ผู้เชี่ยวชาญสงสัยข้ออ้าง “สุสานตุตันคามุน” มีห้องลับ ชี้ผลสำรวจไม่มีการทบทวนอย่างเหมาะสม

ภาพถ่ายโลงทองคำของตุตันคามุนภายในสุสานที่ลักซอร์ ถ่ายเมื่อเดือนกันยายน 2015, AFP / Khaled DESOUKI

หลังจากกระทรวงโบราณคดีของอียิปต์ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ผลสแกนด้วยเรดาร์ของสุสานฟาโรห์ตุตันคามุนในลักซอร์แสดงให้เห็นถึงโอกาสกว่า 90 % ที่จะมีห้องลับซุกซ่อนอยู่ 2 ห้องบริเวณด้านหลังทางทิศเหนือและทิศตะวันตกของสุสาน สร้างความฮือฮาทั้งในแวดวงวิชาการและบุคคลทั่วไป ล่าสุดมีผู้เชี่ยวชาญอีกส่วนออกมาตั้งข้อสงสัยถึงความน่าเชื่อถือในการสำรวจดังกล่าว

“ไม่ปรากฏว่าข้อมูล GPR (ground-penetrating radar, เรดาร์ทะลุพื้นผิว) เหล่านี้ถูกนำไปใช้ (ในกระบวนการวิเคราะห์) หรือสิ่งที่ถูกเรียกว่า สิ่งผิดปกติจะสามารถเห็นได้จากข้อมูลดิบที่ให้มา” ลอเรนซ์ คอนเยอร์ส (Lawrence Conyers) ศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาประจำมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ ให้สัมภาษณ์กับ Live Science

“สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ ใครก็ตามที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนนี้ ต้องนำข้อมูลดิบที่ได้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน GPR คนอื่นๆ (ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสำรวจ) ทำการทบทวนการศึกษา ก่อนที่จะปล่อยให้พวกหน่วยงานโบราณคดีพากันไปนั่งแถลงข่าวว่าจะมีทรัพย์สมบัติอะไรมากมายอยู่ในสุสานนั่น” คอนเยอร์สกล่าว “สิ่งนี้ (การทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก) จะช่วยลดการคาดเดาและเสียงวิจารณ์ที่กำลังแพร่กระจายอย่างหนักทางอีเมล์ในช่วงไม่กี่วันมานี้ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์หลายคนอาจมีความเห็นพ้องต้องกันล่วงหน้าก่อนการคาดเดาต่างๆในการแถลงข่าว”

Live Science กล่าวว่า การท่องเที่ยวของอียิปต์กำลังอยู่ในภาวะตกต่ำอย่างหนักหลังการปฏิวัติเมื่อปี 2011 ทำให้ประเทศอยู่ในภาวะความวุ่นวายทางการเมืองนำไปสู่การใช้ความรุนแรงและการก่อการร้าย นักอียิปต์วิทยาหลายรายจึงหวังว่า การค้นพบสุสานของเนเฟอร์ติติซึ่งคาดว่าอาจจะอยู่ในห้องลับของสุสานตุตันคามุน น่าจะช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวในกับประเทศได้

ทั้งนี้ ภาพสแกนที่ใช้ในการวิเคราห์ทำขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วโดยฮิโรคัทซึ วาตานาเบะ (Hirokatsu Watanabe) ผู้เชี่ยวชาญด้านเรดาร์ชาวญี่ปุ่นทำให้พบสิ่งผิดปกติเบื้องหลังผนังของสุสานแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะพบห้องลับ ที่อาจจะมีทั้งสารอินทรีย์ และโลหะ ซึ่งทางกระทรวงโบราณคดีของอียิปต์ยืนยันว่าต้องมีการศึกษาให้รู้ถึงมิติที่ชัดเจนของห้องดังกล่าวเสียก่อน โดยจะมีการสแกนใหม่อีกครั้งภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนที่จะทำการเปิดผนึกห้องลับใดๆ

ข้อมูลจาก: Live Science (Experts Doubt Claims of ‘Hidden Chambers’ in King Tut’s Tomb) และศิลปวัฒนธรรม (พบห้องลับ 2 ห้องในสุสาน “ตุตันคามุน” อาจเป็นที่ฝังศพ “ราชินีเนเฟอร์ติติ”)