18 มิถุนายน ค.ศ. 1815 ยุทธการวอเตอร์ลู: สงครามสุดท้ายของนโปเลียน

ภาพวาดการสู้รบในสมรภูมิวอเตอร์ลู วาดโดย William Sadler (public domain) ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Battle_of_Waterloo_1815.PNG

หลังการพ่ายแพ้ของจักรพรรดินโปเลียน (Napoleon) ต่อกองทัพพันธมิตร (นำโดย อังกฤษ, ออสเตรีย, ปรัสเซีย และรัสเซีย) ในสมรภูมิไลป์ซิก (Battle of Leipzig) หรือสมรภูมิแห่งชาติ (Battle of Nations) ช่วงปี ค.ศ. 1813 ยาวมาถึง ค.ศ. 1814 ฝ่ายพันธมิตรเข้าล้อมปารีสไว้ได้

ในการพิจารณาปัญหาสงครามนโปเลียน ฝ่ายพันธมิตรได้จัดการประชุมขึ้นที่เวียนนา (Congress of Vienna) ในประเทศออสเตรีย โดยมีจุดประสงค์ของการประชุมเพื่อจัดการปัญหารฝรั่งเศสที่นโปเลียนสร้างไว้ และที่สำคัญคือขจัดแนวคิดเสรีนิยมหรือสาธารณรัฐนิบมที่นโปเลียนได้นำไปเผยแพร่ไว้ ณ ประเทศที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของนโปเลียน ซึ่งขัดกับระเบียบโลกแบบมีกษัตริย์ปกครองในประเทศพันธมิตร เพื่อรักษาระเบียบโลกแบบอนุรักษ์นิยมที่พวกประเทศพันธมิตรยึดถือไว้ และเชื่อว่าเป็นรูปแบบที่นำไปสู่สันติภาพของโลกที่แท้จริง

Advertisement

นโปเลียนจำต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาฟองเตนโบล (Treaty of Fontainebleau) ที่มีต้นสายมาจากสนธิสัญญาโชมองต์ (Treaty of Chaumont) ที่ทำให้นโปเลียนต้องสละพื้นที่การยึดครอง ทั้งยังสละราชสมบัติและถูกเนรเทศไปอยู่เกาะเอลบา พร้อมกับองครักษ์หรือผู้ติดตามไม่เกิน 1,000 ราย และฝ่ายพันธมิตรก็จัดการฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บง (Bourbon Restoration) ที่ถูกโค่นล้มไปหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส โดยให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 แห่งบูร์บงเข้ามาปกครองฝรั่งเศส

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1815 นโปเลียนได้หนีออกจากเกาะเอลบากลับสู่ฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทางเรือ ด้วยความที่นโปเลียนเป็นที่รักของชาวฝรั่งเศสและทหารฝรั่งเศส ทำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ที่ครองราชย์อยู่ ก็ได้หนีออกนอกฝรั่งเศส และนโปเลียนได้ที่รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายก็ได้กลับมาเป็นจักรพรรดิของฝรั่งเศส

การกลับมาเป็นจักรพรรดิของฝรั่งเศสเป็นที่น่ากังวลของฝ่ายพันธมิตรมากเพราะนโปเลียนเคยก่อสงครามที่สั่นสะเทือนไปทั้งยุโรป และได้สั่นคลอนระเบียบโลกเดิมที่ประเทศฝ่ายพันธมิตรถือไว้เป็นหลักหมายสำคัญ หากนโปเลียนกลับเข้ามามีอำนาจอีก ทำให้การประชุมที่เวียนนาต้องชะงักลง และหันหน้ากลับสู่ความขัดแย้งกับฝรั่งเศส และฝ่ายพันธมิตรจึงมีการร่วมมือกันทางทหารเพื่อต่อต้านอำนาจของฝรั่งเศสอีกครั้ง ฝ่ายอังกฤษนำโดย ดยุกแห่งเวลลิงตัน (Duke of Wellington) และปรัสเซียนำโดยฟอน บลึชเชอร์ (Von Blucher)

