ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 2 กุมภาพันธ์ 2550 |
---|---|
ผู้เขียน | รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์ |
เผยแพร่ |
นับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดส่งท้ายปีจอ และเข้าสู่ปีกุนที่ใครๆ ก็ว่าเป็น หมูไฟ หมูระเบิด ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนแรง
โดยเฉพาะการปลุกกระแสต้านคลื่นใต้น้ำ และกลุ่มอํานาจเก่า ด้วยการประโคมข่าวการเกิดเหตุรุนแรงในอีก 1-2 เดือน (นับจากช่วง ก.พ. 2550 เป็นต้นไป – กองบรรณาธิการ) จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะเกิดแนวคิด และเสนอรัฐบาลในการจัดพิธี “ทําบุญประเทศ” ในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ (2550)
“จริงๆ แล้วมันน่าจะเร็วกว่านี้” พล.อ.สนธิ เปรย เนื่องจากบรรดาโหราจารย์สายคมช. สะกิดเตือนว่า อาจเกิดเหตุไม่ดีตั้งแต่ 25 ธันวาคม เป็นต้นไป
แต่เมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือสมเด็จเกี่ยว เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่ง พล.อ.สนธิ ได้เข้าไปปรึกษาหารือเรื่องการทําบุญประเทศ ได้ให้ฤกษ์งามยามดี เป็น 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็น วันเสาร์ และเป็นวันพระใหญ่ด้วย ก็จึงเป็นอันตกลงใจ
ที่สําคัญ 24 กุมภาพันธ์ ถือเป็นวันของทหารหมวกแดง รบพิเศษ ซึ่งเป็นเหล่ากําเนิดของทั้ง พล.อ.สนธิ และบิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี (เมื่อพ.ศ. 2550 – กองบรรณาธิการ) อีกด้วย โดยมี พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการทบ. เป็นผู้ประสานงานกับเลขานุการของเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ในการกําหนดรายละเอียดต่างๆ
“ที่ต้องทําบุญประเทศก็เพราะ พล.อ.สนธิ ท่านห่วงว่าใน 2-5 เดือนนี้ จะมีเหตุไม่เรียบร้อยในบ้านเมือง ก็ทําเพื่อความสบายใจของประชาชน” พล.ต.วีรัณ ระบุ
แต่เป็นที่รู้กันดีว่า แม้ พล.อ.สนธิ จะเป็น มุสลิม แต่ทว่าก็ค่อนข้างเชื่อถือในเรื่องโหราศาสตร์ โดยเฉพาะการดูหมอที่มีข่าวมาตลอด ถึงการแอบแว่บไปพบหมอดู หรือเชิญหมอดูมาพบโดยเฉพาะ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หมอดูพื้นบ้านล้านนา จากเชียงใหม่ ที่คมช.ทั้งคณะเคยบินไปทําบุญสืบดวงชะตามาแล้ว และมีการพบเป็นส่วนตัวของคมช. บางคน อีกเป็นระยะๆ โดยเฉพาะ พล.อ.สนธิ ที่ได้รับทราบคําทํานายทายทักจากอาจารย์ท่านนี้
“มีผู้ใหญ่ที่เขาดูในเรื่องเหล่านี้หลายคน ทักทายตรงกัน แล้วก็มีคนส่งจดหมายมาให้ผม ประชาชนก็รู้สึกจะไม่ค่อยสบายใจ กังวลกับสถานการณ์และข่าวลือต่างๆ ผมก็เลยฉุกคิดว่า เราน่าจะทําบุญใหญ่ให้ประเทศจะได้สบายใจกัน โบราณว่า จิ้งจกทักยังต้องฟัง แล้วนี่คนทัก เราก็เชื่อเอาไว้บ้าง” พล.อ.สนธิกล่าว
ไม่แค่นั้น ฝ่ายรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ เองก็ยังมีพิธีทําบุญของทีมภริยาคณะรัฐมนตรี ที่นําโดย พันเอกหญิง คุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ ที่ท้องสนามหลวง ไปเมื่อ 20 มกราคมที่ผ่านมาแล้ว (พ.ศ. 2550 – กองบรรณาธิการ)
และจะมีพิธีใหญ่ที่บิ๊กตุ๊ด พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ชื่อว่า สามัคคีธรรม นําสันติสุข และพิธีสยามมงคล ในวันที่ 31 มกราคม – 11 กุมภาพันธ์ ที่ทุกวันจะมีพระสงฆ์ 108 รูป และพระธุดงค์มาปักกลดที่ท้องสนามหลวงอีก 801 รูป รวมเป็น 909 รูปเพื่อทําพิธีสวดมนต์ ตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น.
ส่วนตอนเช้า มีพิธีที่ศาลหลักเมือง ตั้งแต่ 09.00-11.00 น. ซึ่งถือเป็นพิธีแก้ดวงเมือง และสืบชะตาให้กับประเทศ ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานไม่ต่างจากของ พล.อ.สนธิ แต่งานนี้มีหมอดูชื่อดังที่เป็นทหารหลายคนทายทักเอาไว้
……..
