โรงเรียนทหารเพื่อการปฏิวัติ ของซุนยัตเซ็น หวังพลิกวิกฤตของประเทศจีน

เซ็นซุนยัตตรวจพลสวนสนามของขบวนแถวนักเรียนในพิธีเปิดเรียนของโรงเรียนทหารหวงผู่ (บนเวทีจากซ้าย เลี่ยวจ้งข่าย, เจียงไคเชก, ซุนยัตเซ็น และซ่งชิ่งหลิง) เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1924

แม้ซุนยัตเซ็นจะสามารถปลุกระดมกองทัพจนโค่นล้มรัฐบาลราชวงศ์ชิงสำเร็จ และสถาปนาสาธารณรัฐจีนสำเร็จ แต่ซุนยัตเซ็นที่ไม่มีกองทัพเป็นของตนเอง ยังต้องพบกับความล้มเหลวในสงครามหลายครั้งหลังจากนั้นอีก เพราะกองทัพเก่าเป็นกบฏ

เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1926 คนที่ซุนยัตเซ็นมองว่าเป็นคนสนิทของตนเองมาโดยตลอดอย่าง เฉินจย่งหมิง ก่อกบฏ  เฉินจย่งหมิงไม่เพียงแต่ต้องการขับไล่ซุนยัตเซ็นออกไป แต่ยังหมายเอาชีวิตอีกด้วย ด้วยการยิงระเบิดใส่ทําเนียบประธานาธิบดี ซุนยัตเซ็นเกือบถึงแก่ชีวิต  หลังการครุ่นคิดซุนยัตเซ็นตระหนักว่า “ความหวังเดียวของการปฏิวัติก็คือต้อง สร้างกองทัพปฏิวัติเพื่อมาพลิกวิกฤตการณ์ของประเทศจีน”

เดือนธันวาคม ค.ศ.1921 เฮงค์ สเนฟลีท ผู้แทนองค์การคอมมิวนิสต์สากล เข้าพบซุนยัตเซ็นที่เมืองกุ้ยหลิน มณฑลกวางสี เขาเห็นว่า ซุนยัตเซ็นให้ความสําคัญกับผู้นํารายบุคคลมากเกินไป ละเลยพลังของพรรค อีกทั้งไม่มีกองทัพเป็นของตนเอง จึงไม่มีทางโจมตีศัตรูกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยิ่งไม่มีทางบรรลุอุดมการณ์การปฏิวัติของตนเองได้ด้วย

เฮงค์ สเนฟลีท แนะนําซุนยัตเซ็นให้ “ก่อตั้งโรงเรียนนายทหาร และจัดตั้งกองทัพปฏิวัติ”

ข้อเสนอแนะของสเนฟลีท การให้ความช่วยเหลือของโซเวียต และการคิดทบทวนของซุนยัตเซ็นเอง ในที่สุดโรงเรียนทหารก็เริ่มมีเค้าโครงขึ้นมา เดือนสิงหาคม ค.ศ.1923 ซุนยัตเซ็นพยายามเตรียมการก่อตั้ง โรงเรียนทหารและสร้างกองทัพปฏิวัติด้วยการส่ง “คณะสํารวจศึกษา ดร. ซุนยัตเซ็น” ซึ่งประกอบด้วยเจียงไคเชก, จางไท่เหลย และเสิ่นติ้งอี ไปสำรวจกิจการพรรคและการทหารที่โซเวียต

คณะได้สํารวจศึกษาที่โซเวียตอยู่เกือบ 3 เดือน สิ่งที่พวกเขาสํารวจศึกษาเกี่ยวข้องกับด้านต่างๆ ได้แก่ การทหาร การเมือง กิจการพรรค รวมถึงได้ปรึกษาหารือประเด็นต่างๆ อย่างการให้ความช่วยเหลือด้านการทหาร และการก่อตั้งโรงเรียนทหารด้วย

