เผยแพร่ |
---|
นักวิจัยพบหลักฐานการระบาดของโรคมาลาเรียซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในชุมชนต่างๆ ทั่วคาบสมุทรอิตาลี ในจักรวรรดิโรมัน เมื่อ 2,000 ปีก่อน เช่นเดียวกับที่เป็นอยู่ในภูมิภาคซับซาฮาราในแอฟริกาทุกวันนี้
รายงานของ International Business Times กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นักประวัติศาสตร์ได้บรรยายลักษณะอาการป่วยไข้ซึ่งคล้ายกับอาการป่วยของผู้ที่ติดไข้มาลาเรียทั้งในกรีกโบราณ และอาณาจักรโรมัน แต่ไม่มีใครสามารถยืนยันได้มาก่อนว่า โรคระบาดที่มีการบันทึกในยุคดังกล่าวเกิดจากเชื้อพลาสโมเดียม (Plasmodium) ต้นเหตุของโรคมาลาเรียจริงๆ
จนล่าสุดมีนักวิจัยพบหลักฐานยืนยันได้ว่า โรคที่คร่าชีวิตมนุษย์ยุคโบราณตามที่เคยมีการบันทึกกันไว้นั้นเป็นโรคมาลาเรียจริงๆ จากการพิสูจน์ดีเอ็นเอในไมโตคอนเดรียจากฟันของโครงกระดูกหลายร่างในสุสาน 3 แห่งของอิตาลี ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 1-3
“ข้อมูลของเราสามารถยืนยันได้ว่าเชื้อสายพันธุ์ที่พบคือ Plasmodium falciparum ซึ่งสร้างผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ผลที่ได้นำไปสู่คำถามใหม่ๆ ให้เราต้องหาคำตอบต่อไป โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าเชื้อปรสิตชนิดนี้มันระบาดหนักแค่ไหน และมันสร้างภาระให้กับชุมชนต่างๆ ในจักรวรรดิโรมันอิตาลีมากน้อยเพียงใด” สเตฟานี มาร์ชิเนียก (Stephanie Marciniak) นักวิจัยในงานวิจัยล่าสุดกล่าว
ทั้งนี้จากสถิติของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ แม้ปัจจุบันการแพร่ระบาดของมาลาเรียจะลดลงไปกว่า 37% นับแต่ปี 2000 เป็นต้นมา แต่สถิติเมื่อปีที่ผ่านมายังพบการติดเชื้อกว่า 214 ล้านกรณี และทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมราว 438,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก
เผยแพร่ข้อมูลในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 ธันวาคม 2559