พบโครงกระดูกนักรบยุคเหล็ก เชื่อถูกฆ่าซ้ำหลายครั้ง โยงพิธีพวกล่า “แวมไพร์”!?

นักโบราณคดีพบโครงกระดูกยุคเหล็กใกล้กับเมือง Pocklington ประเทศอังกฤษ มีร่องรอยการแทงด้วยหอกซ้ำหลายครั้ง (ภาพจาก MAP Archaeological Practice Ltd)

นักโบราณคดีพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีลักษณะ “ประหลาดที่สุดที่เคยขุดค้นพบในเกาะอังกฤษ”

ณ สถานที่ขุดค้นทางโบราณคดีใกล้เมือง Pocklington เมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกของเทศมณฑล Yorkshire ประเทศอังกฤษ นักโบราณคดีพบหลุมศพ 2 หลุมที่มีอายุยาวนานกว่า 2,000 ปี (ยุคเหล็ก) โดยหลุมหนึ่งพบศพนักรบชาย คาดว่ามีอายุราว 17-25 ปี ลักษณะของศพดูเหมือนว่า “ถูกฆ่า 2 หรือ 3 ครั้ง” จากร่องรอยที่ถูกแทงโดยหอกจำนวน 9 รอย ในจำนวนร่องรอยการแทงนี้ 5 รอยเป็นรอยแทงด้วยตัวหอกที่ทำจากเหล็ก และอีก 4 รอย เป็นรอยการแทงด้วยตัวหอกทำจากกระดูก นอกจากนี้บริเวณศรีษะของชายหนุ่มคนดังกล่าวยังพบว่ามีรอยการถูกฟาดด้วยไม้กระบอง

ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่าร่องรอยความรุนแรงเหล่านี้ไม่ได้เกิดในระหว่างการต่อสู้ หากแต่เกิดขึ้นหลังจากการเสียชีวิต ทั้งนี้ความเป็นมาในการทำร้ายศพอาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการในพิธีกรรม โดยผู้เชี่ยวชาญต่างได้ให้คำอธิบายถึงเบื้องหลังที่พอมีเค้าโครงความเป็นไปได้อยู่หลายประการ เช่น ชายคนดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตตามธรรมชาติแทนที่จะเสียชีวิตในสนามการต่อสู้ตามวิถีนักรบ ดังนั้นจึงได้มีการทำร้ายร่างของผู้ตาย จัดฉากให้ดูเหมือนว่าได้เสียชีวิตในสนามรบเพื่อรักษาเกียรติแห่งหน้าที่ให้กับผู้ตาย

นอกจากนี้ หากได้ศึกษาเรื่องเล่า ตำนาน หรือหลักฐานทางโบราณคดีในหลาย ๆ แห่งทั่วโลก ก็จะเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับความเชื่อในเรื่องของ “ผีดูดเลือด หรือ แวมไพร์” ซึ่งหมายถึงผู้ตายจะฟื้นขึ้นมาเป็นผีสร้างความตระหนกให้กับคนเป็นได้อีกครั้ง เป็นเหตุให้มีการฆ่าศพซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ตายจะไม่ฟื้นขึ้นมาสร้างความวุ่นวายให้กับคนเป็น

อีกข้อสันนิษฐานที่มีเค้าโครงความจริงคือชายนักรบหนุ่มคนนี้อาจโดนฝังทั้งเป็นก่อนที่จะโดนฆ่าตามแบบแผนในพิธีกรรม เนื่องจากว่าในการศึกษาประวัติศาสตร์ในยุคเหล็กพบว่ามีตัวอย่างพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสังหารมาก่อน

อย่างไรก็ตาม หลุมศพเก่าแก่ที่บรรจุศพในลักษณะโดนแทงด้วยหอกนี้เคยมีการขุดพบเจอมาก่อนหน้าอยู่ไม่ต่ำกว่า 14 แห่งในเกาะอังกฤษ หากแต่หลุมศพที่พบบริเวณใกล้กลับเมือง Pocklington นับได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คงสภาพสมบูรณ์ไว้ได้มากที่สุด

สำหรับหลุมศพข้าง ๆ นั้นพบว่าเป็นเป็นหลุมศพบรรจุโครงกระดูกผู้หญิงอายุใกล้เคียงกันกับศพชายนักรบ ซากที่หลงเหลืออยู่แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเธอมีความบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง ทั้งนี้ยังไม่พบหลักฐานที่สามารถบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนคู่นี้ได้

นอกจากหลุมศพของชายหญิงคู่นี้แล้ว ไกลออกไปอีกเพียง 55 เมตร นักโบราณคดีได้พบกับหลุมศพที่น่าพิศวงไม่แพ้กัน กล่าวคือเป็นหลุมศพของชายอายุราว 60-70 ปี อยู่ในรถม้าที่ผูกติดกับศพม้าไร้หัววัยเจริญพันธ์ในสภาพกำลังยืน

การขุดค้นในเกาะอังกฤษครั้งนี้สร้างความฉงนสงสัยให้กับผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง เพราะรูปแบบการฝังศพที่ประหลาดไม่ธรรมดาเช่นนี้ดูอย่างไรก็ต้องมีเรื่องราวอันน่าสนใจเป็นสาเหตุอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน หากแต่ว่าในปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญต่างก็ได้แต่สันนิษฐาน และทำการศึกษาเพื่อหาหลักฐานที่ให้ความกระจ่างได้มากยิ่งขึ้นต่อไป

 


อ้างอิง :

Keys, David.Vampire-killing ritual could explain prehistoric skeletons found in Yorkshire. Independent. 14 Dec 2018. <https://www.independent.co.uk/news/science/archaeology/iron-age-burial-yorkshire-chariot-grave-skeleton-warrior-archaeology-dig-pocklington-a8672331.html>

Macdonald, Cheyenne. Iron Age warrior who was bludgeoned in the face and pierced with NINE spears after death may have been ‘killed twice’ in ancient ritual to prevent him from rising as a vampire. Daily Mail Online. 14 Dec 2018. <https://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-6488671/Grave-Iron-Age-warrior-mysteriously-killed-twice-ancient-vampire-killing-ritual.html>


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 15 ธันวาคม 2561