เดือนตุลาคม ค.ศ.1923 คณะกรรมการกลางชั่วคราวของพรรคก๊กมินตั๋งเปิดการประชุมมีเลี่ยวจ้งข่ายเป็นประธาน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ก่อตั้งโรงเรียนทหารบกตามข้อเสนอของซุนยัตเซ็น โดยตั้งชื่อว่า “โรงเรียนทหารบกพรรคก๊กมินตั๋งแห่งประเทศจีน”

เดือนมกราคม ค.ศ.1924 ซุนยัตเซ็นกําหนดให้ที่ตั้งเดิมของโรงเรียนทหารมณฑลกวางตุ้งเก่าซึ่งอยู่ที่เกาะฉางโจว คนทั่วไปนิยมเรียก “เกาะหวงผู่” เป็นสถานที่ก่อตั้งโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่สําคัญด้านการทหารมาแต่อดีต จึงสะดวกต่อการก่อตั้งโรงเรียนฝึกซ้อมทหาร เนื่องจากโรงเรียนทหารแห่งนี้สร้างขึ้นที่เกาะหวงผู่ จึงเรียกกันติดปากว่า “โรงเรียนทหารหวงผู่”

ที่อาคารสองข้างบริเวณประตูใหญ่ โรงเรียนทหารแห่งนี้เดิมที่มีโคลงคู่หนึ่งเขียนว่า “อยากมั่งคั่งหวังยศศักดิ์เชิญข้างหน้า หวงชีวากลัวตายไม่เข้า” และ ป้ายแนวขวางตรงกลางเขียนว่า “ต้อนรับนักปฏิวัติ” ซุนยัตเซ็นหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋งเปลี่ยนโคลงคู่ดังกล่าวเป็นคำขวัญในพินัยกรรมของเขาว่า “การปฏิวัติยังไม่บรรลุเสร็จสิ้น เหล่าสหายยังต้องพยายามดิ้นรนต่อไป”

เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1924 โรงเรียนทหารหวงผู้เปิดเรียน มีซุนยัตเซ็นเป็นผู้จัดการโรงเรียน, เจียงไคเชกเป็นผู้บัญชาการโรงเรียน และเลี่ยวจงข่ายเป็นผู้แทนพรรค โรงเรียนรับนักเรียนเข้าศึกษาอย่างเป็นทางการ 350 คนและตัวสํารอง 120 คนจากผู้เข้าสอบ 1,200 คน

วันที่ 16 มิถุนายน โรงเรียนทหารบกพรรคก๊กมินตั๋งแห่งประเทศจีนจัดพิธีเปิดเรียน ซุนยัตเซ็นกล่าวกับนักเรียนรุ่นเยาว์อย่างอบอุ่นว่า “นับจากวันนี้ไป พวกคุณจะต้องตั้งมั่นปณิธานว่า ตลอดชีวิตนี้จะต้องไม่มีความคิดอยากได้ตําแหน่ง และอยากรวย รู้เพียงแค่ว่า จะต้องปฏิบัติหน้าที่ช่วยชาติช่วยประชาชน”

ซุนยัตเซ็นยังมอบโอวาทอีกว่า “พรรคก๊กมินตั๋ง ยึดถือหลักลัทธิไตรราษฎร์ในการสถาปนาสาธารณรัฐจีนและสร้างสังคมอุดมสุข ท่านทั้งหลายถือเป็นกองหน้าของประชาชน ในแต่ละวันจักต้องไม่เกียจคร้าน และต้องปฏิบัติตามหลักลัทธิไตรราษฎร์ ขอให้ทุกท่านจงขยันหมั่นเพียร มีความกล้าหาญ ทำตนให้น่าเชื่อถือ จงรักภักดีต่อชาติ และมีคุณธรรมในใจตลอดไป”

โอวาทของซุนยัตเซ็นในวันนั้น ได้กลายเป็น “เพลง” ประจำพรรคก๊กมินตั๋ง และประจำโรงเรียนทหารแห่งนี้


ข้อมูลจาก

เส้าหย่ง, หวังไห่เผิง (เขียน) กำพล ปิยะศิริกุล (แปล). หลังสิ้นบัลลังก์มังกร, สำนักพิมพ์มติชน 2560


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 พฤษภาคม 2563