ผู้นำกลุ่มเคร่งศาสนาในอินโดฯ ถูกเล่นงานด้วยกม.คุมภาพโป๊ที่ตัวเองสนับสนุนเสียเอง

ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2017 ฮาบิบ ไรซีก ขณะเดินทางมาถึงศาลในกรุงจาการ์ตา เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีของ บาสุกี ทจาฮาจา ปุร์นามา ผู้ว่าฯ กรุงจาการ์ตา ที่ถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นคัมภีร์อัลกุรอาน (AFP PHOTO / POOL / RAISAN AL FARISI)

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 พฤษภาคม) ทางการอินโดนีเซียเผยว่า ฮาบิบ ไรซีก (Habib Rizieq) แกนนำกลุ่มแนวหน้าผู้ปกป้องอิสลาม (Islamic Defenders Front) องค์กรชาวมุสลิมเคร่งศาสนา ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดตามกฎหมายควบคุมการเผยแพร่สื่อลามก หลังมีการเผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็นข้อความสนทนาระหว่างเขากับหญิงอีกรายที่มิใช่ภรรยา ซึ่งมีภาพและเนื้อหาสื่อไปในทางลามกอนาจาร

“อาชญากรรมหลักในกรณีนี้ก็คือการมีส่วนร่วม และการส่งต่อเนื้อหาที่เข้าข่ายลามกอนาจาร” อาร์โก ยูโวโน (Argo Yuwono) โฆษกสำนักงานตำรวจในกรุงจาการ์ตากล่าวหลังยืนยันว่า ไรซีก เป็นผู้ต้องสงสัยในการกระทำความผิดดังกล่าวจริง ทั้งนี้จากรายงานของรอยเตอร์ส

Advertisement

ด้าน ซูกิตโม อัตโม พาวิโร (Sugitmo Atmo Pawiro) ทนายความของไรซีก ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา และอ้างว่า หลักฐานที่ใช้ปรักปรำลูกความของเขาเป็นหลักฐานปลอมที่ผู้สนับสนุนของ บาสุกี ทจาฮาจา ปุร์นามา (Basuki Tjahaja Purnama) ชาวคริสต์เชื้อสายจีน ผู้ว่าฯ จาการ์ตา ทำขึ้น

ทั้งนี้ ปุร์นามา เพิ่งถูกศาลสั่งลงโทษจำคุกฐานดูหมิ่นคัมภีร์อัลกุรอานไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้น ปุร์นามา ก็ตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มมุสลิมสายแข็งมานานต่อเนื่องหลายเดือน

กิง กินันจา (Ging Ginanjar) จากบีบีซี อินโดนีเซีย กล่าวว่า คดีนี้ถูกมองจากหลายฝ่ายว่าเป็นตัวอย่างของความเสแสร้งอย่างที่สุด เมื่อ ไรซีกคือผู้นำของกลุ่มที่มีเป้าหมายหลักอยู่ที่การต่อต้านการประพฤติสำส่อนทางเพศ การค้าประเวณี และการดื่มสุรา แต่ผู้นำของพวกเขากลับกลายเป็นผู้ถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายที่พวกเขาสนับสนุนเสียเอง

ด้าน นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า ไรซีกได้หลบหนีไปยังซาอุดิอาระเบียเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวเขาไปเป็นพยานในคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดตามกฎหมายควบคุมสื่อลามก ก่อนที่จะเปลี่ยนสถานะให้เขากลายมาเป็นผู้ต้องสงสัย

ส่วนกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มเคร่งศาสนามาโดยตลอด ก็ได้ออกมาแสดงความกังวลกับการดำเนินคดีกับไรซีก เมื่อรัฐเพิกเฉยกับอาชกรรมที่ร้ายแรงกว่า แล้วหันมาเล่นงานเขาด้วยความผิดทางเพศ

“แน่นอนว่านี่อาจจะทำลายความน่าเชื่อถือในฐานะผู้นำของไรซีก” อุสมัน ฮามิด (Usman Hamid) ผอ.องค์การนิรโทษกรรมสากลในอินโดนีเซียกล่าว “แต่พวกเขาควรที่จะมุ่งเป้าไปที่รากปัญหาของความสุดโต่งมากกว่า”