สรีดภงส-ทำนบพระร่วง เขื่อนอายุกว่า 700 ปี ของสุโขทัย (?)

เขื่อน "สรีดภงส์" (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกรกฎาคม 2546)

เขื่อนสรีดภงส (สรีดภงส์) หรือที่สมัยก่อนเรียกกันว่า ทำนบพระร่วง เป็นคันดินโบราณ ซึ่งในยุคหลังได้สร้างต่อเติมเป็นแนวระหว่างเขาพระบาทใหญ่ และเขากิ่วอ้ายม้าเพื่อใช้กักเก็บน้ำที่ไหลจากหุบเขาในโซกพระร่วง เป็นที่เชื่อกันว่าแต่เดิมน่าจะสร้างโดยกษัตริย์สุโขทัยพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ดังหลักฐานที่ปรากฏในจารึกพ่อขุนรามคำแหง

อย่างไรก็ดี สุจิตต์ วงษ์เทศ มองว่า ลำพังหลักฐานดังกล่าวไม่อาจบอกได้แน่ชัดว่า “สรีดภงส” หมายถึงสิ่งใด มันอาจเป็นไปได้ทั้งเขื่อนหรือทำนบ หรืออาจเป็นเพียงคันดินที่ใช้เบี่ยงเบนทางน้ำก็ได้ และอาจมีอยู่หลายแห่ง ไม่ได้ตั้งอยู่ ณ ที่แห่งเดียวโดดๆ ตามความหมายที่ใช้ในปัจจุบัน ดังคำอธิบายต่อไปนี้

“เนื่องจากระบบน้ำของเมืองสุโขทัยมีขนาดใหญ่โต จึงทำให้ร่องรอยระบบชักน้ำและระบายน้ำมีลักษณะซับซ้อน และสร้างความสับสนให้กับผู้ศึกษาค้นคว้าหลายๆ ฝ่าย ดังกรณีชื่อ ‘สรีดภงส’

แม้จารึกพ่อขุนรามคำแหงจะระบุว่า ด้านทิศใต้มี ‘สรีดภงส’ (มาจากภาษาสันสกฤต) ที่เชื่อกันว่าหมายถึงเขื่อนหรือทำนบกั้นน้ำของเมืองสุโขทัย แต่จารึกก็ไม่ได้บอกว่ามีรูปร่างหรือลักษณะอย่างไร?

และไม่ได้กำหนดว่า ‘สรีดภงส’ มีตำแหน่งแห่งหนอยู่แน่ๆ ที่ตรงไหน?

หากพิจารณาเจตนาของจารึกพ่อขุนรามคำแหงแล้ว จะเห็นว่าข้อความในจารึกตอนนี้ (และอาจมีตอนอื่นๆ ด้วย) มีลักษณะ ‘กวีวรโวหาร’ พรรณาบรรยากาศกว้างๆ และอย่างคร่าวๆ โดยบอกแต่เพียงว่ามีสิ่งที่เรียกว่า ‘สรีดภงส’ อยู่ ‘เบื้องหัวนอน’ คือด้านทิศใต้เท่านั้น และจะมีความหมายว่าเขื่อนหรือทำนบกั้นน้ำหรือไม่? ก็ไม่มีใครรู้แน่ๆ

แต่ด้านทิศใต้ต่อเนื่องกับด้านตะวันตกของเมืองสุโขทัย มีร่องรอยคันดินที่มนุษย์ทำขึ้นมาใช้เป็นเครื่องมือสกัดกั้นและทั้งเบี่ยงเบนทิศทางการหลากไหลของกระแสน้ำหลายต่อหลายแห่งด้วยกัน

เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรด่วนสรุปว่า ‘สรีดภงส’ หมายถึงเขื่อนหรือทำนบแห่งใดแห่งหนึ่งแต่เพียงแห่งเดียว

“สรีดภงส์” ในวันที่น้ำฝนมาช่วยเติมเต็มเขื่อนอีกครั้งหนึ่ง ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 (ภาพจากเพจ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย)

คลิกอ่านเพิ่มเติม : สรีดภงส์ “ทำนบพระร่วง” อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


อ้างอิง: สุจิตต์ วงษ์เทศ. แคว้นสุโขทัย : รัฐในอุดมคติ, ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน, 2539


เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อ 30 มีนาคม พ.ศ.2560