ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศรับรองนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอลกำลังเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก ซึ่งหลายประเทศกำลังจับจ้องและคัดค้านการกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์
ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ลงมติคะแนนเสียง 128 เสียงเรียกร้องให้สหรัฐถอนการรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกมาขู่เรื่องการตัดความช่วยเหลือทางการเงินกับประเทศที่โหวตสนับสนุนข้อมติก็ตาม
ข้อมติดังกล่าวไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายมีประเทศโหวตคัดค้าน 9 ประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐและอิสราเอลขณะที่อีก 35 ประเทศงดออกเสียง และ 21 ประเทศไม่มาปรากฏตัวเพื่อร่วมลงคะแนนเสียง ด้านสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ที่เหลืออีก 4 ชาติคือจีน ฝรั่งเศส รัสเซียและอังกฤษ ต่างโหวตสนับสนุน รวมถึงชาติพันธมิตรของสหรัฐในโลกมุสลิมด้วย
ภายใต้ข้อมติดังกล่าวระบุว่าการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสถานะของนครเยรูซาเลมต้องถือเป็นโมฆะและถูกยกเลิก โดยก่อนหน้าการลงคะแนนเสียงรัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์ได้ขอร้องให้ชาติสมาชิกยูเอ็นปฏิเสธการขู่กรรโชกของสหรัฐ
นักวิเคราะห์มองว่าผลการลงคะแนนเสียงทำให้เห็นว่าสหรัฐกำลังถูกโลกโดดเดี่ยว ในความพยายามอย่างไม่สนใจเสียงคัดค้านที่จะรับรองกรุงเยรูซเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล