8 สินค้าที่เคยปังแต่กำลังจะหายไปในยุค New Normal

เผยแพร่	วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ.2563

ทุกครั้งที่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ย่อมมีบางสิ่งที่ต้องถูกกลืนหายไปท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ หากไม่สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมความต้องการของผู้คนได้อย่างตรงใจ หรือเป็นสิ่งที่เก่าแก่ล้าสมัยไม่อยู่ในกระแสนิยม ซึ่งมีหลายสิ่งที่เราอาจนึกไม่ถึง ทั้งๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีตัวตนเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจไป จนถึงกับมีความจำเป็นต่อชีวิตจนขาดไม่ได้ แต่พอเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงกลับค่อยๆ เลือนหาย จนกลายเป็นลืมไปแล้วว่าเคยมี ซึ่งจากนี้เป็น 8 สินค้าที่กำลังจะเลือนหายไปในยุค New Normal ที่หลายคนอาจจะไม่รู้ถึงการเลือนหายไปของมัน

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook : Bangkok Bank SME

1. อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล สัญญาณที่สามารถสังเกตได้ว่าอะไรกำลังจะหายไปจากชีวิตของผู้คนนั้น สามารถสังเกตได้จากราคา จากที่เคยเปิดตัวสูงจนกลายเป็นลดแลกแจกแถมในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น External drive, Flash Drive, CD/DVD ที่เคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอดีต ได้ถูก Disrupt ให้หายไปจากวิถีของคนยุค new normal จากการเข้ามาแทนที่ของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ โดยไม่ต้องพกพา ไม่ต้องกลัวพัง หรือข้อมูลสูญหายและสามารถขยายพื้นที่เก็บได้อย่างไม่จำกัด อย่าง cloud storage ที่กลายเป็นตัวเลือกที่คนยุคนี้นิยมใช้กันมากขึ้นไปแล้วเรียบร้อย

2. กล้องดิจิตอล/Compact มีความเป็นไปได้อย่างสูงในอีกไม่เกิด 5-6 ปีข้างหน้า จากการ Disrupt ของกล้องมือถือ ที่ทำให้สามารถสร้างภาพถ่ายให้ออกมาสวยสดได้เหมือนกล้องมือโปร จากการพัฒนาคุณภาพกล้องมือถือให้สูงขึ้น มีลูกเล่นหลากหลายและหลายค่ายได้เสริมความสามารถของกล้องหลังให้เทียบเท่ากับการใช้กล้อง DSLR แบบมือโปร ซึ่งมีการคาดการณ์ว่านับจากนี้ความนิยมของผู้คนที่จะบันทึกรูปภาพหรือสิ่งต่างๆ ด้วยกล้องดิจิทัลในแบบมือสมัครเล่นจะลดลงไป แต่จะยังคงเหลือไว้สำหรับกล้อง DSLR แบบมือโปร

3. เงินสด การพกพาเงินสดติดตัวเริ่มลดลงมานับตั้งแต่มีบัตรเดบิต/เครดิตที่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้สะดวกง่ายดายกว่า และกำลังจะลดการพกพาติดตัวลงไปอีกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ทำให้ผู้คนเลี่ยงการติดเชื้อจากการสัมผัสเงิน มาเป็นการใช้ระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์แทน จนกลายเป็นพฤติกรรมความเคยชินถึงขั้นลืมพกกระเป๋าสตางค์ออกจากบ้าน เพราะใช้การสั่งจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือจนเคยชิน

4. ตลาดนัดเสื้อผ้าแฟชั่น “เดี๋ยวนี้ใครเขาออกไปซื้อเสื้อผ้ากัน เขาใช้ช้อป F มาจาก Live และตลาดออนไลน์กันแล้วทั้งนั้น” นี่เป็นคำท้วงติง ที่จะได้ยินได้ฟังบ่อยเวลามีใครมาบ่นว่าอยากไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้า ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดการ Disrupt จากตลาด E-commerce ที่เติบโตขึ้นทุกวัน ทำให้หน้าร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นเริ่มเงียบเหงาและยอดขายตกลงไปให้กับตลาดออนไลน์ ด้วยผู้คนเริ่มคุ้นชินกับการช้อปปิ้งออนไลน์ที่สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยปลายนิ้ว และพยายามเลี่ยงที่จะออกจากบ้านไปเผชิญกับเชื้อโรคในที่สาธารณะ เลี่ยงสภาพอากาศร้อน รถติด ไปจนถึงการเลือกซื้อหาลำบาก จากการที่พ่อค้าแม่ค้าหน้าร้านไม่ให้รายละเอียดได้ครบเหมือนการเข้ามาซื้อขายในตลาดออนไลน์ ที่บอกไซส์ รอบอก รอบเอว ความยาว ความกว้างบ่า สีและรุ่นครบกว่า และเข้าถึงง่าย แถมมีโปรโมชั่นเด็ดโดนใจให้ F มากกว่านั่นเอง

