เผยแพร่ |
---|
แน่นอนว่าไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนทุกคนที่จะอยากทำงานประจำไปจนวันสุดท้ายของชีวิต แต่ในยุคนี้ที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน ความฝันที่จะเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อยก็ดูเหมือนจะยิ่งห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้การวางแผนเกษียณตั้งแต่เริ่มทำงานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนยุคใหม่ แต่จะมีวิธีวางแผนเกษียณยังไง ต้องเก็บเงินเท่าไหร่ถึงจะเกษียณได้ หาคำตอบได้ในบทความนี้!
ทำไมมนุษย์เงินเดือนควรวางแผนเกษียณ?
การวางแผนเกษียณ คือการเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตหลังจากเกษียณอายุจากการทำงาน เมื่อขาดรายได้จากงานประจำ โดยปกติถ้าพูดถึง “การเกษียณ” ภาพจำของใครหลายคนอาจจะมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องไกลตัวเนื่องจากยังอายุน้อย เพราะปกติคนวัยเกษียณก็มักจะอายุ 60 ปีขึ้นไป
แต่ปัจจุบัน “การวางแผนการเกษียณ” นับเป็นเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากต้องการเกษียณเร็วขึ้น ดังนั้นการวางแผนเกษียณเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นจะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนมีเงินสำรอง เพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือปัญหาสุขภาพที่มีค่าใช้จ่ายสูง ให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคงจนวันสุดท้ายของชีวิต แม้ไม่ได้ทำงานประจำอีกต่อไป
เริ่มต้นออมเงินเพื่อวางแผนเกษียณง่ายๆ ฉบับวัยทำงานสร้างตัว
1. เช็กสถานะทางการเงินของตนเอง
ขั้นตอนการวางแผนเกษียณที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราควรทำคือ การเช็กสถานะทางการเงินปัจจุบันของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ รายจ่าย และหนี้สินที่มีอยู่ เนื่องจากการรู้ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ทางการเงินของตนเองอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
2. กำหนดช่วงเวลาที่ต้องการเกษียณ
ขั้นตอนต่อมาคือ การกำหนดช่วงเวลาหรืออายุที่ต้องการจะเกษียณ ข้อนี้นับเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นเหมือนเป้าหมายที่เราต้องไปให้ถึง และเป็นตัวกำหนดว่าเราจะต้องทำงานไปอีกี่ปีถึงจะเกษียณอายุได้
แม้ในอดีตมนุษย์เงินเดือนมักจะนิยมเกษียณในช่วงอายุ 60 ปี แต่ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่หลายคนที่ต้องการเกษียณอายุก่อน 60 ปี เช่น ถ้าปัจจุบันเราอายุ 25 ปี เราคิดว่าจะเกษียณตอน 55 ปี และมีอายุขัยที่ 75 ปี เราจะเหลือเวลาในการทำงานอีก 30 ปี และต้องมีเงินที่เพียงพอในการใช้ชีวิตไปอีก 20 ปีหลังจากที่เกษียณ
3. คำนวณจำนวนเงินที่ต้องใช้ในวัยเกษียณ
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญของการวางแผนเกษียณคือ การคำนวณเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ ทำได้โดยกำหนดรายจ่ายที่ต้องการในแต่ละเดือนหลังเกษียณ เช่น ค่าเช่าบ้าน, ค่าอาหาร, ค่าสาธารณูปโภค, ค่าเดินทาง, ค่าบริการสุขภาพ และอื่นๆ หลังจากนั้นประเมินระยะเวลาที่คาดว่าจะใช้ในชีวิตหลังเกษียณ
จำนวนเงินที่ควรมี = ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณต่อปี*จำนวนปีที่คาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณ
(ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณในแต่ละเดือนควรมีประมาณ 70% ของค่าใช้จ่ายปัจจุบัน หรือปรับสัดส่วนได้ตามต้องการ)
ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันอายุ 25 ปี ต้องการเกษียณ 55 ปี และคาดว่าจะมีอายุไปอีก 20 ปี
ปัจจุบันรายจ่ายต่อเดือนทั้งหมด 25,000 บาท คาดว่าช่วงเกษียณจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ 17,500 บาท หรือ 210,000 ต่อปี
ดังนั้นจะต้องมีเงินเตรียมไว้ 210,000 x 20 = 4,200,000 บาท
