ขุดพบเหรียญทองคำโบราณล้ำค่า 300 เหรียญ บรรจุอยู่ภายในภาชนะที่เรียกว่า “อัมฟอรา” ภาชนะคล้ายขวดหรือโถที่มีหูจับ 2 ข้าง ซึ่งชาวโรมันโบราณใช้ในการบรรจุของเหลวต่างๆ ตั้งแต่ ไวน์ ไปจนถึงน้ำมันมะกอก สำหรับการขนย้าย จากนั้นจึงแจ้งให้ทีมนักโบราณคดีจากกระทรวงมรดกทางวัฒนธรรมและกิจกรรมของอิตาลีเข้ามาตรวจสอบ

หลังจากทีมเจ้าหน้าที่กระทรวงเข้ามาตรวจสอบขุดค้น จากนั้นนำส่งห้องปฏิบัติการที่เมืองมิลาน เพื่อตรวจวิเคราะห์และดำเนินกระบวน การเพื่ออนุรักษ์ พบว่าเหรียญทองคำดังกล่าวมีอายุราว 1,500 ปี ย้อนกลับไปในยุคที่อิตาลียังคงเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน และเริ่มมีบางส่วนของอาณาจักรเริ่มล่มสลาย แต่ยังไม่รู้รายละเอียดอีกมาก เช่น ทำไมถึงมีการบรรจุเหรียญเหล่านี้ไว้ในอัมฟอรา บรรจุไว้เมื่อใดกันแน่ แล้วทำไมผู้ที่ซุกซ่อนไว้ถึงทิ้งของมีค่าเช่นนี้ไว้ไม่กลับมาเก็บคืนไป เป็นต้น

กรุงโรม เมืองเอกของอาณาจักรโรมันถูกชนเผ่ากอธ บุกปล้นสะดมในปี ค.ศ.410 แล้วถูกปล้นซ้ำอีกครั้งด้วยฝีมือชนเผ่าแวนดัล ในปี ค.ศ.455 ต่อมาในปี ค.ศ.476 อาณาจักรโรมันตะวันตกถึงจุดสิ้นสุดอย่างเป็นทางการ เมื่อ โรมูลุส ออกุสตูลุส จักรพรรดิองค์สุดท้าย สละราชบัลลังก์ หลงเหลือเพียง อาณาจักรโรมันตะวันออก ซึ่งในบางครั้งนักประวัติศาสตร์สมัยใหม่เรียกว่า อาณาจักรไบเซนไทม์ ที่อาศัยกำลังทหารรุกเข้ายึดส่วนใหญ่ของอิตาลีไว้ได้ในรัชสมัยของจักรพรรดิจุสติเนียน แต่ถูกชนเผ่าลอมบาร์ด รุกรานเข้าปล้นสะดมและยึดครองอิตาลีทีละน้อยๆ

ในปี ค.ศ.565 จักรพรรดิจุสติเนียนสิ้นพระชนม์ เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่คร่าชีวิตคนหลายล้านคน ถือเป็นจุดสิ้นสุดจักรวรรดิโรมันในที่สุด

[ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก มติชนออนไลน์]