| เผยแพร่ |
|---|
คณะกรรมการมรดกโลกเพิ่งบรรจุสถานที่เข้าเป็นมรดกโลกใหม่อีก 29 แห่งในปี 2019 แม้ว่าไทยจะพลาดโอกาสไป แต่อย่างน้อยการประกาศยังทำให้ประชากรโลกได้รู้จักหรือได้รับรู้ความสำคัญของสิ่งก่อสร้าง แหล่งทางวัฒนธรรม และแหล่งผสมผสาน
ในส่วนของแหล่งมรดกทางธรรมชาติมี 4 แห่ง ได้แก่
Migratory Bird Sanctuaries along the Coast of Yellow Sea-Bohai Gulf of China (Phase I) (เขตรักษาพันธุ์นกอพยพตามแนวชายฝั่งทะเลเหลือง – อ่าว โบไห่ (ระยะที่ 1) (ประเทศจีน)
พื้นที่นี้มีระบบนิเวศของหาดเลนที่เชื่อว่าขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก หาดเลนชายฝั่งรวมไปถึงหนองน้ำและสันดอน ถือเป็นพื้นที่ซึ่งมีความ อุดมสมบูรณ์อย่างมาก เป็นแหล่งแพร่พันธุ์และอนุบาลปลา-กุ้งหลายชนิด แนวชายฝั่งทะเลหาดเลนทะเลเหลือง – อ่าวโบไห่แห่งนี้มีความสำคัญ ระดับโลกเพราะเป็นแหล่งรวมนกหลายสายพันธุ์ที่ใช้เส้นทางบินข้ามถิ่นจากเอเชียตะวันออกสู่ออสตราเลเซีย (ภูมิภาคโอเชียเนีย) ซึ่งเป็นเส้นทาง ของสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงขั้นวิกฤติ ตามแนวชายฝั่งถือเป็นจุดพักเพื่อหนีหนาวหรือทำรังของสายพันธุ์เหล่านั้นอีกด้วย
French Austral Lands and Seas (ดินแดนและทะเลทางตอนใต้แถบฝรั่งเศส)
ประกอบไปด้วยแผ่นดิน-เกาะแก่งอันโดดเดี่ยวกลางมหาสมุทรอินเดียทางตอนใต้ มีพื้นที่กลุ่มเกาะ Crozet (ในคลิปด้านบน), เกาะ Kerguelen, เกาะ Saint-Paul และ เกาะ Amsterdam และอีก 60 เกาะเล็กๆบริเวณซีกโลกใต้ เรียกได้ว่าเป็น “โอเอซิส” แห่งมหาสมุทรทางใต้ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 67 ล้านเฮกตาร์ และ เป็นอีกแหล่งรวมนกทะเลที่หนาแน่นที่สุดรวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล โดยเฉพาะประชากรเพนกวินจักรพรรดิ และ นกทะเลจมูกเหลืองที่ เรียกว่า “อัลบาทรอส” หมู่เกาะที่อยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางของกิจกรรมในหมู่มนุษย์ทำให้ทั้งหมดยังคงอยู่ในสภาพที่ดีอันเป็นจุดแสดงการวิวัฒนาการทางชีวภาพและภูมิประเทศสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
Vatnajökull National Park – dynamic nature of fire and ice (อุทยานแห่งชาติวัทนาโยกุล– พลังธรรมชาติแห่งไฟและน้ำแข็ง ประเทศไอซ์แลนด์)
เขตภูเขาไฟที่โด่งดังแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.4 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 14% ของประเทศไอซ์แลนด์ มีภูเขาไฟอยู่ 10 ลูก มี 2 ลูกเป็นภูเขาไฟที่มีพลังอยู่ ปฏิกิริยาระหว่างภูเขาไฟและรอยแยกใต้แผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมของวัทนาโจกุลเกิดขึ้นอย่างหลากหลาย ซึ่งส่วนที่น่าตื่นตาที่สุดแห่งหนึ่งของที่นี่คือ น้ำท่วมฉับพลันอันเกิดจากธารน้ำแข็งที่แตกออกระหว่างการปะทุ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงหลังในพื้นที่นี้นำไปสู่การเกิดที่ราบทรายอันโดดเด่น ระบบแม่น้ำ และหุบเขาที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว พื้นที่ภูเขาไฟยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำใต้ผิวดินในท้องถิ่นที่อยู่รอดมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง
Hyrcanian Forests (ป่าโบราณฮีร์คาเนียน ประเทศอิหร่าน)
ป่าโบราณที่กว้างขวางแห่งนี้กลายมาเป็นเทือกเขาที่ทอดตัวยาว 850 กม. ตามแนวชายฝั่งทางใต้ของทะเลแคสเปียน มีอายุมากถึง 25 ถึง 50 ล้านปี ป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบกว้างมีประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปได้เก่าแก่ถึง 25-50 ล้านปีในช่วงที่ป่าครอบคลุมพื้นที่เขตร้อนทางเหนือ
พื้นที่ป่าโบราณลดลงในช่วงการเกิดธารน้ำแข็งในยุคหินใหม่ และขยายตัวอีกครั้งเมื่อสภาพอากาศกลับมาเหมาะสม ความหลากหลายทางชีวภาพของเหล่าพฤกษาเป็นลักษณะอันโดดเด่นของป่าแห่งนี้ กว่า 44% ของพืชที่มีท่อลำเลียงของอิหร่านอยู่ในภูมิภาคฮีร์คาเนียนทั้งที่เป็นพื้นที่ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 7% ของประเทศเท่านั้น จนถึงปัจจุบันนี้มีนกที่ถูกบันทึก 180 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 58 ชนิด รวมถึงเสือดาวเปอร์เซีย Persian Leopard (Panthera pardus tulliana) อันโด่งดัง
ในตอนหน้าเตรียมพบกับมรดกโลกทางวัฒนธรรม
อ้างอิง:
New Inscribed Properties (2019). UNESCO. https://whc.unesco.org/en/newproperties/date=2019&mode=shortlist
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 กรกฎาคม 2562