ยิ่งเมื่อเหตุระเบิด 9 จุดในกรุงเทพฯ ยังเกิดขึ้นได้ พล.อ.สนธิ และ คมช. จึงหวั่นไหวว่า การเมืองจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น รวมถึงข่าวลือเรื่องการปฏิวัติ ปฏิวัติซ้อน ที่แม้พล.อ.สนธิ จะมั่นใจกับกําลังในมือ แต่ก็ไม่วายกังวล เพราะหากมันอุบัติขึ้นก็ย่อมหมายถึง การต่อสู้กันเองของทหาร และการนองเลือดด้วยแน่นอน
“ผมไม่มีหมอดูประจําตัวคมช. ก็ไม่มีหมอดูคมช. แต่เราก็ต้องฟังเรื่องเหล่านี้ไว้บ้าง เพื่อความสบายใจ” พล.อ.สนธิกล่าว
เพราะหลายครั้งที่คําทํานายทายทักเหล่านี้ตรงเผง โดยเฉพาะในเรื่องอนาคตของตัวพล.อ.สนธิ เอง ที่ได้เป็นทั้งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และ ผบ.ทบ. อย่างไม่คาดหมาย จนมาถึงการก่อการยึดอํานาจ 19 กันยายนที่ผ่านมา ที่มีหมอดูอีทีจากพม่า ทํานายทายทักว่าจะก่อการใหญ่ที่สําคัญมาก ต่อประเทศ แล้วก็จะประสบความสําเร็จที่ยิ่งทําให้ พล.อ.สนธิมั่นใจ
ลือกันว่า สําหรับหมออีทีจากพม่า ซึ่งเป็นหมอดูที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงอ้อ พจมาน ชินวัตร ให้ความเชื่อถือศรัทธานี้ ก็เป็นหมอดูขาประจําของ พล.อ.สนธิเช่นกัน – โดยเฉพาะเมื่อสามารถทายตัวเล็กจากแบงค์ดอลลาร์ในมือ พล.อ.สนธิ ได้อย่างถูกต้อง
ที่สําคัญ โหร คมช. เตือนให้ระวังถึงดวงชะตาของ พล.อ.สนธิ และ คมช. ที่จะเข้าสู่ช่วงขาลง และอาจเกิดสิ่งไม่ดี จนต้องทำพิธีสืบชะตากันหลายครั้ง รวมถึงการไป “แก้กรรม” ด้วยการไหว้สักการะพระบรมธาตุเจดีย์ตามปีเกิด และการไปทําบุญกับเจ้าอาวาสวัดต่างๆ อีกด้วย
เมื่อหลากหลายโหรคนดังที่เชื่อถือทักทายตรงกัน พล.อ.สนธิ จึงเข้านมัสการสมเด็จเกี่ยว ณ วัดสระเกศ ทันที โดยสมเด็จเกี่ยว นั่งหลับตาดูนิมิตอยู่พักใหญ่ ท่านก็เห็นดีด้วย เพราะท่านเองก็รับรู้และเป็นห่วงเรื่องเหล่านี้อยู่แล้วด้วย
แต่กระนั้น ในการทําบุญประเทศนี้ ทั้ง พล.อ.สนธิ และ พล.อ.สุรยุทธ์ หวันจะซ้ำรอย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในการทําบุญประเทศเมื่อปีก่อน ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
มาคราวนี้ พล.อ.สนธิ จึงเสนอต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ ให้รัฐบาลกราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9 – กองบรรณาธิการ) ซึ่งแล้วแต่ว่าจะทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์ใดมาแทน รวมทั้งขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการใช้วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในการทําพิธี
“คมช. แสนอไปยังรัฐบาล เพื่อให้กราบบังคมทูลให้ทรงทราบ แล้วแต่ว่าพระองค์จะทรงโปรดเกล้าฯ ลงมาอย่างไร” พล.ต.วิรัณกล่าว
พิธีกําหนดไว้จะเริ่มต้นในเวลา 07.09 น. เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยเริ่มจากพิธีทําบุญตักบาตรพระสงฆ์กลางท้องสนาม หลวง 16.0g น เป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นเป็นพิธีสวดจญภาวนา 9 นาที โดย จะทำพร้อมๆกันทุกจังหวัดทั่วประเทศของทั้ง 5 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ อิสลาม ซิกข์
พราหมณ์-ฮินดู รวมทั้งมัสยิด 3,500 แห่งทั่วประเทศ ที่จะมีการละหมาดใหญ่
นี้จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะทําเพื่อความสบายใจของประชาชนของ คมช. และที่สําคัญ เพื่อทําให้ คมช. มั่นคงมากขึ้น เพราะหากเกิดอะไรร้ายแรงขึ้น ก็ย่อมหมายถึงการสูญสิ้นสลายของคมช. ด้วยเช่นกัน…
หมายเหตุ : คัดเนื้อหาส่วนหนึ่งจากบทความรายงานพิเศษ “หลังเสียงทักของหลากโหร การเมืองร้อน เปิดเบื้องหลัง แนวคิด ‘บิ๊กบัง’ ‘ทำบุญประเทศ’ ” ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 2 กุมภาพันธ์ 2550 และนำมาเรียบเรียงขึ้นใหม่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 6 กรกฎาคม 2564