ที่มา | ศิลปวัฒนธรรม ฉบับ มีนาคม 2536 |
---|---|
เผยแพร่ |
เป็นปัญหามาช้านานว่าทำไม กระทรวงการป้องกันประเทศของสยามจึงเรียกว่า “กลาโหม” กึ่งเขมร-กึ่งสันสกฤต
คำ กลา (หรือกะลา) เป็นคำเขมร (และทมิฬ) แปลว่า “สถาน”
คำ โหม เป็นสันสกฤตหมายถึงการ “โหมกูณฑ์” หรือ “บูชาไฟ”
ทำไมที่บัญชาการของทหารต้องเรียกว่า “สถานบูชาไฟ” ?
ผมพบคำตอบในหนังสือ Ancient Indian Rituals and Their Social Contents ของ N.N. Bhattacharyya ที่แฉถึงสภาพที่แท้จริงของสังคมอารยันในสมัยพระเวท
ประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาลชาวอารยันในอินเดียเหนือมีวัฒนธรรมที่พอเทียบได้กับวัฒนธรรมของอินเดียนแดงในหนังคาวบอย คำ “สงคราม” ในพระเวทหมายถึง การปล้นวัว ปล้นม้า คล้ายกับการปล้นกันของอินเดียนแดงในอเมริกาเหนือ
นั่นคือ ก่อนจะออกปล้นนั้น พระราชา (แม่ทัพ, ไม่ใช่พระมหากษัตริย์ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้) จะเรียกประชุมชายฉกรรจ์ รอบกองไฟกลางบ้าน เพื่อปรึกษาแผนการรบในวันพรุ่ง พร้อมทั้งให้หมอผี (พราหมณ์) บูชาไฟหาลางว่าทำอย่างไรถึงจะปล้นได้สำเร็จ
นี่แหละคือต้นตอของ “กระทรวงพระกลาโหม” ที่บัญชาการทหารรอบกองไฟกลางบ้าน
ที่อัศจรรย์ยิ่งคือ ชาวสยามได้รักษาคำ “กลาโหม” ไว้ จึงนำมาเทียบกับหลักฐานสมัยพระเวทได้ แต่คำ ๆ นี้สาบสูญจากภาษาในอินเดีย หากจะศึกษาวัฒนธรรมอินเดียให้ครบวงจรแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็จำเป็นจะต้องรับรู้หลักฐานที่ชาวสยามรักษาไว้
หากชาวอินเดียอยากรู้จักตัวเองอย่างแท้จริง ก็เห็นจะต้องมางมหลักฐานในสยามนี้แล