ครอบครัวผู้ทำสื่อเป็นกระบอกเสียงชาวยิว ได้รับภาพที่ถูกนาซีขโมยไปคืน หลัง 87 ปีผ่าน

ภาพวาด Winter โดย Gari Melchers ฉากหลังคือภาพการเดินขบวนพาเหรดของทหารนาซีเยอรมัน ใน Saarland เมื่อ ค.ศ. 1935 (ภาพจาก FRANCE PRESSE VOIR / AFP)

รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งเปิดเผยความคืบหน้าเรื่องชิ้นงานศิลปะซึ่งถูกนาซีขโมยไปจากครอบครัวชาวยิวเมื่อปี ค.ศ. 1933 และเพิ่งถูกพบว่าไปปรากฏในพิพิธภัณฑ์ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ล่าสุด มีกระบวนการส่งมอบคืนให้กับครอบครัวชาวยิวเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

ภาพวาดชิ้นนี้มีชื่อว่า “วินเทอร์” (Winter) ในภาพมีนักสเก็ตสองราย ผลงานนี้วาดโดยศิลปินชาวอเมริกันชื่อ Gari Melchers เป็นอีกหนึ่งผลงานในรายชื่องานศิลปะอีกนับพันชิ้นซึ่งถูกนาซีเยอรมันยึดไปจากครอบครัวชาวยิวที่เป็นที่รู้จักในสังคม มีฐานะดี และอาศัยในเบอร์ลิน โดยชาวยิวกลุ่มนี้ถือเป็นเป้าหมายกลุ่มแรกๆ ในยุคต้นของพรรคนาซี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทายาทของครอบครัวพยายามเคลื่อนไหวและค้นหาเพื่อนำผลงานศิลปะที่สาบสูญไปจากครอบครัวกลับคืนมา

กระทั่งในปี 2011 มีโปรเจกต์ชื่อ The Mosse Art Restitution ในนามของทายาทครอบครัวชาวยิวตระกูล Mosse มีวัตถุประสงค์ค้นหาและฟื้นฟูผลงานศิลปะซึ่งสูญหายไป การดำเนินการที่ผ่านมาสามารถช่วยฟื้นฟูงานศิลปะที่ค้นพบกว่า 50 ชิ้น งานที่เรียกกลับมาฟื้นฟูมีทั้งพบจากในสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์เอกชน หรือแม้แต่จากปัจเจกบุคคลในเยอรมนี, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์, อิสราเอล และสหรัฐอเมริกา แต่ยังมีผลงานอื่นอีกรวมแล้วนับพันชิ้นที่ยังต้องอาศัยการทำงานกันต่อไป

สำหรับผลงาน “วินเทอร์” เพิ่งนำส่งมอบคืนให้ทายาทตระกูล Mosse ในพิธีส่งมอบที่ออฟฟิศของเอฟบีไอ ในนิวยอร์ก

ย้อนกลับไปในระหว่างทศวรรษที่ 1930-40s รัฐนาซีมักยึดหรือบังคับให้เจ้าของผลงานจากครอบครัวชาวยิวขายงานศิลปะในมูลค่าเพียงเศษเสี้ยวจากมูลค่าจริงของชิ้นงาน รวมชิ้นงานแล้วเป็นจำนวนนับพันชิ้น ขณะที่ครอบครัวที่เป็นเจ้าของต้องเดินทางออกจากเยอรมนี

ชาวยิวรายหนึ่งชื่อ Rudolf Mosse เป็นผู้ตีพิมพ์สื่อจากครอบครัวซึ่งเป็นที่รู้จักในชุมชน เข้าซื้อภาพ “วินเทอร์” หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ “นักสเก็ต” หรือ “หิมะ” จากศิลปินโดยตรงในงานนิทรรศการศิลปะเบอร์ลินในปี 1900 เอกสารทางกฎหมายระบุว่า เมื่อเขาเสียชีวิตในปี 1920 งานศิลปะตกทอดมาถึง Felicia Lachmann-Mosse  ลูกสาวของเขาภายหลังจากภรรยาของเขาเสียชีวิตลงในปี 1924

Felicia Lachmann-Mosse และ Hans Lachmann-Mosse สามีของเธอเป็นผู้บริหารหนังสือพิมพ์ Berliner Tageblatt ซึ่งเป็นฝ่ายที่ทำงานสื่อเชิงวิพากษ์วิจารณ์ในห้วงที่นาซีขึ้นสู่อำนาจ จากการเป็นกระบอกเสียง สื่อแห่งนี้ถูกเรียกว่า “สื่อชาวยิว” จนคู่สามีภรรยาต้องเดินทางออกนอกประเทศในปี 1933 หลังจากนั้น ฝ่ายนาซีก็ยึดทรัพย์สินของตระกูลซึ่งรวมถึงชิ้นงานศิลปะด้วย เมื่อถึงยุคนาซีขึ้นสู่อำนาจ ครอบครัวจึงเดินทางลี้ภัยมาถึงสหรัฐอเมริกา

ภาพเขียนชิ้นนี้เปลี่ยนมือจากนาซีไปอีกหลายทอดก่อนจะมีนักธุรกิจชื่อ Bartlett Arkell ซื้อภาพไปจากแกลเลอรีแห่งหนึ่งเมื่อปี 1934 ไม่มีหลักฐานว่าผู้ซื้อทราบข้อมูลว่าผลงานชิ้นนี้เป็นงานศิลปะที่ถูกขโมย นับตั้งแต่ปี 1934 เป็นต้นมา งานศิลปะชิ้นนี้ก็อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Arkell ในนิวยอร์ก

รายงานข่าวจาก Independent เผยว่า ในปี 2017 เมื่อพิพิธภัณฑ์แห่งนี้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเพจของตัวเอง อวยพรให้ผู้ติดตามมีความสุขกับฤดูหนาว โดยใช้ภาพวาดนี้เป็นภาพประกอบ มีนักเรียนที่เป็นลูกศิษย์ของ Dr. Meike Hoffmann ซึ่งเป็นหัวหน้าของสถาบันวิจัย Moose ภายใต้มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างทายาทตระกูล Moose และสถาบันวัฒนธรรมเยอรมัน

Dr. Meike Hoffmann เผยว่า ภายหลังนักวิชาการของสถาบันวิจัยสามารถพบความเชื่อมโยงระหว่างภาพนี้กับตระกูล Moose โดยได้รับความร่วมมือและการช่วยเหลือจากผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ Arkell

เมื่อพิพิธภัณฑ์ทราบข้อมูลจึงส่งมอบภาพให้เอฟบีไอเมื่อปี 2019 ขณะที่ปัจจุบันภาพนี้อยู่ในการดูแลของมูลนิธิของตระกูล Moose ในนามตัวแทนของ Felicia Lachmann-Mosse ซึ่งเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ Rudolf

ผลงานชิ้นนี้ถูกประเมินมูลค่าว่าน่าจะอยู่ในตัวเลข 6 หลักเป็นอย่างต่ำ แต่ตัวเลขที่แท้จริงจะต้องรอผลการประมูลภาพนี้ในอนาคต โดยรายงานข่าวจาก CNN ระบุว่า คาดว่าภาพนี้จะเปิดประมูลโดย Sotheby’s

 


เผยแพร่เนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 ตุลาคม 2563