เมื่อ “สามเกลอ” บุกอเมริกา…ความฮาก็บังเกิด

สามเกลอ
หน้าปก "สามเกลอ" ตอน สามเกลอไปอเมริกา

หากพูดถึงหัสนิยายของไทยแล้วน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก “สามเกลอ” ซึ่งเป็นชุดนิยายขบขันที่มีความเป็นอมตะ อ่านกี่ครั้งก็หัวร่องอหงายไปกับพฤติกรรมสุดเพี้ยนของตัวละครในเรื่อง ความทะลึ่งตึงตัง และอีกสารพัดความห่ามล้วนสร้างสีสันและความขบขันให้กับผู้อ่านทุกยุคทุกสมัย นอกจากนี้ในความขบขันของนิยายชุดสามเกลอยังเต็มไปด้วยการเสียดสีสังคมไทยอย่างแสบสันอีกด้วย

สามเกลอเป็นผลงานของ ป.อินทรปาลิต ที่ตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2482-2511 มีมากกว่าพันตอนและยังถูกจัดให้เป็นหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน เนื้อหาของแต่ละตอนนั้นเป็นเรื่องของพฤติกรรมของตัวละครสำคัญๆ อย่าง พล พัชราภรณ์ นิกร การุณวงศ์ กิมหงวน ไทยแท้ ดร.ดิเรก ณรงค์ฤทธิ์ พระยาปัจจนึกพินาศ ศักดิ์แห้ว โหระพากุล ฯลฯ ที่มีความเพี้ยนและทะลึ่งตึงตังตลอดทั้งเรื่อง บางตอนมีลักษณะของการเสียดสีสังคมหรือเสียดสีบุคคลสำคัญอยู่ด้วย นอกจากนี้นิยายชุดสามเกลอยังเป็นวรรณกรรมที่บันทึกสภาพบ้านเมืองและสังคมไทยอีกด้วย ดังนั้น สามเกลอจึงภาพสะท้อนสังคมไทยได้เป็นอย่างดี

Advertisement

สามเกลอ ตอน สามเกลอไปอเมริกา นั้นตีพิมพ์ในช่วงปี 2490 ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยกำลัง “เห่อ” ความเป็นอเมริกา ใครๆ ก็อยากจะไปอเมริกา เห็นได้จากตอนนี้ ป.อินทรปาลิตให้ตัวละครพูดถึงอเมริกาว่า “เมืองสวรรค์ของโลก” อาการเห่ออเมริกาของไทยจึงกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญของ ป. อินทรปาลิตในการเขียนตอนนี้

หน้าปก “สามเกลอ” ตอน สามเกลอไปอเมริกา

สามเกลอไปอเมริกา เป็นตอนที่ตัวละครสำคัญไปเที่ยวอเมริกา ได้แก่ พล พัชราภรณ์ นิกร การุณวงศ์ กิมหงวน ไทยแท้ ดร.ดิเรก ณรงค์ฤทธิ์ และลุงเชย และแน่นอนขึ้นชื่อว่าพลพรรคสามเกลอแล้ว พวกเขาต้องมีวีรกรรมสุดเพี้ยนชวนหัวอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมิเช่นนั้นก็คงจะไม่ใช่สามเกลอ…

ความน่าสนใจของตอนนี้ก็คือพลพรรคทั้ง 5 คนที่ไปอเมริกา มีเพียงลุงเชยเท่านั้นที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แกจึงอาศัยหลานๆ อีก 4 คนช่วยเหลือตลอดการเดินทาง เส้นทางจากกรุงเทพไปอเมริกานั้น เสี่ยหงวนผู้ใจป้ำก็ได้เหมาเครื่องบินเที่ยวพิเศษซึ่งมีผู้โดยสารเพียง 5 คนเท่านั้นในราคา 100,000 บาทพร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิส! ในตอนนี้ ตัวละครสำคัญที่เป็นผู้ทำให้สามเกลอไปอเมริกามีความสนุกสนานที่สุดก็เห็นจะไม่พ้น ลุงเชย…ซึ่งตัวแกนั้น เชยสมชื่อจริงๆ

