เผยแพร่ |
---|
ดื่มน้ำเปล่า VS ดื่มน้ำแร่ทุกวัน แบบไหนดีต่อร่างกายมากกว่ากัน?
ร่างกายของเราประกอบไปด้วยน้ำถึงร้อยละ 70 ‘น้ำ’ จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย เพื่อดูแลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการปรับสมดุลในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิวให้ผิวแลดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น การดื่มน้ำจึงถือเป็นวิธีการดูแลตัวเองที่ง่ายมากที่สุด แต่มีความสำคัญกับร่างกายเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีทางเลือกในการดื่มน้ำมากมาย ทั้ง ‘น้ำเปล่า’ และ ‘น้ำแร่’ ซึ่งทุกคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า การดื่มน้ำแร่นั้นดีต่อร่างกายมากกว่าการดื่มน้ำเปล่า บ้างก็อาจจะเคยได้ยินมาว่า ดื่มแค่น้ำเปล่าสะอาดก็เพียงพอต่อร่างกายแล้ว รวมไปถึงกระแสที่ว่า หากดื่มน้ำแร่ทุกวันอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้ ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนเกิดความสับสนในการเลือกดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำแบบไหนถึงจะให้ผลลัพธ์ต่อร่างกายมากที่สุด? ในบทความนี้จะมาคลายข้อสงสัยเหล่านี้ไปพร้อมกัน!
ทำความรู้จักน้ำแร่ น้ำแร่ต่างจากน้ำเปล่ายังไง?
น้ำแร่ คือน้ำใต้ดินธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมายจากการไหลผ่านชั้นหินแร่ ซึ่งแร่ธาตุเหล่านั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละแหล่งที่มา แร่ธาตุที่พบเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม โพแทสเซียม ไอโอดีน และกำมะถัน ในขณะที่น้ำเปล่าเป็นน้ำที่มีปริมาณแร่ธาตุน้อยกว่า เนื่องจากผ่านกระบวนการกรองจนใสปราศจากสิ่งปนเปื้อนแล้ว ทำให้หลงเหลือแร่ธาตุอยู่ในปริมาณที่น้อยกว่าน้ำแร่ ซึ่งความแตกต่างของปริมาณแร่ธาตุในน้ำส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของน้ำในแต่ละประเภทอีกด้วย
ประโยชน์ของน้ำแร่
มาคลายข้อสงสัยกันว่า ทำไมน้ำแร่จึงเป็นทางเลือกการดื่มน้ำที่หลายคนแนะนำ? อย่างที่เรารู้กันว่าน้ำแร่มีแร่ธาตุมากกว่าน้ำเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำแร่ที่มาจากแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียมที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพกระดูกให้สมบูรณ์แข็งแรง น้ำแร่แมกนีเซียมที่อาจช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เช่นเดียวกับน้ำแร่ซัลเฟตที่อาจช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ส่งผลให้อุจจาระนิ่ม และขับถ่ายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งน้ำแร่แคลเซียมและแมกนีเซียมยังช่วยลดระกับความดันโลหิตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงด้วย นอกจากนี้โซเดียมคาร์บอเนตยังเป็นน้ำแร่ชนิดที่มีประโยชน์ในการเพิ่มสมรรถภาพทางกายขณะออกกำลังกาย รวมถึงช่วยเพิ่มปริมาณน้ำและเกลือแร่หลังการออกกำลังกาย การดื่มน้ำแร่ชนิดนี้ในปริมาณ 500-700 มิลลิลิตร ก่อนเริ่มเล่นกีฬาจึงอาจลดโอกาสในการเกิดภาวะเลือดเป็นกรดได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า น้ำแร่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบการทำงานของร่างกายอย่างเพียงพอ ทั้งยังเป็นแหล่งความชุ่มชื้นที่สำคัญต่อสุขภาพโดยรวม รวมถึงป้องกันและบรรเทาอาการต่างๆ ของร่างกายได้อีกด้วย!
ดื่มน้ำแร่ทุกวันอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายจริงไหม?
ด้วยประโยชน์ของแร่ธาตุในน้ำแร่ ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟต หรือโซเดียมคาร์บอเนต การดื่มน้ำแร่ทุกวันจึงเป็นทางเลือกการดื่มน้ำที่ปลอดภัยและให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางกลุ่มอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำแร่ อย่างผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำ หรือผู้ป่วยที่หัวใจทำงานได้ไม่ดีไม่ควรดื่มน้ำแร่ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรดื่มน้ำแร่ที่มีปริมาณโซเดียมสูง ผู้ป่วยภาวะ Gastric Hypochilia ไม่ควรดื่มน้ำแร่ไบคาร์บอเนต ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหารและมีแผลในทางเดินอาหารไม่ควรดื่มน้ำแร่ซัลเฟต ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่มีภาวะหลอดลมหดเกร็งไม่ควรดื่มน้ำแร่ซัลเฟอร์ และผู้ที่มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารปริมาณมากและแผลในกระเพาะอาหารไม่ควรดื่มน้ำแร่เกลือโซเดียมคลอไรด์ ดังนั้นก่อนดื่มน้ำแร่ควรจะศึกษาก่อนว่าน้ำแร่แต่ละชนิดส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เพราะแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำแร่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้นั่นเอง
เลือกดื่มน้ำเปล่า VS ดื่มน้ำแร่ทุกวันดี?
การดื่มน้ำแร่ทุกวันเป็นทางเลือกการดื่มน้ำที่ปลอดภัยและให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ‘ความต้องการของร่างกาย’ หากไม่มีความจำเป็นก็สามารถเลือกดื่มน้ำแร่เป็นครั้งคราวในยามที่ต้องการแร่ธาตุแทนการดื่มทุกวันได้ เพราะร่างกายคนเราสามารถรับแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายได้จากหลายช่องทาง อย่างการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ดังนั้นผู้ที่เลือกดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็ส่งผลดีต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายเช่นเดียวกัน แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องเป็นน้ำเปล่าที่สะอาด โดยอาจเลือกซื้อน้ำที่มีมาตรฐานรองรับหรือการติดตั้งเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้ำเปล่านั้นไม่มีสารปนเปื้อนที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
สำหรับใครที่อยากมีแหล่งน้ำสะอาดไว้ที่บ้าน แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เครื่องกรองน้ำ Amway อาจเป็นคำตอบ เครื่องกรองน้ำอีสปริง นวัตกรรมเครื่องกรองน้ำดื่มสะอาดที่มีประสิทธิภาพ ด้วยไส้กรองประสิทธิภาพสูง 3 ชั้นที่สามารถกรองไมโครพลาสติก สิ่งปนเปื้อนในน้ำ และฆ่าเชื้อโรคด้วยเทคโนโลยี UV-C LED ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก NSF มาพร้อมแอปพลิเคชันติดตามอายุการใช้งานและปริมาณการกรองน้ำดื่ม ทั้งยังมั่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพถึง 5 ปี ตอบโจทย์ให้ทุกคนในบ้านได้ดื่มน้ำสะอาดอย่างมั่นใจ