ประวัติความเป็นมาของ พระพิฆเนศ

พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าที่หลายคนให้ความเคารพบูชา โดยคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยในการพบเห็นรูปปั้นของพระพิฆเนศที่มีเศียรเป็นช้างและมีร่างกายเป็นมนุษย์นั่งอยู่บนเฟอร์นิเจอร์ทองคำปูด้วยพรมแดงตามสถานที่ต่าง ๆ และเป็นที่เคารพบูชากราบไหว้ของนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร เพราะมีความเชื่อว่า พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะ ความรู้ และความสำเร็จ

พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าของชาวฮินดู เป็นพระโอรสของพระศิวะ เชื่อว่าพระพิฆเนศเป็นองค์เทพผู้ขจัดความขัดข้อง และเป็นผู้ที่อำนวยความสำเร็จให้กับกิจการทั้งหมดทั้งปวง ชาวอินเดียเมื่อจะประกอบพิธีต่าง ๆ ทางศาสนา หรือมีการเล่าเรียนวิชาความรู้ต่าง ๆ ด้านศิลปะ จะต้องบูชาและทำความเคารพต่อองค์พระพิฆเนศก่อน เพื่อขอความสำเร็จให้กิจการและการเรียนนั้น ๆ

ประวัติของพระพิฆเนศ ตามตำราเล่าว่า เป็นโอรสที่พระแม่ปารวตี พระมเหสีของพระศิวะ ได้เสกขึ้นมาเพื่ออยู่คอยรับใช้ครั้งที่พระศิวะเสด็จไปบำเพ็ญสมาธิเป็นระยะเวลานาน ครั้งนั้นพระแม่ปารวตีต้องอยู่เพียงลำพัง จึงเสกโอรสขึ้นมาเพื่อดูแลและปกป้องบุคคลที่จะเข้ามาทำร้ายและก่อความวุ่นวาย

มีอยู่คราวหนึ่งที่พระแม่ปารวตีต้องการสรงน้ำในพระตำหนักด้านใน จึงได้สั่งให้พระโอรสคอยนั่งเฝ้าหน้าประตูไว้ และรับสั่งว่า ห้ามให้ใครก็ตามเข้ามาในพระตำหนักของพระองค์ทั้งสิ้น แต่เป็นคราวเดียวกันกับที่พระศิวะเสด็จกลับมายังพระตำหนัก เมื่อต้องการเข้าไปข้างในกลับพบเด็กหนุ่มนั่งขวางไว้ไม่ให้เข้าตามคำรับสั่งของพระมารดา

พระศิวะโกรธมากที่ถูกขวาง ทั้งสองจึงทะเลาะกันใหญ่โตจนเทพทั่วทั้งสวรรค์ต่างเกิดความวิตกเกรงกลัวต่อหายนะที่จะเกิดขึ้น ในที่สุดพระโอรสก็ถูกตรีศูลของพระศิวะตัดศีรษะขาดจนสิ้นใจ โดยที่พระศิวะไม่ได้ทราบเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นทรงเป็นพระโอรสของพระมเหสีของตนที่ถูกเสกขึ้นมา

เมื่อพระแม่ปารวตีได้ยินเสียงดังครึกโครมก็เดินออกมาดู และเมื่อเห็นว่าพระโอรสของนางถูกปลิดชีพโดยพระสวามี พระนางจึงตัดพ้อต่อว่าพระศิวะ และโศกเศร้าโศกาเป็นอย่างมาก พระศิวะเมื่อทราบความจริงก็รับปากว่าจะฟื้นคืนชีพพระโอรสให้ แต่หาศีรษะของพระโอรสไม่พบ จนเกือบจะเลยเวลาที่จะสามารถฟื้นคืนชีพได้ จึงได้รับสั่งเทพยดาที่คอยรับใช้พระองค์ว่าให้ออกตามหาศีรษะของสัตว์มา โดยให้นำศีรษะของสัตว์ตัวแรกที่พบมาให้พระองค์

เทพยดาเหล่านั้นจึงออกตามหาและได้พบกับช้าง จึงได้ตัดเอาศีรษะของช้างมาให้พระศิวะ พระศิวะจึงต่อเศียรคืนให้พระโอรสเพื่อคืนชีพ พร้อมกับยกย่องและตั้งพระนามให้ว่า พระพิฆเนศ ซึ่งแปลว่าเทพผู้ขจัดปัดเป่าอุปสรรคและความทุกข์ยาก โดยได้อวยพรเอาไว้ว่า ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ทั้งหมดจะต้องมีการทำพิธีบูชาองค์พระพิฆเนศก่อน เพื่อความสำเร็จของพิธีเหล่านั้น

จากนั้นมา พระพิฆเนศจึงได้เป็นเทพที่เป็นตัวแทนแห่งความสำเร็จทั้งปวง โดยได้รับความเคารพจากชาวฮินดูอย่างมาก เพราะเดิมทีชาวฮินดูจะนับถือเทพทุกชนิดที่เป็นสัตว์ และเชื่อว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหมด จึงยกให้พระพิฆเนศเป็นหัวหน้าของเหล่าเทพทั้งหลายนั่นเอง

ในการกราบไหว้บูชาพระพิฆเนศ ยังมีความเชื่ออีกว่าองค์รูปปั้นของพระพิฆเนศมีหลายปาง ซึ่งแต่ละปางก็จะใช้ในการกราบไหว้บูชาของแต่ละสายอาชีพที่แตกต่างกัน

ดังนั้นหากใครที่ต้องการกราบไหว้องค์พระพิฆเนศให้ได้รับความสำเร็จอย่างแท้จริง ควรทำการศึกษาข้อมูลของพระพิฆเนศแต่ละปางให้ละเอียดว่าตรงกับสายงานที่เราจะทำหรือไม่ และควรเคารพบูชาด้วยความเชื่อและหัวใจอย่างแท้จริง ไม่ควรกราบไหว้เพียงเพราะกระแสนิยมหรือความต้องการบางประการ ทาง https://ofisu.co.th/ หวังว่า บทความที่เราได้นำมาให้ผู้อ่านได้อ่านในวันนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแหล่งรวบรวมความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความเชื่อที่มีมาแต่โบราณได้บ้าง

คลิกอ่านเพิ่มเติม : “พระพิฆเนศ” มหาเทพที่เก่าแก่กว่าพระอิศวร? จากเทพพื้นเมือง ปรุงแต่งเป็นเทพฮินดู

คลิกอ่านเพิ่มเติม : “พระคเณศ” ไม่ใช่ “เทพศิลปะ” รัชกาลที่ 6 ทรงทำให้เป็นเทพศิลปะ