5. บัตรเครดิต เดบิต บัตรเอทีเอ็ม ปัจจุบันธุรกรรมการเงินออนลน์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว ทำให้สามารถกดเงินสดออกมาได้โดยไม่ต้องใช้บัตรและการใช้บริการทางการเงินผ่าน E-Wallet, สแกนจ่ายโดย QR Code, Internet banking ที่ทำให้การหยิบจับเงินสดลดลง อันเป็นผลให้อัตราการใช้บัตรต่างๆ เหล่านี้ลดลงไปด้วย ซึ่งคาดว่าต่อไปในยุค New normal ถ้ามีระบบการเข้ารหัสรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มได้อย่างรัดกุมปลอดภัย ยากต่อการถูกเจาะฐานข้อมูล การถือบัตรพลาสติกก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องมีอีกเลย เพราะทุกวันนี้มีก็ไม่ค่อยได้ใช้ แค่เอาติดไว้ในกระเป๋าสตางค์เพียงเท่านั้น ด้วยสามารถจัดการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ได้ง่ายบนระบบออนไลน์เพียงไม่กี่คลิ๊ก และการใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าและบริการออนไลน์นั้นก็ทำได้ง่ายเพียงแค่มีเลขบัตร รหัสความปลอดภัย และวันเดือนที่ที่หมดอายุก็จบการซื้อ-ขายได้แล้ว

6. กระเป๋าสตางค์ สิ่งจำเป็นที่ต้องมีพกติดตัวทุกคนกำลังจะหายไป ถูกแทนที่ด้วยการเงินดิจิทัล ในอนาคตอีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า โลกจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดและเทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นต้องพกเงินสดและบัตรต่างๆ ติดตัว กระเป๋าสตางค์ก็จะหายตายจากตามไปด้วยเช่นกัน

7. ธุรกิจร้านหนังสือ แม้หนังสือแบบเล่มจะคลาสสิก แต่ปัจจุบันมี E-book หนังสือแบบกระดาษ และธุรกิจร้านหนังสืออาจโดนลดบทบาทลงมากยุคที่ใครๆ ก็เป็นนักเขียน นักคิด นักข่าว ได้บนโลกออนไลน์ ด้วยมีพื้นที่ให้สามารถเผยแพร่งานเขียนแบบสามารถสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นได้ด้วยบนพื้นที่ให้บริการฟรีที่มีอยู่มากมาย เช่น Blockdit, Blogger หรือ wordpress รวมไปถึงพื้นที่โซเชียลต่างๆ ที่ทำให้ธุรกิจร้านหนังสือ หรือแม้แต่หนังสือแบบกระดาษถูกลดบทบาทความสำคัญลงไปและอาจหายไปในไม่ช้า

8. ไม้ม็อบถูพื้น/ไม้กวาดธรรมดา กำลังถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ดูดฝุ่นและทำความสะอาดบ้านขนาดเล็ก และไม้ม็อบที่มาพร้อมกับลูกเล่นพิเศษ เช่นมาพร้อมกับถังที่สามารถบิดซับน้ำได้โดยไม่ต้องก้มลงไปซัก บิด ให้สกปรกมือ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากครัวเรือนไทย จนอาจำทำให้ไม้กวาดหรือไม้ถูกพื้นแบบธรรมดาดั้งเดิมที่เคยใช้กันมาในอดีต ต้องปรับโฉมใหม่เป็นอะไรที่ Advance ขึ้นหรือหายไป

อาจยังมีหลายสิ่งอย่างที่ถูกลดบทบาทลง อันสืบเนื่องจากพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนแปลง การเร่งเร้าของเทคโนโลยี และสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้แม้จะไม่ถึงเพียงหยิบยกมาเทียบเคียงให้เห็นว่า ความเปลี่ยนแปลงในสังคมเกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ธุรกิจจะหยุดอยู่กับสิ่งเดิมๆ แต่ต้องหาประสบการณ์ใหม่ การเรียนรู้ใหม่ และคิดใหม่อยู่เสมอ เพื่อก้าวตามให้ทัน