ที่มา | จดหมาย: ศิลปวัฒนธรรม ฉบับ มีนาคม 2546 |
---|---|
เผยแพร่ |
ที่อาตมามีจดหมายมาถึงก็มีเรื่องที่จะขอประท้วง คือ ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๒๓ ฉบับที่ ๓ มกราคม ๒๕๔๕ ISSN0125-3654 เรื่องตลาดตลาด โดยชลัมพุ ณ ชเลลำ หน้า ๙๒-๙๓ บรรทัดที่ ๓๒ ข้อความปรากฏดังนี้
“พระหลายรูปเดินจีวรปลิวฝ่าฝูงสีกาอย่างไม่กลัวชาวโลกติเตียน เพื่อมาเลือกดูพระที่วางแบกะดิน ด้วยความสนใจ…”
“ฝูง” น่าจะใช้กับสัตว์เดรัจฉานมากกว่า เช่น หมาป่าที่เป็นจ่าฝูง
อาตมาดูจากภาพที่ตีพิมพ์ กรุงเพทฯ ไม่ต้องมีใครบอกว่าจราจรติดขัด คนมาอาศัยอยู่หนาแน่น สมมตพระไม่เดินผ่านหมู่สีกา เดินหลีกลงมาเดินตามถนนจราจร พระอาจโดนรถชน เฉี่ยว ที่สำคัญถนนท่าพระจันทร์นั้นเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วัดมหาธาตุฯ ซึ่งเป็นที่ศึกษาของพระสงฆ์ คือ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระภิกษุไม่อาจที่จะเดินหลบญาติโยมได้ เพราะว่าฟุตบาทแคบ คนก็มาก ทุกวันนี้มีแต่โยมจะเดินชนพระ ที่สำคัญประชากรผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย ลองไปดูข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ และการที่พระไปเลือกดูพระถือว่าเป็นการอนุรักษ์พุทธศิลป์ ซึ่งนับวันขาดคนจะเข้าใจเรื่องนี้
ลองไปถามพ่อแม่ยุค IT ดู บางครั้งลูกถามว่าทำไมศรีษะพระพุทธรูปเป็นขดกลมๆ ทำไมพระพุทธรูปหูยาว ฯลฯ ตอบไม่ได้เป็นส่วนใหญ่
อาตมาไม่อยากต่อว่าอะไรมากหรอก โตๆ เหมือนกันแล้ว อยากให้คนเขียนใช้สติปัญญาขีดเขียนให้มากกว่าเขียนตามใจแบบทางโลก หรือเขียนตามกิเลสสนองตัณหาของตนเอง
พระประเวช สุชาโต (บุญเติม)
วัดพระนารายณ์มหาราช คณะ ๙
ถนนจอมพล ต.ในเมือง
อ.เมือง จ.นครราชสีมา ๓๐๐๐๐
ตอบ
“ฝูงคนกำเนิดคล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
ยกแต่ชั่วดีกะด้าง อ่อนแก้ฤาไหว” ฯ
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