| เผยแพร่ |
|---|
เคยเป็นมั้ย ? …ในตอนเช้าเราไม่รู้ว่าจะตื่นมาทำไม ชีวิตขาดเป้าหมายหลัก ขาดแรงจูงใจ หรือแม้แต่ไม่อยากทำอะไร แค่อยากนอนนิ่งอยู่บนเตียงแล้วหลับอีกสักตื่น ถ้าคุณกำลังประสบกับอารมณ์และความรู้สึกแบบนี้อยู่ ก็อย่าเพิ่มไปวิตกกังวลว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า หรืออะไรที่แย่ๆ ไปกว่านั้น ให้ลองคิดดูก่อนว่าทำไมถึงขี้เกียจลุกขึ้นไปทำงาน ไปทำหน้าที่ ที่ควรทำ เพราะไม่แน่ สิ่งที่ปลุกคุณทุกเช้าให้กระตือรือร้นอยากตื่นมาทุกวันอาจเป็นเพียงสิ่งที่เรียกว่า ‘เป้าหมายของชีวิต’
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook : Bangkok Bank SME
อะไรคือ เป้าหมายของชีวิต …
คำถามบ้านๆ แต่ตอบยาก หากคนเรามีค่าเฉลี่ยอายุในปัจจุบันอยู่ราว 6.6 แสนชั่วโมง 4 แสนกว่าชั่วโมงถูกใช้ไปกับการเรียน การทำงาน การกิน และการนอน ทำให้เหลือเวลาเพียง 2 แสนชั่วโมงในการใช้ชีวิตช่วงชีวิตในวัยปัจฉิมที่ร่างกายร่วงโรยตามการใช้งาน และเสีย 3 ใน 4 ส่วนของเวลาชีวิตก่อนหน้านี้ไปเปล่าๆ ให้กับสิ่งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘ทำไปทำไม’ อย่างนั้นหรือ
ตั้งคำถามใหม่…ชีวิตเราต้องการอะไร อยากทำอะไร และเป็นคนแบบไหน
ถ้าสิ่งที่ต้องการในชีวิต คือ ‘ความสุข’ อยากทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำ อยากสร้างหลักประกันชีวิตที่ดีต่อตนเองและคนที่รัก อยากเป็นคนที่ได้รับการยกย่อง สรรเสริญ อยากประสบความสำเร็จในเรื่องที่ตั้งใจไว้ และอีกหลายๆ ความอยากที่คนเราพอจะนึกถึงได้ ซึ่งความอยากในชีวิตปกติเป็นเรื่องดี เท่ากับว่าชีวิตคุณได้กำหนดเป้าหมายไว้แล้ว และรู้แล้วว่าเราตื่นมาทุกเช้าจะต้องทำอะไร งานในวันนี้ของเราคืออะไร ทางเดินทางชีวิตจะสว่างขึ้น บางคนบอกว่านี่คือการ ‘รู้แจ้ง’ อย่างหนึ่ง แต่อีกนัยหนึ่งเข้าใจว่าได้เจอ ‘ประตู’ แล้ว ที่เหลือคือหากุญแจไขเข้าไป
ในที่นี้เรามี ‘กุญแจ’ ดอกหนึ่ง ไม่แน่ คุณอาจจะใช้มันไขประตูบานนั้นได้
‘อิคิไก ความหมายของการมีชีวิต’ เป็นหนังสือน่าอ่าน เล่มขนาดเล็กที่ใช้เวลาอ่านเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขียนโดย เคน โมงิ นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น แปลโดย คุณวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ โดยเนื้อหาได้ถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น ซึ่งในภาษาญี่ปุ่น ‘อิคิ’ แปลว่า ชีวิต ส่วน ‘ไก’ แปลว่าเหตุผล
อีกนัยหนึ่งอาจสรุปความหมายได้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผลที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งการทำเรื่องทั่วไป จนไปถึงการทำเป้าหมายใหญ่ๆ ให้สำเร็จ ภายใต้เสาหลัก 5 ประการของ ‘อิคิไก’ คือ
1. เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ตื่นเช้า ทำทีละน้อย ค่อยๆ พัฒนา มีความต่อเนื่อง
2. ปลดปล่อยตัวเอง ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ เมื่อไม่ปิดกั้นก็จะเจอโลกที่กว้างขึ้น
3. สอดคล้องและยั่งยืน การสอดประสานชีวิตในช่วงเวลาได้อย่างเหมาะสมและสมดุล
4. มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ไม่จำกัดความสุขที่ขนาด บ่อยครั้งเรื่องเล็กๆ ก็สุขได้
5. รู้ตัวตน ตรงนี้ ตอนนี้ การยอมรับตัวตนในสิ่งที่เป็น คล้ายฝึกสติ ไม่รีบตัดสิน เฝ้าติดตามดู
ส่วนตัวชอบความเรียบง่ายของวิธีคิดนี้ โดยในบทสุดท้ายระบุไว้ในว่า ชีวิตคือการวิวัฒนาการ ไม่ใช่การปฏิวัติ บ่อยครั้งที่ภาพลวงตานำไปสู่การปฏิวัติชีวิตในแบบที่ถูกซัดพาด้วยหลักการที่ค้นพบใหม่ๆ ความคิดใหม่ และการกระทำใหม่ ซึ่งก็อาจจะถูกหรือเตลิดไปเลยในที่สุด แต่หากใช้ชีวิตแบบวิวัฒนาการแม้จะเนิบช้า แต่มั่นคง รู้เป้าหมาย ค่อยไป และสงบเสงี่ยมซึ่งเป็นหลักที่ยืนยาวกว่า
ปรัชญา?… ก็อาจจะใช่ มีกลิ่นความเป็นเซนที่ฟุ้งกระจายในทุกตัวอักษร เพียงแต่อ่านง่ายกว่า ทำใจง่ายกว่าหลักการอธิบายแบบเซนมากมายนัก ขอไม่เล่าทั้งหมดในหนังสือ อยากให้ไปหาอ่านและไตร่ตรองด้วยตัวเอง และไม่ต้องรีบอ่าน ค่อยๆ อ่าน ค่อยคิดทีละบรรทัด
อยากที่เคยบอก …ไม่แน่ว่าจะเจอกุญแจที่สามารถไขประตูบานนั้นของคุณได้หรือไม่ อย่าคาดหวัง เพราะ ‘อิคิไก’ เหตุผลของชีวิต อาจต้องใช้ความต่อเนื่องและรอคอย
คลิกอ่านเพิ่มเติม
‘นิสัยรักการอ่าน’ ทำให้คุณประสบความสำเร็จ
‘Forrest Gump’ กับเนื้อเพลง Blowin in the Wind
Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิก หรือสายด่วน 1333
