ร.7 ทรงเคืองพระทัย เหตุคณะผู้สำเร็จราชการไม่ให้พระราชโอรสบุญธรรมใช้นามสกุล “ศักดิเดชน์”

รัชกาลที่ 7 และ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรม นามสกุลศักดิเดชน์
รัชกาลที่ 7 และพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ (ภาพ : คลังสารสนเทศดิจิทัล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงมีพระราชประสงค์ให้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมทรงใช้นามสกุลศักดิเดชน์ แต่กลับถูกคณะผู้สำเร็จราชการปฏิเสธ ทำให้พระองค์ทรงขุ่นเคืองพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง

คุณหญิงมณี สิริวรสาร หรือ “หม่อมมณี” หม่อมในพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ เล่าว่า รัชกาลที่ 7 ทรงชุบเลี้ยงพระองค์เจ้าจิรศักดิ์มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และพระราชทานพิธีโสกันต์ให้ในวังหลวง

รัชกาลที่ 7 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี พระตำหนักเวนคอร์ต นามสกุลศักดิเดชน์
รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ณ พระตำหนักเวนคอร์ต อังกฤษ (ภาพ : ห้องสมุด มสธ.)

หลังจากทรงสละราชสมบัติ และเสด็จพระราชดำเนินประทับยังประเทศอังกฤษ ทรงจดทะเบียนรับพระองค์เจ้าจิรศักดิ์เป็นบุตรบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมายอังกฤษใน ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481)

เมื่อหม่อมมณีตั้งครรภ์ รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชประสงค์ให้พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ใช้นามสกุล “ศักดิเดชน์” มาจากพระนามของพระองค์เมื่อแรกประสูติคือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์

ทว่าพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น “พระองค์เจ้า” (แรกประสูติคือหม่อมเจ้าจิรศักดิ์สุประภาต) จึงไม่มีโอกาสใช้นามสกุลนี้ แต่บุตรที่จะเกิดมาเป็นหม่อมราชวงศ์จะเป็นผู้ใช้นามสกุลศักดิเดชน์

รัชกาลที่ 7 และ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ พระราชโอรสบุญธรรม นามสกุลศักดิเดชน์
รัชกาลที่ 7 และพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ (ภาพ : คลังสารสนเทศดิจิทัล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)

เพื่อให้ทางกรุงเทพฯ ทราบเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ รัชกาลที่ 7 จึงทรงมีลายพระหัตถ์ถึงคณะผู้สำเร็จราชการ ซึ่งมี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เป็นประธาน สรุปใจความได้ว่า

รัชกาลที่ 7 ทรงจดทะเบียนรับพระองค์เจ้าจิรศักดิ์เป็นบุตรบุญธรรมสืบสกุลศักดิเดชน์ต่อไป ถูกต้องตามกฎหมายอังกฤษทุกประการ จึงขอให้พระองค์เจ้าอาทิตย์ลงแจ้งเรื่องนี้เป็นทางการในราชกิจจานุเบกษาว่า พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ถือเอา “ศักดิเดชน์” เป็นนามสกุล หรือส่วนหนึ่งของนามสกุลสืบไป

แต่คำตอบจากคณะผู้สำเร็จราชการมาถึงล่าช้ามาก และมีใจความว่า ประธานคณะผู้สำเร็จราชการไม่สามารถประกาศเรื่องนี้เป็นทางการในราชกิจจานุเบกษาได้ตามพระราชประสงค์

เนื่องด้วยคณะผู้สำเร็จราชการไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือตามกฎมณเทียรบาลใดๆ ที่จะยอมอนุญาตให้พระองค์เจ้าจิรศักดิ์เปลี่ยนนามสกุลจาก “ภาณุพันธ์” เป็น “ศักดิเดชน์” ได้

เหตุผลเพราะว่า สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระชนกของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล ภาณุพันธ์ และได้รับพระราชทานราชสกุลนี้จากพระเจ้าแผ่นดิน

ดังนั้น คณะผู้สำเร็จราชการจึงไม่สามารถรับรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงนามสกุลของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ได้

“สมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงแค้นเคืองเรื่องนี้มาก แต่ก็ทรงทำอะไรอีกต่อไปไม่ได้ และทุกวันนี้ทายาทของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์คือ ลูกชายของข้าพเจ้าทั้งสองคนก็ใช้นามสกุลศักดิเดชน์ เป็นส่วนหนึ่งของนามสกุลควบกันไปกับภาณุพันธ์” หม่อมมณีระบุในหนังสือ “ชีวิตเหมือนฝัน”

หมายเหตุ : อิงการสะกดนามสกุลภาณุพันธ์ ดังปรากฏในหนังสือ “ชีวิตเหมือนฝัน”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

คุณหญิงมณี สิริวรสาร. ชีวิตเหมือนฝัน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์กรุงเทพ (1984).


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 เมษายน 2568