เผยแพร่ |
---|
กรมการพัฒนาชุมชนจับมือสภาสตรีฯลงพื้นที่ต่อเนื่อง เยือนนครพนมมอบถุงยังชีพ 300 ชุดบรรเทาทุกข์โควิด-19 หนุนปลูกพืชผักสวนครัวสู้ภัยไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ชื่นชมแคมเปญ “ชาวนครพนมภูมิใจ สวมใส่ผ้าไทยทุกวัน” ขานรับมติ ครม.ร่วมสวมใส่ผ้าไทยสร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง
วันนี้ (24 มิ.ย. 63) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพจำนวน 300 ชุด แก่พี่น้องประชาชนชาวอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสามารถ สุวรรณมณี นายอำเภอธาตุพนม และประชาชน ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรม ณ หอประชุมอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่ากรมการพัฒนาชุมชนได้ร่วมมือกับสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดทำโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมช่วยผ่อนคลายความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขอขอบคุณชาวจังหวัดนครพนม ที่ร่วมมือร่วมใจกันปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ในท่ามกลางวิกฤตินี้ ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนรณรงค์ทั่วประเทศเพื่อปลูกผักสวนครัวให้ครบทุกครัวเรือนตามแผนปฏิบัติการ 90 วัน ที่เริ่มมาตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 ขณะนี้คืบหน้ากว่า 94 % แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าภายใน 30 มิถุนายน 2563 นี้ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศจะร่วมปลูกผักสวนครัวครบ 100 %
“ในสถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้ ต้องขอชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดและชาวนครพนมที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมให้ทุกคนสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับครอบครัวและให้กับชุมชน รวมถึงยังมีประโยชน์ในเรื่องสุขภาพอนามัยได้กินผักที่ปลอดภัย ซึ่งจังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่ร่วมปลูกผักได้ถึงได้ 96.4 % แล้ว และเมื่อปลูกครบ 90 วัน ก็ขอให้ปลูกต่อไปเรื่อยๆกับ โครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเองในพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งในอนาคตสามารถพัฒนาเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือเป็นของฝากได้อีกด้วย”
นอกจากนี้ขอให้ร่วมมือช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก ด้วยการลดขยะเพื่อลดโลกร้อน ซึ่งพวกเราทุกคนสามารถช่วยกันได้ด้วยการลดใช้ถุงพลาสติก และช่วยกันคัดแยกขยะ โดยการนำเอาถุงผ้าที่ได้รับมอบในวันนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะจะช่วยรักษาให้โลกของเราให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดี
“ผมทราบเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งว่า ที่นครพนมมีแคมเปญ “ชาวนครพนมภูมิใจ สวมใส่ผ้าไทยทุกวัน” ขานรับมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ร่วมกันสร้างค่านิยมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าทอพื้นถิ่นซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทย เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีผ้าที่สวยงามมาก และเป็นจังหวัดที่พลิกฟื้นให้ผ้าไทยมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ การได้มาสัมผัสด้วยตนเองในวันนี้ยิ่งรู้สึกชื่นชม ขอให้ทุกคนร่วมกันรักษาและอนุรักษ์ช่วยกันสวมใส่ผ้าไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทย การกระจายรายได้จากผ้าไทยนั้น เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชนของนครพนมได้เป็นอย่างดี” นายสุทธิพงษ์กล่าว
ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวว่า สมาคมสตรีแห่งชาติฯ ได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชนจัดทำโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน”ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2563 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) โดยได้ร่วมกันจัดถุงยังชีพเพื่อนำไปมอบให้แก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ รวมไม่น้อยกว่า 5,000 ถุง เป็นการแบ่งบันความสุข บรรเทาความทุกข์ ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางไปมอบถุงยังชีพแล้วหลายจังหวัด อาทิ นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ อุดรธานี หนองคาย สมุทรสาคร ร้อยเอ็ด ชัยนาท รวมทั้งชุมชนในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ชุมชมเคหะห้วยขวาง ชุมชนเขตคลองสามวา ชุมชนวัดโสมมนัส และในพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมกันนี้ขอเป็นกำลังใจให้แก่ทุกท่านและจะยังคงเดินหน้าแบ่งบันความสุข บรรเทาความทุกข์ ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
จากนั้น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และคณะได้เดินทางไปวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร กราบนมัสการพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร กราบสักการะพระธาตุพนม และห่มผ้าพระธาตุพนม ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง ศาลาการเปรียญฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี วัดธาตุประสิทธิ์ ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ชาวชุมชนตำบลนาหว้า จำนวน 200 ชุด โดยมี นายทินกร ขันแก้ว นายอำเภอนาหว้า ให้การต้อนรับ พร้อมเยี่ยมชมผลงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนจากชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 5 ชนเผ่า ของอำเภอนาหว้า และนิทรรศการ “ร้อยหลาก พรรณราย ผ้าไทยนครพนม” 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอท่าอุเทน อำเภอศรีสงคราม อำเภอบ้านแพง และอำเภอนาทม
ในการนี้ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้นำคณะเข้ากราบสักการะองค์พระธาตุประสิทธิ์ และชมภาพพระราชกรณียกิจในการเสด็จฯ ทอดพระเนตรพระกฐินต้นฯ ชมจิตรกรรมฝาพนังพระอุโบสถ วัดธาตุประสิทธิ์ นมัสการเจ้าอาวาสวัดธาตุประสิทธิ์ และเจ้าคณะอำเภอนาวาหว้าจากนั้นได้เยี่ยมชมผลงานและพบปะกลุ่มทอผ้าไหม ณ อาคารศูนย์หัตภกรรม วัดธาตุประสิทธิ์ และเยี่ยมชมผลผลิตโครงการส่งเสริมอาชีพสตรีด้านการนวดแผนไทย อีกด้วย