
ผู้เขียน | พล อิฏฐารมณ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
การชูนิ้วกลางโดยกำนิ้วที่เหลือเป็นสัญลักษณ์แทนอวัยวะเพศชายซึ่งเป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน รวมถึงในประเทศไทยซึ่งรับเอาวัฒนธรรมดังกล่าวมาใช้อย่างแพร่หลายในระยะหลัง แต่สัญลักษณ์นี้ถูกใช้มานานแล้วในพื้นที่อื่นๆ ของโลก
“มันถือเป็นหนึ่งในท่าทางแห่งการดูหมิ่นที่เก่าแก่ที่สุด” เดสมอนด์ มอร์ริส นักมานุษยวิทยากล่าว
“นิ้วกลางคือองคชาติ และนิ้วที่งอทั้งสองด้านคือลูกอัณฑะ การที่คุณทำแบบนี้เป็นการแสดงสัญลักษณ์ขององคชาติต่อผู้อื่น เพื่อสื่อว่า นี่คือองคชาติที่คุณมอบให้กับพวกเขาซึ่งเป็นการแสดงออกที่มีความเก่าแก่มากๆ”
ในสมัยโรมันนิ้วกลางมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “digitus impudicus” หรือนิ้วแห่งความหยาบคาย ไร้ยางอาย โดยมาร์เทียล (Martial) นักประพันธ์ในศตวรรษที่หนึ่งเคยเขียนให้ตัวละครของเขาชูนิ้วกลางใส่หมอมาแล้ว และทาชิตุส (Tacitus) นักประวัติศาสตร์ของโรมันก็เคยบันทึกว่า ชนเผ่าเยอรมันได้ชูนิ้วกลางให้กับทหารโรมันที่กำลังเคลื่อนทัพเช่นกัน
ก่อนหน้านั้นในยุคกรีกเมื่อราวสี่ร้อยปีก่อนคริสตกาล อริสโตฟาเนส (Aristophanes) ได้เขียนบทละครคอมเมดี (Comedy) เรื่อง The Cloulds โดยให้หนึ่งในตัวละครของเขานับจังหวะดนดรีด้วยการใช้นิ้วกลางและอวัยวะเพศของตน
คาดกันว่า การใช้นิ้วกลางได้เริ่มเผยแพร่เข้าสู่ทวีปอเมริกาพร้อมกับผู้อพยพชาวอิตาลี โดยมีบันทึกการใช้นิ้วกลางเก่าแก่ที่สุดย้อนไปถึงปี 1886 เมื่อพิชเชอร์ (มือขว้างเบสบอล) ของทีมบอสตันบีนีตเตอร์ส (Boston Beaneaters) ได้ชูนิ้วกลางขึ้นมาระหว่างการถ่ายรูปหมู่ร่วมกับนิวยอร์กไจแอนท์ส (New York Giant)
อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน นิ้วกลางมิได้สื่อถึงอวัยวะเพศหรือการดูหมิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการต่อต้าน ประท้วง หรือแสดงถึงความตื่นเต้น สะใจ จนทำให้มันแทบไม่เหลือความหมายที่แจ่มชัด และบางคนไม่ถือว่ามันเป็นสิ่งที่หยาบโลนอีกต่อไป ทั้งนี้จากคำกล่าวของ ไอรา รอบบินส์ (Ira Robbins) ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายประจำมหาวิทยาลัยอเมริกันในวอชิงตันดีซี ซึ่งศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ของการแสดงออกของท่าทางกับอาชญวิทยาในทฤษฎีทางกฎหมาย กล่าว
อ้างอิง :
“When did the middle finger become offensive”. BBC. Online. <http://www.bbc.com/news/magazine-16916263>
ปรับปรุงแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อ 30 มีนาคม 2562