ระหว่างการเดินทางคณะเดินทางต้องแวะพักที่เมืองมะนิลาและเกาะกวมก่อนจะไปถึงยังอเมริกา ตลอดการเดินทางนั้น ลุงเชยแกก็ได้สร้างวีรกรรมชวนหัวอยู่หลายครั้ง บางครั้งก็เป็นเพราะความเปิ่นเป๋อของแกเอง และบางครั้งก็เป็นเพราะถูกหลานๆ ทั้ง 4 กลั่นแกล้งเข้าให้ ความไม่รู้ภาษาอังกฤษของลุงเชยนี่เองทำให้เรื่องสนุกสนาน ลุงเชยพูดภาษาไทยด้วยความภูมิอกภูมิใจทุกครั้งจนกระทั่งหลานๆ ทั้ง 4 ต้องคอยปรามอยู่เสมอ สิ่งที่น่าสนใจก็คือแทบทุกครั้งที่ลุงเชยต้องเผชิญหน้ากับฝรั่งคนใดก็ตาม ฝรั่งคนนั้นจะพูดภาษาไทยได้เสมอ และภูมิหลังว่าเคยอยู่เมืองไทยมานานพอสมควรจนพูดภาษาไทยได้

หลายต่อหลายครั้ง ลุงเชยก็โดนฝรั่งด่าเป็นภาษาอังกฤษแต่ก็ด้วยความไม่รู้ภาษาอีกนั่นแหละที่ทำให้ตัวลุงเชยกลายเป็นตัวตลกประจำการเดินทางครั้งนี้ เช่นตอนที่ลุงเชยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแล้วพูดแต่คำว่า “เยส เยส ออไร๋ส โอ. เค. ซิกาแร๊ต” จนกระทั่งบ๋อยถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “ท่านเป็นบ้าหรือครับ?” ลุงเชยก็ยังคงตอบไปว่า “เยส เยส ออไร๋ส โอ. เค. ซิกาแร๊ต” และบ่อยครั้งที่ลุงเชยพยายามจะพูดภาษาอังกฤษอันกระท่อนกระแท่นจนหลานๆ ต้องคอยเตือนว่าถ้าพูดไม่เป็นก็อย่าพูดเลยดีกว่า หรือบางครั้งฝรั่งที่พูดภาษาไทยได้ก็บอกกับลุงเชยว่า “ถ้าพูดไม่ได้ก็อย่าพยายามพูดเลยครับ”

ลุงเชยเป็นคนรักชาติบ้านเมืองอย่างที่สุด เห็นได้เมื่อตอนที่ต้องแวะเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ลุงเชยก็ไปมีเรื่องราวชกต่อยกับกุ๊ยในไนท์คลับ ด้วยเหตุที่ว่ากุ๊ยคนนั้นมาด่าคนไทยว่าเป็นขี้ข้าญี่ปุ่น จากนั้นคณะเดินทางก็ต่อสู้ตะลุมบอนกับกุ๊ยในไนท์คลับ จนสุดท้ายชัยชนะก็ตกเป็นของคณะคนไทย

อเมริกาสำหรับลุงเชยแล้วเป็นสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ น่าตื่นเต้นไปเสียหมด จนกระทั่งลุงเชยถูกหลอกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ ลุงเชยถูกหลอกว่าจะพาไปดูโรงงานที่ทำได้สารพัด ด้วยความอยากรู้อยากเห็นลุงเชยจึงตามฝรั่งไปแล้วก็ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ เมื่อหลานๆ ทั้ง 4 รู้เรื่องก็ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะไม่ค่อยทุกข์ใจนัก เสี่ยกิมหงวนชักชวนให้เพื่อนกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยคิด แต่จนแล้วจนรอดลุงเชยก็รอดพ้นจากการเป็นตัวประกันโดยที่ไม่เสียค่าไถ่สักบาทเดียว…

ชะตากรรมของตัวละครอย่างลุงเชยในตอนสามเกลอไปอเมริกานั้นน่าสนใจ เพราะด้วยความที่ลุงเชยนั้นเป็นคนไทยที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังเชยสมชื่อไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวอะไรเลย ไม่เคยเห็นบ้านเมืองที่ศิวิไลซ์เหมือนกับหลานๆ อีก 4 คน เมื่อต้องไปเที่ยวไปอยู่ในอเมริกาพฤติกรรมของลุงเชยจึงเป็นสิ่งที่ถูกล้อเลียนมากที่สุดจากทั้งหลานทั้ง 4 และฝรั่ง

หากพิจารณาว่านี่คือการเสียดสีพฤติกรรมของคนไทยเมื่อต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง โดยเฉพาะบ้านเมืองที่เจริญแล้วก็นับได้ว่าเป็นการเสียดสีที่ทั้งแสบทั้งคันเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 สิงหาคม 2560