ฟุตบอลโลกกับคนรุ่นใหม่ที่ได้เลือกตั้งครั้งแรก สร้างปรากฏการณ์ในการเลือกตั้งอังกฤษ 1970

ภาพประกอบเนื้อหาจาก pixabay.com

การเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1970 เป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งที่มีการผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้ประชาชนชาวบริติชที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปสามารถใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้เป็นครั้งแรก ซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ที่อายุ 21 ปีบริบูรณ์

นอกจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์สามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้เป็นครั้งแรกแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ยังเปิดให้ลงคะแนนเสียงได้ถึงเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเป็นครั้งแรก และยังมีการใส่ชื่อพรรคการเมืองลงไปบนบัตรเลือกตั้งเป็นครั้งแรกซึ่งแต่ก่อนมีแค่เพียงชื่อผู้สมัครเท่านั้น

Advertisement

นายกรัฐมนตรี แฮโรล์ด วิลสัน (Harold Wilson) ที่ดำรงตำแหน่งมา 6 ปี ต้องเจอมรสุมในช่วง ค.ศ. 1967 ที่ระบบเศรษฐกิจมีปัญหาหนักจนต้องดำเนินการลดค่าเงินปอนด์ รวมถึงปัญหาถูกประธานาธิบดีฝรั่งเศส ชาร์ลส เดอ โกล (Charles de Gaulle) ปฏิเสธเป็นครั้งที่ 2 ในการยินยอมให้สหราชอาณาจักรเข้าร่วมตลาดการค้าร่วมแห่งยุโรป (Common Market) ที่ภายหลังจะพัฒนาเป็นสหภาพยุโรป

แต่หลังเข้าสู่ ค.ศ. 1969 เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาได้ดีขึ้นอันเป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประสบผลสำเร็จจนสามารถสร้างรายได้เข้ากระเป๋าของประชาชน และต่อมา ในการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1970 ผลการเลือกตั้งก็เป็นที่น่าพอใจของพรรคแรงงาน และแฮโรล์ด วิลสัน รัฐบาลพรรคแรงงานจึงค่อนข้างได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากผลสำรวจหลายสำนัก

แฮโรล์ด วิลสัน จึงตัดสินใจจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด โดยกำหนดวันเลือกตั้งตรงกับวันที่ 18 มิถุนายน ซึ่ง แฮโรล์ด วิลสัน คาดหวังว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อช่วงชิงโอกาสอันสุกงอมที่รัฐบาลและพรรคแรงงานกำลังได้รับความนิยม การเลือกตั้งที่ถูกวางไว้ในเดือนมิถุนายนได้สร้างความประหลาดใจให้พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่ไม่น้อย เพราะพรรคอนุรักษ์นิยมคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนตุลาคม แต่พรรคแรงงานกลับเจอมรสุมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง

ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ค.ศ. 1970 ที่ประเทศเม็กซิโก มีการคาดการณ์ว่าฟุตบอลโลกจะดึงให้ประชาชนมีความฮึกเหิมและอาจส่งผลต่อรัฐบาลพรรคแรงงาน ซึ่งเมื่อการเลือกตั้งครั้งก่อนใน ค.ศ. 1966 ก็มีการพูดทีเล่นทีจริงว่าพรรคแรงงานชนะการเลือกตั้งเพราะนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษสามารถคว้าแชมป์โลกได้ด้วยการชนะเยอรมนีตะวันตก 4-2 ประตู เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรก และครั้งเดียวของอังกฤษมาจนถึงวันนี้

