“พระพุทธรูปทองคำ” ในเมืองไทย ไม่ได้มีแค่ที่ “วัดไตรมิตรฯ” แล้วมีที่ไหนอีกบ้าง?

วัดไตรมิตร พระพุทธรูปทองคำ หลวงพ่อทองคำ
หลวงพ่อทองคำ ภาพจาก เฟซบุ๊ก : วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เยาวราช ตลาดน้อย สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ประกอบกับพื้นหลังสำหรับตกแต่งภาพ

หากกล่าวถึง “พระพุทธรูปทองคำ” หรือพระพุทธรูปที่ทำจากทองคำ คำตอบที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็คือ “หลวงพ่อทองคำ” วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ แต่ความจริงแล้วในไทยยังมีพระพุทธรูปที่ทำจากทองคำอีกหลายองค์ 

ซึ่งวัดอื่นๆ ต่างก็เรียกพระพุทธรูปดังกล่าวว่าหลวงพ่อทองคำเช่นกัน 

วัดอื่นๆ ที่ว่า คือ วัดพะเยาว์ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี และวัดพิพัฒน์มงคล อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ซึ่งการพบพระพุทธรูปทองคำที่ผ่านมานั้น มีที่มาเหมือนกันคือ “เป็นไปโดยบังเอิญ”

กล่าวคือ “พระพุทธรูปทองคำ” ทั้ง 3 องค์ เดิมมีวัสดุอื่นห่อหุ้ม, ทาทับอยู่ เมื่อมีการเคลื่อนย้าย, ทำความสะอาด, บูรณะซ่อมแซม ทำให้วัสดุที่หุ้มชั้นนอกองค์พระพุทธรูปหลุด ทำให้เห็นว่า แท้จริงแล้วพระพุทธรูปดังกล่าวทำจาก “ทองคำ”

แต่กว่าจะรู้ว่าพระพุทธรูปแต่ละองค์ทำด้วยทองคำ ก็ใช้เวลานานนน…นับร้อยปีทีเดียว

หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรฯ มีอายุกว่า 700 ปี เป็นพระพุทธรูปในวิหารวัดมหาธาตุ สุโขทัย รัชกาลที่ 1 ทรงมีพระบรมราชโองการให้อัญเชิญพระพุทธรูปตามวัดร้างที่สุโขทัยมาไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมงมังคลาราม รวมทั้งหลวงพ่อทองคำ แต่ขณะนั้นยังมีปูนปั้นหุ้มทั้งองค์

พ.ศ. 2344 มีการอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานวัดพระยาไกร ถึง พ.ศ. 2478 วัดพระยาไกรทรุดโทรม จึงอัญเชิญมาไว้ที่วัดสามจีน (ปัจจุบันชื่อวัดไตรมิตรฯ) แต่กว่าจะรู้ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำก็วันที่ 26 พฤษภาคม 2498 ที่พบว่าปูนตรงพระอุระ (อก) แตก จึงเห็นเนื้อทองคำ เมื่อกะเทาะปูนออก พบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์

หลวงพ่อทองคำ วัดพะเยาว์ เดิมถูกทิ้งในวัดร้าง ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2420 ชาวบ้านศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี สร้างวัดชื่อ วัดอุทิศสโมสร แต่ยังไม่มีพระประธาน จึงอัญเชิญพระพุทธรูปดังกล่าวมาไว้ที่วัด ภายหลังพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ชาวบ้านย้ายถิ่นจึงกลายเป็นวัดร้าง

ปี 2484 มีการบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดพะเยาว์ จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปที่วัดอุทิศสโมสรมาประดิษฐานไว้ที่วัด ต่อมาในปี 2493 พระเทพวิมลโมลี (มณี สุวโจ) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เห็นองค์พระมีรอยปูนกะเทาะดำๆ ด่างๆ จึงสั่งให้ทำความสะอาด ปูนที่พอกบริเวณไหล่จึงหลุดออกมาเห็นเนื้อสีทองด้านใน เมื่อกะเทาะปูนที่เหลือออกทั้งหมด ก็พบว่าเป็นองค์พระมีทองคำบริสุทธิ์ผสมอยู่ถึง 70%

หลวงพ่อทองคำ วัดพิพัฒน์มงคล มีอายุราว 500 ปี เดิมประดิษฐานอยู่ที่กรุงสุโขทัย ต่อมาอัญเชิญไปประดิษฐานที่กรุงเวียงจันทน์ จากนั้นในปี 2473 ได้รับมอบจากเจ้าแขวงเวียงจันทน์มอบให้ชาวบ้านอำเภอท่อบ่อ จังหวัดหนองคาย พอถึงปี 2493 คหบดีชาวลำพูนได้รับมอบจากชาวบ้านอำเภอท่อบ่อ ซึ่งขณะนั้นองค์พระยังถูกฉาบด้วยรักดำ

ปี 2527 พระอาจารย์พิพัฒน์มงคล เดินธุดงค์มาสร้างสำนักปฏิบัติธรรม (ปัจจุบันคือ วัดพิพัฒน์มงคล) ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม ได้รับพระพุทธรูปมาหลายองค์ รวมทั้งหลวงพ่อทองคำ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นทองคำ ภายหลังรักที่ฉาบไว้บริเวณพระสนับเพลา (เข่า) ขวากะเทาะ จึงพบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ

ในบรรดา 3 องค์ หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรฯ มีขนาดใหญที่สุด หน้าตักกว้าง 2.5 เมตร, ความสูง (จากพระเกตุมาลาถึงฐาน) 3.04 เมตร น้ำหนัก 5.5 ตัน เป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 

ส่วน “พระพุทธรูปทองคำ” มีกี่องค์ตอบแน่ชัดไม่ได้ อาจมีพระพุทธรูปทองคำองค์อื่นๆ ที่ถูกพอก หรือทาทับด้วยวัสดุต่างๆ ที่ยังไม่เผยโฉมที่แท้จริงก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

กองบรรณาธิการข่าวสด. ไหว้พระประธาน 77 จังหวัด, สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก เมษายน 2557.

หลวงพ่อทองวัด วัดพะเยาว์ จาก www.museumthailand.com


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 มิถุนายน 2567