กองทัพฝรั่งเศสหรือกองทัพนโปเลียนได้เคลื่อนทัพเข้าสู่เบลเยียม เขามีแผนว่าการนำกองทัพเบลเยียมเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างกองทัพกับกองทัพปรัสเซีย แล้วนโปเลียนจะนำกองทัพของตนเองไปปราบทีละกองทัพ

ในวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1815 กองทัพนโปเลียนได้เผชิญหน้ากับกองทัพอังกฤษภายใต้การนำของดยุกแห่งเวลลิงตัน ในวอเตอร์ลู (Waterloo) นโปเลียนได้มองเห็นกองทัพปรัสเซียอยู่ด้านไกล เขาคิดว่าจะเอาชนะกองทัพอังกฤษได้ก่อน แต่คืนก่อนหน้าได้เกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำขัง ทำให้กองทัพนโปเลียนเกิดความล่าช้าหลายอย่าง โดยเฉพาะในด้านปืนใหญ่ที่เป็นจุดเด่นของกองทัพนโปเลียนก็ต้องประสบกับความล่าช้ามากบนพื้นเปียกแฉะ นอกจากปัจจัยทางสภาพอากาศยังว่ากันว่านโปเลียนมีอาการป่วยในวันนั้น ความเจ็บป่วยนี้ของนโปเลียนอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการตัดสินใจ

ความล่าช้าในการสู้รบกับอังกฤษทำให้กองทัพปรัสเซียที่นำโดยฟอน บรึชเชอร์ เดินทัพมาถึงในขณะที่กองทัพนโปเลียนกำลังสู้รบอยู่กับอังกฤษ ทำให้กองทัพฝรั่งเศสต้องเผชิญศึกสองด้านในคราวเดียว และเป็นเหตุให้กองทัพนโปเลียนต้องประสบกับความพ่ายแพ้ในที่สุด

Longwood House บ้านที่นโปเลียนอาศัยจนถึงวาระสุดทหายของชีวิตในเกาะเซนต์เฮเลนา (public domain) ภาพจาก: https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Longwood_House.jpg

หลังความพ่ายแพ้ในสมรภูมิวอเตอร์ลูของนโปเลียนถูกฝ่ายพันธมิตรเนรเทศไปที่เกาะเซนต์เฮเลนา (St. Helena Island) และนโปเลียนใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ที่นั่น ซึ่งเป็นเกาะทางภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเกาะเอลบาที่เคยใช้เนรเทศนโปเลียนครั้งแรกมาก เพื่อให้ฝ่ายพันธมิตรมั่นใจว่านโปเลียนจะไม่เข้ามาสั่นคลอนระเบียบโลกของพวกเขาอีก และการประชุมที่เวียนนาก็ได้ดำเนินต่อไป โดยได้มีระเบียบโลกโดยมีระบบการประชุมเพื่อสันติภาพที่เรียกว่าความสมานฉันท์แห่งยุโรป (Concert of Europe) ซึ่งเป็นวิธีที่พวกอนุรักษ์นิยมให้ป้องกันสงครามและป้องกันลัทธิเสรีนิยมในยุโรป

แม้ว่านโปเลียนจะถูกส่งไปที่เกาะเซนต์เฮเลนาอันไกลโพ้น แต่สิ่งที่นโปเลียนได้ทิ้งไว้ในฝรั่งเศสและยุโรปคือลัทธิเสรีนิยม ทำให้แม้ว่านโปเลียนจะไม่อยู่ยุโรปแล้วแต่ก็เกิดการปฏิวัติในหลายประเทศในยุโรปตามมา จนระเบียบโลกแบบที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยึดถือก็ค่อยๆ พังทลายลงไป

 


อ้างอิง :

Battle of Waterloo.” History https://www.history.com/topics/british-history/battle-of-waterloo (accessed June 17, 2022).

Thierry, Lenz. “How did Napoleon manage to lose the Battle of Waterloo?” Napoleon.org https://www.napoleon.org/en/history-of-the-two-empires/articles/bullet-point-35-how-did-napoleon-manage-to-lose-the-battle-of-waterloo/ (accessed June 17, 2022).

อนันตชัย เลาหะพันธุ. ยุโรปสมัยใหม่ ค.ศ. 1492-1815. กรุงเทพฯ: ศักดิโสภาการพิมพ์, 2554.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 มิถุนายน 2565