ทั้งนี้เงินเก็บหลังเกษียณที่คำนวณได้นั้นยังไม่รวมอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นปีละ 3% และการเผื่อเงินสำรองฉุกเฉิน
4. เริ่มต้นออมเงินก่อนเกษียณ
เมื่อรู้จำนวนเงินที่ต้องเก็บออมไว้เพื่อใช้ในการเกษียณแล้ว อีกวิธีสำหรับการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ คือการเริ่มต้นออมเงิน โดยเริ่มจากการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการใช้ชีวิตปัจจุบัน เช่น ค่าสังสรรค์ ค่าของฟุ่มเฟือย และค่าเข้าสังคม นอกจากนี้ยังควรเลือกวิธีการออมที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของเรา เช่น
- ฝากประจำระยะยาว: เลือกบัญชีฝากประจำที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและมีระยะเวลาฝากนาน เช่น 5-10 ปี ซึ่งจะช่วยให้ได้รับดอกเบี้ยสะสมเพิ่มขึ้น
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD): หากบริษัทที่คุณทำงานมีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ควรมีส่วนร่วมและเพิ่มการสะสมเงินเข้ากองทุนนี้
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): ลงทุนใน RMF ที่มีนโยบายการลงทุนระยะยาว โดยสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
ลงทุนระยะยาว
- กองทุนรวมตราสารหนี้และกองทุนรวมผสม: ลงทุนในกองทุนรวมที่มีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้และสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง
- หุ้นปันผล: ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ประจำและเพิ่มมูลค่าในระยะยาว
- อสังหาริมทรัพย์: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น การซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อปล่อยเช่า เป็นวิธีการสร้างรายได้ประจำที่ดี เนื่องจากมูลค่าอสังหาริมทรัพย์มักจะเพิ่มขึ้นตามเวลา
5. มองหาช่องทางสร้างเงินออมและเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
อีกวิธีที่จะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณคือ การมองหาช่องทางเพิ่มรายได้ด้วยวิธีต่างๆ ที่เหมาะสมกับทักษะและความสนใจของตนเอง เช่น
- งานพาร์ทไทม์หรือฟรีแลนซ์: ทำงานเสริมในเวลาว่าง เช่น การเขียน, การแปล, การออกแบบกราฟิก หรือการให้คำปรึกษา
- การขายของออนไลน์: เปิดร้านค้าออนไลน์ขายสินค้าที่คุณมีความสนใจหรือมีทักษะในการทำ
- การลงทุนในธุรกิจส่วนตัว: หากมีไอเดียธุรกิจที่ดี การเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กสามารถเป็นวิธีสร้างรายได้ที่มีศักยภาพในระยะยาว
เคล็ดลับวางแผนเกษียณให้มีประสิทธิภาพ สไตล์มนุษย์เงินเดือน
- เริ่มวางแผนเกษียณให้เร็วที่สุด
ในช่วงแรกของการทำงานหลายคนอาจละเลยเรื่องวางแผนวัยเกษียณพอรู้ตัวอีกทีก็สายเกินจะแก้เสียแล้ว มนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มทำงานจึงควรเริ่มวางแผนเกษียณให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็ว ยิ่งดี
- รีบออมเงินให้มากขึ้นทุกปี
ควรกำหนดเงินออมในทุกๆ เดือนตามความเหมาะสม และเพิ่มจำนวนเงินออมทุกปีตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยอาจตั้งเป้าหมายการออมเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้ เช่น ออมอย่างน้อย 20% ของรายได้
- ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
ลงทุนในกองทุนรวมที่มีการกระจายการลงทุนหลากหลายโดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และอาจใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar-Cost Averaging) เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
- วางแผนเตรียมรับมือความเสี่ยง
ความเสี่ยงในวัยเกษียณอาจเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบจึงควรวางแผนอย่างถี่ถ้วน เช่น ทำประกันชีวิตและสุขภาพเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงทางการเงิน เตรียมเงินฉุกเฉินให้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงประเมินและปรับแผนการเงินเป็นระยะเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลง