แอนเดรีย เคา นักบรรพชีววิทยา ประจำพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา โจวานนี คาเปลลินี ในนครโบโลญญา ประเทศอิตาลี แถลงถึงผลการตรวจสอบซากดึกดำบรรพ์ประหลาดที่ได้มาจากตลาดมืดเมื่อปี 2015 ว่า มีลักษณะโดยรวมคล้ายนก ส่วนคอยาวเหมือนหงส์แต่มีครีบ 2 ข้าง คล้ายครีบของตะพาบหรือของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 2 เท้ามีกรงเล็บแหลมคม เมื่อตรวจสอบแล้วเป็นไดโนเสาร์ตระกูล เทโรพ็อด กลุ่มไดโนเสาร์ที่เดิน 2 เท้า ส่วนใหญ่กินเนื้อเป็นอาหาร

เชื่อกันว่าเทโรพ็อดส่วนใหญ่ไม่ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำนานๆ แต่ในขณะที่ไดโนเสาร์ที่ค้นพบใหม่นี้ น่าจะว่ายน้ำได้ด้วยครีบเหมือนพายและมีคอยาวสำหรับไว้สอดส่องมองหาและล่าเหยื่อในน้ำเป็นอาหาร จากการเอกซเรย์แสดงให้เห็นฟันจำนวนหนึ่งและตาข่ายของเนื้อเยื่อประสาทและหลอดเลือดในโพรงจมูกคล้ายกับจระเข้ในปัจจุบันอย่างมาก แสดงให้เห็นว่ามันเป็นสัตว์นักล่าในน้ำ เมื่อขึ้นบกจะเดินด้วย 2 ขา ท่าทางคล้ายเป็ดในปัจจุบัน เมื่ออยู่ในน้ำจะว่ายน้ำโดยใช้ครีบสองข้าง คล้ายกับลักษณะการว่ายของนกแพนกวิน

แอนเดรีย เคา ยอมรับว่า ในตอนแรกคิดว่าซากดังกล่าวถูกทำปลอมขึ้นจากซากไดโนเสาร์หลายชนิดโดยนักปลอมฝีมือดี ทีมวิจัยต้องพิสูจน์โดยใช้อุปกรณ์ตรวจสอบที่มีสมรรถนะสูง โดยเครื่องซินโครตรอนมัลติ-เรโซลูชัน เอกซเรย์ ไมโครโตกราฟี ที่สามารถฉายแสงเอกซเรย์สูง ที่มีพลังสูงกว่าเครื่องเอกซเรย์ในโรงพยาบาลถึง 100 ล้านเท่า แสดงให้เห็นว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์จริง

ซากดึกดำบรรพ์นี้ได้มาจาก อูคา โทลก็อด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์ ชื่อว่าเป็น “สุสานไดโนเสาร์” ตั้งอยู่ทางใต้ของมองโกเลีย เพื่อให้เป็นเกียรติกับฮัลส์ซกา ออสโมลสกานักบรรพชีวินวิทยาชาวโปแลนด์มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับซากไดโนเสาร์จากมองโกเลีย ทีมวิจัยของแอนเดรีย เคา จึงตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้ซากดึกดำบรรพ์ว่า “ฮัลส์ซกา แรปเตอร์ เอสกุยลีเย” (Halszka raptor escuilliei) เรียกสั้นๆ ว่า “ฮัลส์ซกา” ส่วนชื่อสปีชีส์ “เอสกุยลีเย” ตั้งเป็นเกียรติแก่ ฟรองซัวส์ เอสกุยลีเย ซึ่งเป็นผู้ซื้อซากฟอสซิลนี้จากตลาดมืดและจัดส่งกลับคืนให้ประเทศมองโกเลียภายหลังเสร็จสิ้นการศึกษาวิจัยแล้ว

ที่มา : มติชนออนไลน์ ทำความรู้จัก “ฮัลส์ซกา” ไดโนเสาร์สุดพิลึก