แต่การณ์กลับกลายว่า อังกฤษพ่ายแพ้ต่อเยอรมนีตะวันตกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยผล 3-2 ประตู ซึ่งเหมือนถูกเยอรมนีแก้แค้นอย่างน่าเจ็บใจที่สุด อังกฤษที่ขึ้นนำก่อน 2-0 แต่กลับเสีย 3 ประตูในช่วง 20 นาทีในช่วงครึ่งหลังและช่วงต่อเวลาพิเศษ นั่นทำให้ประชาชนรู้สึกเสื่อมเสียเกีรยติยศและรู้สึกผิดหวัง นอกจากนี้ เพียงสามวันก่อนวันเลือกตั้งได้มีการปล่อยข้อมูลหลายอย่างออกมา เช่น ตัวเลขขาดดุลการค้ากว่า 31 ล้านปอนด์ภายในระยะเวลาแค่ 9 เดือน และตัวเลขอัตราการว่างงานที่สูงที่สุดในรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ ค.ศ. 1940 ทั้งหลายนี้จึงถูกมองว่ามีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้ง

Gerhard Mueller (ขวา) กองหน้าทีมเยอรมนีตะวันตก ยิงบอลเข้าประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ ผ่านผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษคือ Peter Bonetti (ซ้าย) ในการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1970 (Photo by STAFF / AFP)

สำหรับการออกพระราชบัญญัติผู้แทนประชาชน ค.ศ. 1969 (Representation of the People Act 1969) เป็นพระราชบัญญัติของรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักรที่อนุญาตให้ขยายสิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกจาก 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มาเป็น 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในการเลือกตั้ง ค.ศ. 1970 จึงมีจำนวนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงทั้งหมด 39,398,518 คน โดยเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1.1 ล้านคน เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อ ค.ศ. 1966 คนรุ่นใหม่จำนวนมากกว่า 3 ล้านคน ในช่วงอายุ 18-21 ปี ซึ่งมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นครั้งแรกคิดว่าประเทศภายใต้รัฐบาลพรรคแรงงานได้ดำเนินนโยบายรัดเข็มขัดมากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องภาษี นั่นจึงส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกพรรคแรงงานให้เป็นรัฐบาลต่อ

เมื่อถึงวันเลือกตั้ง มีประชาชนมาลงคะแนนเสียงทั้งหมด 28,345,643 คนคิดเป็น 71.95% ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด โดยผลปรากฏว่า พรรคอนุรักษ์นิยมได้จำนวนเสียงทั้งหมด 13,145,123 เสียง ได้เก้าอี้สภาสามัญ 330 ที่นั่ง ขณะที่พรรคแรงงานได้ 12,208,758 เสียง ได้เก้าอี้สภาสามัญ 288 ที่นั่ง

ในการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้านั้น พรรคแรงงานได้จำนวนสมาชิกสภาสามัญถึง 364 ที่นั่ง ขณะที่พรรคแรงงานได้เพียง 253 ที่นั่ง แม้เปอร์เซนต์จำนวนที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้จะแกว่งอยู่ที่ประมาณ 4% แต่ถือว่าผลการเลือกตั้งก็พลิกโผและสร้างความประหลาดใจให้หลายฝ่าย เพราะผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งต่างแสดงให้เห็นว่า แฮโรล์ด วิลสัน กับพรรคแรงงานมีคะแนนนำและคาดว่าจะได้รับเลือกอีกสมัยอย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้ว เอ็ดเวิร์ด ฮีธ (Edward Heath) ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมก็ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร โดยมีการคาดการณ์ว่าประชาชนไม่เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคแรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรคแรงงาน ซึ่งคาดว่าหลายคนไม่ประสงค์ลงคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้ 


อ้างอิง : 

The World Cup defeat that lost an election, from www.theguardian.com/football/blog/2010/apr/21/world-cup-1970-harold-wilson

BBC.  (2019).  1970: Conservative victory in first teen election, from news.bbc.co.uk/onthisday/hi/dates/stories/march/13/newsid_2826000/2826787.stm

________.  (2019).  1970: Heath’s surprise victory, from news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/politics/vote_2005/basics/4393297.stm

________.  (2019).  18 June 1970, from www.bbc.co.uk/news/special/politics97/background/pastelec/ge70.shtml#campaign

Wikipedia.  (2019).  1970 United Kingdom general election, from en.wikipedia.org/wiki/1970_United_Kingdom_general_election#cite_note-RoseTimes-1


แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาล่าสุดเมื่อ 14 มีนาคม 2562