เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 ตุลาคม) รัฐบาลออสเตรียประกาศเตรียมรื้อถอนอาคารซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเผด็จการนาซีทิ้งก่อนก่อสร้างอาคารหลังใหม่ที่ไม่มีจุดยึดโยงกับกลุ่มนาซี หลังอาคารแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญของผู้ศรัทธาในลัทธินีโอนาซีไปแล้ว

รายงานของเอพีกล่าวว่า แผนดังกล่าวยังต้องได้รับการลงมติจากรัฐสภาเสียก่อน ซึ่งโอกาสที่แผนนี้จะผ่านสภามีค่อนข้างสูงด้วยทั้งสองพรรครัฐบาลมีจำนวนที่นั่งเกินกึ่งหนึ่งอยู่แล้ว และพรรคฝ่ายค้านเองก็มีแนวโน้มว่าจะให้การสนับสนุนแผนดังกล่าวเช่นกัน

“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเชิงสถาปัตยกรรมอย่างครอบคลุมถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการยอมรับหรือการสร้างความหมายเชิงสัญลักษณ์ [เชื่อมโยงไปถึงกลุ่มนาซี] กับอาคารแห่งนี้อย่างถาวร” โวล์ฟกัง โซบอตกา (Wolfgang Sobotka) รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกล่าวกับเอพี

รายงานของบีบีซี กล่าวว่า บ้านหลังนี้กลายเป็นข้อพิพาททางกฎหมายระหว่าง เกอร์ลินด์ พอมเมอร์ (Gerlinde Pommer) เจ้าของบ้าน และรัฐบาลออสเตรียมาอย่างยาวนาน ทางรัฐบาลได้เช่าอาคารหลังนี้มาตั้งแต่ปี 1972 เพื่อป้องกันมิให้มีการนำอาคารไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม โดยต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 4,800 ยูโร (ราว 1.86 แสนบาท) ให้กับเจ้าบ้านซึ่งปฏิเสธที่จะขายอาคารหลังนี้มาโดยตลอด

อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวมิได้รับการเห็นชอบอย่างถ้วนหน้า บางฝ่ายมองเห็นคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์ของอาคารดังกล่าวจึงอยากให้เก็บอาคารหลังนี้เอาไว้ เพื่อใช้ประโยชน์เชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านอุดมการณ์นาซี โดยบางส่วนต้องการให้เปลี่ยนเป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัย หรือบ้างก็ต้องการให้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อระลึกถึงการปล่อยปล่อยออสเตรียจากการยึดครองของนาซี

ทั้งนี้ ฮิตเลอร์เกิดที่อาคารหลังนี้เมื่อวันที่ 20 เมษายน 1889 (พ.ศ.2432) ระหว่างที่พ่อแม่ของเขามาเช่าห้องที่ชั้นบนสุดของอาคารเป็นที่พักในชั่วระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์