จากรายงานของเอเอฟพี นักโบราณคดีได้พบสุสานขนาดใหญ่ 2 แห่งใกล้กับกรุงเอเธนส์ พบมีโครงกระดูกมนุษย์ราว 80 ราย 36 รายอยู่ในสภาพถูกล่ามด้วยโซ่ โดยคาดกันว่า เจ้าของโครงกระดูกเหล่านี้อาจเป็นสมุนของไซลอน (Cylon of Athens) เผด็จการในยุคโบราณ

สเตลลา ไครซูลากี (Stella Chryssoulaki) ผู้อำนวยการสำนักงานโบราณคดีภูมิภาคได้ทำการแถลงข่าวการค้นพบดังกล่าวที่สำนักงานคณะกรรมการโบราณคดีกลาง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 เมษายน)

นอกจากโครงกระดูกแล้วนักโบราณคดียังได้พบแจกันขนาดเล็ก ช่วยให้สามารถระบุอายุของสุสานได้ว่าน่าจะอยู่ในช่วง 675-650 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ภูมิภาคแห่งนี้กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติการณ์ทางการเมือง

นักโบราณคดีพบว่า ฟันของโครงกระดูกเหล่านี้ยังคงอยู่ในสภาพดี ซึ่งช่วยบอกได้ว่า เจ้าของร่างน่าจะมีสุขภาพดีและยังอยู่ในวัยหนุ่ม ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับทฤษฎีที่ว่า โครงกระดูกเหล่านี้น่าจะเป็นของสมุนของไซลอน ชนชั้นสูงผู้พยายามก่อรัฐประหารแต่ต้องล้มเหลวในช่วงศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล ตามบันทึกของสองนักประวัติศาสตร์ เฮโรโดตุส (Herodotus) และธูซิดิเดส (Thucydides)

ไซลอนเป็นอดีตแชมป์โอลิมปิกซึ่งหวังก่อรัฐประหารแล้วปกครองเอเธนส์ด้วยระบอบเผด็จการ แต่ถูกชาวเอเธนส์ต่อต้าน ทำให้เขาและพวกต้องหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในอโครโพลิส (Acropolis) ป้อมโบราณซึ่งกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปัจจุบัน

กลุ่มกบฏกลุ่มนี้ยอมมอบตัวหลังได้รับการยืนยันว่าพวกเขาจะได้รับการไว้ชีวิต แต่เมกาคลีส (Megacles) จากตระกูลทรงอิทธิพลอย่าง อัล์กเมโอนิด (Alcmaeonid) ได้สังหารหมู่ผู้ก่อการทั้งหมด ซึ่งผลจากการกระทำดังกล่าว ทำให้เขาและตระกูลถูกสาบส่งจากชาวเอเธนส์