อนุสาวรีย์ “พระเจ้าตาก” แล้วเสร็จได้เพราะ จอมพล ป. รอดตายจากเหตุ “กบฏแมนฮัตตัน” ?

อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ธนบุรี กรุงเทพฯ

“…ประเด็นสงสัยทิ้งท้ายสำหรับจดหมายฉบับนี้คือเหตุใดการสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีใช้ระยะเวลานานกว่าสิบปีนับจากวันลงคะแนนเสียงเลือกแบบอนุสาวรีย์ และทำไม จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีของไทยในขณะนั้น เป็นผู้เริ่มดำเนินก่อสร้างขึ้น แล้วนำถวายขึ้นกราบบังคมทูลพระราชทานอัญเชิญเสด็จฯ ไปทรงเปิดในวันดังกล่าว

มีคำถามว่า ได้มีเหตุข้อมูลจูงใจอันใดหรือ ที่ทำให้ท่านจอมพลคนหัวปี ‘พ่อขุนแปลก’ คิดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินขึ้นในปี พ.ศ. นั้น! น่าจะมีกรณีพิเศษอะไรซักอย่างซีน่า!

มีเรื่องเล่ากันมาว่า เพราะเมื่อกลางปี 2494 ‘พ่อขุนแปลก’ เกิดประสบภัยทางการเมืองอย่างรุนแรงจากกรณี ‘กบฏแมนฮัตตัน’ จนท่านต้องหนีเข้าไปหลบภัยอยู่ในท้องพระโรงพระราชวังเดิม ฝั่งธนบุรี ที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระเจ้าธนบุรีตั้งประดิษฐานอยู่ ณ ท้องพระโรงแห่งนั้น ท่านจอมพล ป. พิบูลสงครามได้ก้มลงกราบถวายบังคมพระบรมรูปของพระมหาราชเจ้าพระองค์นี้ ขอพระบารมีของท่านเป็นที่พึ่งให้ช่วยคุ้มครองความปลอดภัย และเมื่อท่านจอมพลรอดพ้นจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองในคราวนั้นมาได้โดยสวัสดิภาพ กลับมานั่งเอ้เตอยู่ ณ ทำเนียบรัฐบาลได้อย่างเก่าแล้ว ท่านจึงลงมือดำเนินการก่อนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระเจ้ากรุงธนบุรีขึ้นจนสำเร็จเรียบร้อยในปีถัดมา

กบฏแมนฮัตตัน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2494 จะเกิดขึ้นเพราะสาเหตุอะไรบ้าง ผมจะไม่ขอเล่านะครับ เพราะเรื่องมันยาว จะสรุปสั้นๆ เพียงแค่ว่า ท่านถูก นาวาตรีมนัส จารุภา จี้ท่านเอาลงเรือเล็กขึ้นไปกักบริเวณท่านไว้บนเรือรบหลวงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเรือปืนลำใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือไทยในขณะนั้น ต่อมาฝ่ายรัฐบาลได้ยื่นคำขาดให้ฝ่ายกบฏยอมแพ้แล้วใช้กำลังทหารบก ทหารอากาศ เข้าปราบกบฏกลุ่มนี้อย่างรุนแรง มีเครื่องบินทิ้งระเบิดเรือศรีอยุธยาจนจมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่จอมพล ป. ท่านรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เพราะมีนายทหารเรือ 2 คน (ผมจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว) พาท่านโดดลงน้ำหนีขึ้นไปอาศัยอยู่ในท้องพระโรงพระราชวังเดิม อันเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพเรือขณะนั้น และเมื่อท่านย่างเท้าก้าวเข้าไปในท้องพระโรงพระราชวังหลวงเก่าดังกล่าว ทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพเปียกมะล่อกมะแล่กชุ่มโชกไปทั้งตัว ท่านพ่อขุนแปลกก็ทรุดร่างก้มกราบถวายบังคมต่อเบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์อันตั้งเป็นประธานอยู่ ณ ที่นั้น อ้อนวอนขอพระบารมีของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนเป็นที่พึ่ง แล้วท่านก็รอดปลอดภัยชัยโยกลับมานั่งแป้นเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ได้อีกครั้งดังกล่าวมาข้างต้นนั้นแหละครับ…”

ลุงโบราณ

ที่มา: คอลัมน์ “จดหมาย” ใน นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม 2556