของทหารหนุ่มคนนี้ เพียงเพราะเธอกำลังเรียนพยาบาล
คุณปู่โทมัส ผิดหวังกับเรื่องนี้ เพราะตลอดเวลาในสนามรบ มอริส คือสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ แม้เขาจะผิดหวังมากเพียงใด แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป คุณปู่เริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับหญิงสาวที่น่ารักอีกคนหนึ่ง และมีชีวิตคู่ที่ยืนยาวมาถึง 56 ปี ก่อนที่เธอจะจากคุณปู่ไปอย่างไม่มีวันกลับจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ด้วยวัย 71 ปี ในปี 2001
คุณปู่โทมัส ใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย เขาใช้เวลาของชีวิตที่โดดเดี่ยวของตน ครุ่นคิดและรำลึกถึงอดีตต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิต และเขาก็พบกับภาพของมอริส รักแรกพบของเขา ความทรงจำในวัยหนุ่มช่วงสงครามย้อนกลับมาอีกครั้ง และมันมาพร้อมกับคำถามที่ว่า “ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง” นั่นคือสิ่งที่เขาอยากรู้ กระทั่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเข้าใจว่า จอยซ์ มอริส เสียชีวิตแล้วนั่นก็คือ เหตุการณ์ที่เครื่องบินโดยสาร TWA ตกเมื่อปี 1996 และในรายชื่อนั้นมีผู้เสียชีวิตที่เป็นพยาบาลชาวอังกฤษชื่อ จอยซ์ รวมอยู่ในรายชื่อนั้นด้วย
แต่แท้จริงแล้ว จอยซ์ มอริส ยังมีชีวิตอยู่และเธอย้ายมาอยู่ที่ออสเตรเลียพร้อมกับแต่งงานและมีลูก 2 คน ก่อนจะหย่ากับสามีภายหลังจากนั้น ไม่เพียงแต่คุณปู่โทมัสเท่านั้นที่ตามหารักแรก แต่คุณย่ามอริสก็ตามหาทหารหนุ่มอเมริกันคนนี้เช่นกัน เธอบอกให้ลูกเธอช่วยตามหาทหารคนนี้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ลูกของเธอใช้ความพยามทุกอย่างที่มีในการประกาศตามสื่อต่างๆ ในอเมริกาและใช้ Internet เพื่อการค้นหา แต่เพราะนักข่าวท้องถิ่นที่ยินดีช่วยสืบค้นหาคุณปู่นโทมัส จนสามารถพบและยืนยันได้ว่า เขาคือคนที่ตามหาจริง
ด้วยความร่วมมือกันและเทคโนโลยีในยุคสมัยนี้นำพาอดีตหนุ่มสาวทั้ง 2 มาพบกันบนหน้าจอของโปรแกรม Skype พวกเขาทั้ง 2 ดีใจมากที่ได้มาพบกันอีกครั้ง และทั้งคู่ยังนำภาพถ่ายของกันและกันที่เคยมอบให้กันเมื่อตอนสงครามนำมาแสดงผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ทั้งคู่กำลังสนทนา
“ถ้าผมเจอคุณอีกครั้งผมจะขอกอดคุณได้ไหม” คุณปู่โทมัส ถามคุณย่ามอริสผ่านการสนทนา Skype “ได้สิ” คุณย่ามอริสตอบคำตอบ ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาทั้ง 2 ก็ใช้เวลาในการพูดคุยกันผ่านทางโปรแกรมนี้เสมอ พวกเขาตื่นเต้นและดีใจราวกับเด็ก เมื่อได้ใช้โปรแกรมนี้พูดคุยกัน
เรื่องราวของพวกเขาทั้ง 2 เป็นเรื่องน่าประทับใจใครหลายๆ คน และทุกๆ คนก็อยากให้เขาทั้ง 2 ได้มีโอกาสพบกันจริงๆ อีกครั้ง ผู้คนกว่า 300 คนยินดีบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าตั๋วเครื่องบินให้พวกเขาได้บินมาพบกัน สายการบินนิวซีแลนด์ยื่นมือเข้ามาทำความฝันของคุณปู่คุณย่าทั้งสองให้เป็นความจริง สายการบินยินดีมอบตั๋วไปกลับและที่นั่งเฟิร์สคลาสให้กับคุณปู่และลูกชาย เดินทางไปพบคุณย่ามอริสถึงออสเตรเลีย
สงครามโลกครั้งที่ 2 อาจจะเป็นสงครามที่ชักนำให้ชาติต่างๆ ให้มาประหัตประหารกัน แต่สำหรับในใจทั้งของคุณปู่นอร์วู้ด โทมัส และคุณย่าจอยซ์ มอริส มันคือสิ่งที่นำพาพวกเขาทั้งคู่ได้มาพบกัน และตราตรึงความรักที่ยากจะลืมเลือนแก่กันและกัน
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
References
[1] http://abcnews.go.com/…/world-war-ii-veteran-reunite…/story…
[2] https://www.washingtonpost.com/…/this-93-year-old-world-w…/…
[3] http://www.foxnews.com/…/american-world-war-ii-veteran-reun…
[4] http://www.stuff.co.nz/…/Air-New-Zealand-helping-WWII-veter…
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 สิงหาคม 2560